สามีก่อเหตุกระหน่ำแทงภรรยาเสียชีวิต ปิดปากเงียบไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ขณะถูกคุมตัวมาถึง สภ.คลองหลวง แม่ผู้ตายอยากถามลูกเขย ฆ่าลูกทำไม
จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธมีดแทง น.ส.แอน อายุ 31 ปี เสียชีวิต เหตุเกิดเวลา 23.50 น.วันที่ 17 เม.ย. 67 บริเวณถนนเลียบคลองแอนหนึ่งสอง ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังเกิดเหตุตำรวจได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบพยานบุคคลคือ นายธนัท วชิรญาณ์พุฒิพร อายุ 32 ปี หนึ่งในทีมงานเพจสายไหมต้องรอด ที่มีความสนิทสนมกับผู้ตายและเห็นเหตุการณ์ ขณะขับรถออกตามหาว่าผู้ก่อเหตุคือสามีของผู้ตาย โดยหลังก่อเหตุได้ขี่รถ จยย. หลบหนีไป
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง สว.สส.สภ.คลองหลวง (สารสัตรสืบสวนสอบสวน) พร้อมด้วยกำลังตำรวจชุดสืบสวน คุมตัวนายนัฐวุฒิ หรือ บังตี๊บ อายุ 32 ปี ผู้ก่อเหตุมาถึง สภ.คลองหลวง สอบปากคำต่อ หลังได้รับการประสานจากขอเข้ามอบตัวที่ สน.ลำหิน เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงเช้าที่ผ่าน และนำกำลังเดินทางไปรับตัวทันที
โดยช่วงที่ผู้ต้องหามาถึง ผู้สื่อข่าวได้พยายามเข้าไปสอบถามถึงสาเหตุว่า เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงทำแบบนั้น แต่ปรากฎว่า นายนัฐวุฒิ ไม่ตอบ เดินก้มหน้าเข้าห้องสืบสวนไปทันที ซึ่งผู้สื่อข่าวยังสังเกตุเห็นด้วยว่าบนใบหน้าและตามลำตัว มีบาดแผลร่องรอยของการต่อสู้หลายแห่ง
ขณะที่ นางแหม่ม (สงนนามสกุล) แม่ของ น.ส.แอน เดินทางมายังสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อติดต่อขอใบแจ้งความลงบันทึกประจำวัน ในการนำไปติดต่อขอรับศพ น.ส.แอน ที่นิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ผู้สื่อข่าวจึงได้เข้าไปสอบถาม นางแหม่ม บอกว่าตนเองไม่ได้คุยกับลูกสาวเป็นอาทิตย์แล้ว ที่ผ่านมาลูกสาวเล่าให้ฟังว่าทะเลาะกับสามี เพราะสามีไปมีแฟนใหม่
ตนเองก็บอกลูกสาวว่า หากเขาไปมีคนใหม่ ก็ให้ปล่อยเขาไป ต่างคนต่างอยู่ ซึ่งลูกสาวก็ตอบกลับมาว่า “กำลังทำใจ เริ่มทำใจได้แล้ว” ตนเองก็ให้กำลังใจไปว่า ให้ทำงานและสู้ต่อไป เพราะมีลูกตั้ง 3 คน ที่ต้องดูแล จากนั้นลูกสาวก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังอีกเลย
