รวบแล้ว! 2 หนุ่มล้วงหน้าอกสาวขณะเล่นน้ำสงกรานต์ อ้างเมา

ไหว้สวย! 2 หนุ่มจับหน้าอกสาวขณะเล่นน้ำสงกรานต์ พบเพิ่งสึกมาได้ 5 วัน อ้างเมา เจอโทษหนัก อนาจารผู้อื่นต่อหน้าธารกำนัน คุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท

จากรณีที่นางสาวเอและนางสาวบี อายุ 25 ปี พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งนำคลิปจากโทรศัพท์มือถือเป็นหลักฐานโล่เข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.เมืองสมุทรปราการ ให้ดำเนินคดีกับวัยรุ่นที่ปรากฏในคลิป หลังจากตนและเพื่อนสาวรวม 3 คน ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันไปเล่นสาดน้ำส่งกรานต์ บริเวณถนนแพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ แต่เมื่อถึงบริเวณใกล้กับธนาคารกรุงเทพ มีกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังเล่นน้ำกันอยู่โบกรถให้หยุด ก่อนที่จะเอื้อมมือเข้ามารุมประแป้ง และใช้มือรูปไล้ล้วงเข้าไปในเสื้อ จับหน้าอกของตนเองและเพื่อน โดยไม่แคร์สานตาคนเหตุการณ์

โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ20.00น.วันที่15เม.ย.กระทั่งมีคนนำคลิประหว่างเกิดเหตุไปโพสต์ลงในโซเชียลและมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา14.00น.พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือน ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบรูปพรรณสันฐานวัยรุ่นที่ปรากฏในคลิป กระทั่งทราบว่าคนที่ก่อเหตุนั้นมีบ้านพักอยู่บริเวณถนนท้ายบ้าน อ.เมืองสมุทรปราการ ก่อนจะติดตามตัวนายพงพัฒน์ ประเสริฐ อายุ 24 ปี และนายจุมพล ภูนาสอน อายุ 24 ปี ชายทั้งสองคนที่ก่อเหตุเข้ามาสอบสวนที่สภ.เมืองสมุทรปราการ

นายพงพัฒน์ สารภาพว่า ตนเองและเพื่อนก่อเหตุจริง ก่อนเกิดเหตุตนเองและเพื่อนๆ เดินทางไปเล่นน้ำส่งกรานต์บริเวณถนนแพรกษา ซึ่งระหว่างสนุกสนานกับบรรยากาศจึงพากันดื่มสุราเข้าไปด้วย กระทั่งพบเห็นหญิงสาวผู้เสียหายทั้ง 3 คน ขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายผ่านมาบริเวณจุดที่พวกตนเล่นน้ำ เพื่อนจึงโบกให้หยุดก่อนที่ตนและคนอื่นๆจะฮือเข้าไปรุมประแป้ง แต่ด้วยตนเองเองเมาสุราประกอบกับความคึกคะนองไม่ได้ยั้งคิด จึงเผลอใช้มือไปล้วงจับหน้าอกของหญิงสาว โดยไม่คิดว่าจะมีคนถ่ายคลิปไปลงโซเขียลอย่างไรก็ตามตนเองทั้งสองคนอยากกราบขอโทษกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและฝากให้กับคนอื่นๆไว้เป็นอุทาหรณ์กับคนอื่นๆ

เบื้อต้นตรวจสอบวัติทั้งสองไม่เคยต้องโทษคดีอาญา ส่วนนายพงพัฒน์ ทราบว่า เพิ่งสึกจากการบวชเป็นพระมาได้ 5 วัน ก่อนจะมาเล่นน้ำส่งกรานต์

หลังสอบปากคำเจ้าหน้าที่เตรียมแจ้งข้อหาทั้งสองข้อหากระทำอนาจารกระทำต่อหน้าธารกำนัลมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไ่ม่เกิน 200,000 บาท ส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป