จากกรณี ร.ต.อ.อุบล วงค์คำชัย รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.สังคม รับแจ้งเหตุกำนันตำบลผาตั้งถูกยิงเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 152 หมู่ 6 บ้านดงต้อง ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย ที่เกิดเหตุเป็นที่ทำการกำนันตำบลผาตั้ง เจ้าหน้าที่พบศพนางกรรณิการ์ วงค์ศิริ อายุ 51 ปี เจ้าของบ้านและเป็นกำนันตำบลผาตั้ง ถูกอาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงเข้าที่บริเวณศีรษะ 2 นัด นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องครัว สภาพสวมกางเกงขายาวสีดำ เสื้อแขนยาวสีเลือดหมู กล้องวงจรปิดบันทึกภาพคนร้าย 1 คน ใช้จักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีแดง สวมเสื้อสีดำ ใส่หมวกนิรภัยสีฟ้า
วันที่ 2 ก.พ. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่บ้านที่เกิดเหตุ ที่จัดงานศพกำนันผู้เสียชีวิต บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า ลูกสาวคนโตร้องไห้อย่างหนัก
นายพิเดช วงค์ศิริ อายุ 53 ปี สามีของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ประมาณเดือนธันวาคม 2562 นางกรรณิการ์เป็นตัวแทนชาวบ้านไปเจรจาเรื่องที่ดินกับนายทุนรายหนึ่ง เนื่องจากนายทุนรายนี้ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. กว่า 40 ไร่ ซึ่งที่ดินนั้นคร่อมถนนทางผ่านสาธารณะยาวประมาณ 200-300 เมตร ที่ชาวบ้านใช้สัญจรเข้าสวนไร่มากว่า 15 ปี และมีการปิดถนนไม่ให้ผ่าน
โดยเจรจากันถึง 2 ครั้ง ซึ่งครั้งแรกนายทุนบอกว่า "กำนันไม่ต้องยุ่ง ไม่ใช่เรื่องของกำนัน" ต่อมาในการเจรจาครั้งที่ 2 ช่วงวันที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมา นายทุนก็มีการพูดเหมือนอาฆาตว่า "กำนันเบียดเบียนแต่ผม เดี๋ยวเหอะ ๆ" ซึ่งครั้งนั้นการเจรจาก็ล้มเหลว ชาวบ้านก็ไม่สามารถใช้ทางสัญจรได้
ส่วนอีกประเด็นคือเรื่องการบริหารเงินของวัดแห่งหนึ่งในหมู่บ้าน ที่กำนันมีข้อพิพาทกับชาวอุตรดิตถ์ที่มาอุปถัมภ์วัด โดยเหตุเกิดในปี 2559 เนื่องจากเงินวัดได้เงินกฐิน 285,000 บาท แต่มีเงินจริงแค่ 200,000 บาท ซึ่งกำนันได้ขอให้วัดชี้แจง แต่คนที่อุปถัมภ์วัดก็ไม่ชี้แจง และไปฟ้องว่ากำนันหมิ่นประมาท แต่คดีนี้กำนันก็ได้รับการยกฟ้อง
นายพิเดช ทั้งน้ำตาว่า ตอนเกิดเหตุ ตนออกไปส่งหลานที่บ้านแม่ของตน แต่เมื่อกลับบ้านมาก็พบว่าคนเต็มบ้าน และนางกรรณิการ์ก็ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่ปักใจเชื่อว่าใครเป็นคนก่อเหตุ เพราะตนไม่รู้ว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง ซึ่งตนก็อยากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว
นายจ่อย (นามสมมติ) ชาวบ้านที่เห็นคนร้าย เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 09.00 น. ตนเห็นคนร้ายสวมหมวกไหมพรม สวมหมวกกันน็อก ขี่มอเตอร์ไซค์วนในหมู่บ้าน 3 รอบ และไปจอดที่ร้านน้ำแข็งใสตรงข้ามบ้านกำนัน พูดว่า "น้ำแข็งใส" ท่าทีเหมือนจะซื้อน้ำแข็งใส แต่ไม่ทันซื้อ ก็ขี่มอเตอร์ไซค์ไปจอดหน้าบ้านกำนัน ซึ่งเป็นร้านขายของชำ และเข้าไปแสร้งทำเป็นซื้อของใช้และเครื่องดื่มชูกำลัง หลังจากนั้นตนก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด
หลังจากนั้น คนร้ายก็วิ่งหนีออกจากบ้านของกำนัน และขี่มอเตอร์ไซค์หนีไป เมื่อตนไปดูก็พบกำนันเสียชีวิตแล้ว คาดว่าคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี ซึ่งตนได้ยินน้ำเสียงของคนร้าย มีสำเนียงพูดไทยชัดเจน การพูดไม่ติดสำเนียงคนอีสาน คาดว่าเขาเป็นคนนอกพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ตนรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะกำนันก็เป็นคนดี ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร
ด้านนายสุธีร์ ส่งสัมพันธ์สกุล อายุ 68 ปี เจ้าของที่ดินที่เป็นข้อพิพาท เปิดเผยว่า ตนเป็นเพียงเกษตรกรธรรมดา ไม่ได้เป็นเสี่ยอย่างที่ชาวบ้านพูดกัน แต่เนื่องจากตนเป็นคนต่างถิ่นมาซื้อที่ดินตั้งแต่ 30 ปีก่อน ทำให้ชาวบ้านเรียกเสี่ย โดยตนครอบครองที่ดิน ส.ป.ก. กว่า 49 ไร่ ตั้งแต่ประมาณ พ.ศ.2532 ซึ่งที่ดินของตนมีถนนที่ชาวบ้านใช้สัญจรตัดผ่านประมาณ 400 เมตร โดยที่ผ่านมาตนอนุญาตให้ชาวบ้านผ่านตลอด แต่ตนก็ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากรถบรรทุกที่ชาวบ้านขับผ่านนั้นไ ปสร้างความเสียหายให้กับไร่สวน และต้นยางของตน รวมถึงชาวบ้านมีการขุดขยายถนนบนพื้นที่ของตนโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต เอาก้อนหินขนาดใหญ่ไปทิ้งในสวนยางของตน
ต่อมา กำนันได้มาเจรจา ซึ่งตนเสนอว่าอนุญาตให้ทำถนนกว้าง 3.5 เมตร เป็นระยะทาง 400 เมตร โดยชาวบ้านจะต้องมาสร้างรั้วถนนเพื่อไม่ให้รถไปกระทบพืชผลของตน แต่กำนันกลับไม่ยอม พร้อมยืนยันว่าจะขอพื้นที่ถนนกว้าง 4 เมตร และจะขอให้เป็นที่สาธารณะ เนื่องจากชาวบ้านใช้เป็นถนนมาเป็น 10 ปีแล้ว ทั้งที่ตามกฏหมายนั้น ที่ดิน ส.ป.ก. ไม่สามารถมอบเป็นที่สาธารณะได้ ทำให้การเจรจาล้มเหลว และตนก็ปิดกั้นถนน ไม่ให้ใครสัญจรตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าไม่เคยกล่าวคำอาฆาตกับกำนัน ตนก็รู้สึกเครียดและกังวลที่ชาวบ้านคิดว่าตนเป็นคนจ้างฆ่า ตนไม่ใช่คนทำ และไม่มีส่วนรู้เห็น เพราะตนก็แก่แล้ว รวมถึงยังมีอาการกระดูกสันหลังอักเสบเป็นโรคประจำตัว มือสั่น จึงอยากให้เข้าใจตนด้วย