ส่วนที่ลูกเขยไปทำลายข้าวของในห้องพักนั้น ลูกสาวไม่ได้เล่าให้ฟัง แต่ตนเองทราบเนื่องจากว่ามีการโพสต์ลงในโซเชียล ตนเองก็ยังบอกกับลูกสาวว่า ให้แยกออกมา เพราะกลัวว่าจะได้รับอันตราย ตนเองอยากถามคนที่ฆ่าลูกว่าฆ่าเพื่ออะไร ตนเองก็บอกว่าให้ต่างคนต่างไป ทำไมต้องฆ่ากันด้วย คบกันมาตั้งหลายปี ที่ผ่านมาทั้ง 2 คน ไม่เคยทะเลาะกันต่อหน้าตนเอง จึงไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น
ต่อมาทีมข่าวลงพื้นที่ไปตรวจสอบหอพักของ น.ส.แอนนภา ที่อยู่ในพื้นที่ ต.พยอม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา หลังก่อนหน้านี้ทีมข่าวได้ข้อมูลว่า นายนัฐวุฒิ สามี มาเช่าหอพักแห่งนี้กับ น.ส.แอน ”เจ๊แดง“ เจ้าของหอพักเล่าว่า เมื่อวานนี้ ช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. น.ส.แอน ผู้ตาย ได้แชตข้อความมาหาเพื่อพูดคุยค่าเสียหายห้องพักที่ก่อนหน้านี้ น.ส.แอน และบังตี๊บ (ผู้ก่อเหตุ) ได้มีการทะเลาะวิวาททำร้ายข้าวของ จนเป็นเหตุทำให้หอพักได้รับความเสียหาย
นอกจากนี้ น.ส.แอน ยังมีการเน้นย้ำกับเจ๊แดงว่า ขอให้ช่วยดูแลรถจักรยานยนต์ของตัวเอง ซึ่งบังตี๊บเคยมีการพูดขู่ว่า จะเผารถจักรยานยนต์คันดังกล่าว จึงทำให้ต้องนำรถจักรยานยนต์มาจอดหลบไว้บริเวณร้านขายของ
โดยเมื่อช่วงวันที่ 13 เม.ย. ที่ผ่านมา “บังตี๊บ” มีอาการคุ้มคลั่งทะเลาะและอาละวาดทำร้ายข้าวของภายในหอพัก ทั้ง ตีประตู ทุบกระจกห้องพักของผู้ตาย ซึ่ง ณ ตอนนั้น ลูกน้องพยายามเข้าไปห้ามปรามไม่ให้มีการทำร้ายข้าวของ แต่ก็ถูกบังตี๊บด่าทอต่อว่าเพราะมีการขู่ผู้ตายประมาณว่า “กูจะฆ่าให้หมด”
เจ๊แดง ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ “บังตี๊บ” และผู้ตายพร้อมกับลูกๆ อีก 3 คน ได้มาเช่าพักอาศัยอยู่ที่หอแห่งนี้ ประมาณปลายปี 66 โดยมีการเช่าห้องพักอาศัยอยู่ด้วยกันจำนวน 2 ห้อง ผู้ตาย และบังตี๊บพักอาศัยอยู่ด้วยกัน 1 ห้อง ส่วนอีก 1 ห้อง นั้น จะเป็นลูก 3 คนของผู้ตายพักอาศัย จนกระทั่งช่วงก่อนสงกรานต์ที่ผ่านมา ผู้ตายได้มีการบอกกับตนว่า จะขอจ่ายค่าห้องพัก เฉพาะห้องของผู้ตายเพียงห้องเดียว เนื่องจากว่าได้มีการเลิกลากับบังตี๊บ
เจ๊แดง เผยต่อว่า รู้สึกตกใจ ที่ผู้ตายเลิกรากับ “บังตี๊บ” แต่ก็ไม่ได้สอบถามข้อมูลอะไรมากนัก เพราะเป็นเรื่องส่วนบุคคล โดยก่อนหน้านี้ ทางผู้ตายได้เคยมีการมาบอกกับว่า ถูกบังตี๊บทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุทำให้ศรีษะแตก และต้องเย็บถึง 4 เข็ม และจะเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังทราบข่าวก็รู้สึกเสียใจ ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ทั้งที่เมื่อวานผู้ตายได้มีการแชตว่า จะเข้ามาเอารถจักรยานยนต์ที่หอพัก แต่ก็ไม่ได้เข้ามา จนกระทั่งมาเกิดเหตุสลด
