ลูกชายป่วยจิตเวช ยังปฎิเสธไม่ได้ลงมือฆ่าตัดคอพ่อตัวเอง

ลูกชาย ยังคงให้การวกไปวนมา ปฎิเสธไม่ได้ลงมือฆ่าตัดคอพ่อตัวเอง ตำรวจนำส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์วินิจฉัยว่าป่วยเป็นจิตเวชหรือไม่ 

ความคืบหน้ากรณีพบร่าง นายวิชัย อายุ 56 ปี ถูกฆ่าตัดศีรษะ ภายในบ้าน ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา สภาพศพศีรษะถูกตัดวางไว้ข้างลำตัว คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 วัน

นอกจากนี้ข้างศพยังพบด้ามมีดพร้าตกอยู่ และมีดพร้าถูกนำไปล้างวางไว้ในห้องน้ำหลังบ้าน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและนำไปตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ

เบื้องต้นได้สอบปากคำ นายทิวาธร ลูกชาย ซึ่งมีประวัติเป็นผู้ป่วยจิตเวช พบพิรุธและขัดแย้งกับความเป็นจริงที่ในที่เกิดเหตุหลายอย่าง โดยเฉพาะจากการชันสูตรศพพบว่าพ่อเสียชีวิตมาแล้วอย่างน้อย 4 วัน แต่จากคำให้การของลูกชายบอกเมื่อ 4 วันก่อนได้กลับไปอยู่บ้านแม่ที่ ต.ปริก อ.สะเดา และเพิ่งกลับมาที่บ้านพ่อเมื่อช่วงเช้าเมื่อวานนี้และยังหุงข้าวทำกับข้าวให้พ่อกิน และเมื่อคืนนี้ก็ยังนอนค้างอยู่ที่บ้านพ่อด้วย

ล่าสุดวันนี้ (17 เม.ย.67) ที่สถานีตำรวจภูธรสะเดา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายทิวาธร ลูกชายของผู้เสียชีวิตไปโรงพยาบาลจิตเวช เพื่อให้ทางแพทย์วินิจฉัยว่าป่วยเป็นจิตเวชหรือไม่ ซึ่งนายทิวาธร ยังคงให้การวกไปวนมาและปฎิเสธว่าไม่ได้เป็นคนฆ่าพ่อตัวเอง

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของนายพินัย อายุ 57 ปี เป็นเพื่อนสนิทของนายวิชัย ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นคนพบศพคนแรก โดยที่บ้านของนายพินัย ได้เปิดเป็นร้านรับซื้อน้ำยางพาราและไม้ยางพารา

จากการสอบถามนายพินัย หรือ เสี่ยนัย ได้เล่าว่า ช่วงก่อนเจอศพ ตนได้ไปซื้อน้ำยาง แล้วก็ไปดูแปลงไม้แปลงยาง ตนก็เกิดข้องใจเพราะไม่เจอเขามาหลายวันแล้ว ปกติไม่ถึง 3 วัน เขาก็จะมาแล้ว แต่นี่เงียบไปทุกช่องทาง ติดต่อก็ไม่ได้ หลังจากที่เสร็จธุระเลยแวบไปหาที่บ้าน ก็ให้เด็กๆในรถลงไปดูก่อน ตนว่าจะนั่งในรถสักพักเพราะร้อน สักครู่เด็กที่เราให้วิ่งลงไปดูก็วิ่งร้องกลับมา ตนก็คิดในใจอะไรอีก เด็กพวกนี้พูดเล่นรึเปล่า ตนจึงเดินไปเอง ตอนนั้นก็มีกลิ่นออกมา พอเราไปเห็นก็ตามภาพเลย จึงไปแจ้งตำรวจป้อมที่ห้วยคู

ปกติเราก็เห็นประจำ มานั่งกินนั่งอะไรกันบ่อย บ้านอยู่ไม่ห่างกันมาก เดินก็ถึงแล้ว ส่วนลูกชายเขาก็อายุ 34 ปี บางทีก็มาถามมีอะไรกินไหม เราไม่มีลางสังหรณ์อะไรเลย ลูกๆเขาทั้ง3-4คนก็รู้จักหมด แต่ไม่ได้ไปคลุกคลี มีอะไรก็แบ่งให้กิน รู้สึกว่าโทรศัพท์เขาก็น่าจะให้ลูกชายใช้ เพราะว่าโดนตัด เวลาจะโทรอะไรเขาก็จะใช้โทรศัพท์พวกเราโทรให้ลูกเขามารับ ส่วนเรื่องในครอบครัวเขา เราก็ไม่รู้ ตนก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเป็นเพื่อนกันมานาน