อ.เจษฎ์ ไขข้อข้องใจ การตัด-โกนขนหมา ช่วยคลายร้อนได้หรือไม่ เผยเสี่ยงผิวไหม้นำไปสู่การเป็นมะเร็งผิวหนังได้
รองศาสตราจารย์ ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ หรือ อาจารย์เจษฎ์ นักสื่อสารวิทยาศาสตร์และอาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่องการตัดขนสุนัข ผ่านเพจ "อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์" โดยระบุว่า.. "ไม่ควรโกนขน สุนัข สายพันธุ์ที่มีขน 2 ชั้น" เป็นเรื่องจริงครับ "
มีคำถามจากผู้เลี้ยงสุนัขว่า เค้าได้รูปแชร์กันมา เหมือนเป็นภาพถ่ายอุณหภูมิความร้อนของสุนัข ที่เตือนว่า สุนัขที่ตัดโกนขนให้เป็นทรงคล้ายสิงโต (lion cut shave) นั้น ไม่ดีต่อสุนัขเพราะจะทำให้อุณหภูมิที่หลังของมัน (ซึ่งไม่มีขน) สูงถึง 30 องศาเซลเซียส
ขณะที่บริเวณที่ยังมีขนอยู่ คือที่หัวกับอกนั้น อุณหภูมิเพียงแค่ 24 องศาเซลเซียสเท่านั้น แสดงว่าการโกนขนสุนัขไม่ได้ช่วยให้พวกมันตัวเย็นลง เหมือนอย่างที่บางคนเข้าใจผิด (ว่าขนหนา ๆ จะทำให้สุนัขร้อน)
ซึ่งเรื่องนี้ได้ทำการตรวจสอบแล้ว พบว่าน่าจะเป็นเรื่องจริงครับ โดยเฉพาะในสุนัขกลุ่มที่มีขน 2 ชั้น หรือที่เรียกว่า “double-coated dog breed” โดยที่พวกมันจะมีขนชั้นนอก ที่มีเส้นขนยาวกว่าและนุ่มกว่าขนที่อยู่ชั้นใน
สุนัขสายพันธุ์ที่มีขนแบบ double-coat2 ชั้น ก็เช่น พันธุ์โกลเด้น (Golden Retriever), พันธุ์ปอม (Pomeranian), พันธุ์ลาบราดอร์ (Labrador Retriever), พันธุ์ปั๊ก (Pug), พันธุ์อากิตะ (Akita) , พันธุ์ฮัสกี้ (Huskie) , พันธุ์อาลาสก้า มาลามุท (Alaskan Malamute) ฯลฯ
ขนของสุนัขแต่ละพันธุ์นั้น มักจะมีคุณสมบัติและหน้าที่แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ ที่มันถูกเพาะเลี้ยงคัดเลือกปรับปรุงพันธุ์มาตั้งแต่ต้น ตัวอย่างเช่น สุนัขพันธุ์เทอเรีย (Terrier) มักจะมีขนเรียบ ที่ช่วยให้พวกมันขุดดินจนเป็นหลุมเล็ก ๆ ได้โดยไม่ทำให้ขนของมันไปพันติดกับรากไม้และก้อนหิน
ขณะที่สุนัขสายพันธุ์ที่อยู่ใกล้น้ำและภูเขา เช่น พันธุ์ลาบราดอร์ (Labrador) และพันธุ์เซนต์เบอร์นาร์ด (St. Bernard) จะมีขนหนา ที่กันน้ำ หิมะ และน้ำแข็งได้ ให้ไม่เปียก
บางครั้งผู้ที่เลี้ยงสุนัขพันธุ์ที่มีขนแบบ double-coat เห็นว่าสุนัขของตนเกิดการผลัดขน มีขนร่วงเป็นจำนวนมาก เลยอาจจะคิดว่า ถ้าไปช่วยโกนขนให้มัน ก็น่าจะทำให้การผลัดขนเกิดขึ้นได้ดีขึ้น แต่จริง ๆ แล้ว การโกนขนสุนัขที่เป็นพวก double-coat นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ
เพราะการโกนขน จะเป็นการตัดเอาขนชั้นนอกทิ้งไป ซึ่งเป็นชั้นที่ช่วยป้องกันสุนัขจากแสงแดด การโกนขนจึงกลับการเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่สุนัขจะร้อนจนเกินไป เกิดอาการผิวไหม้แดด หรือแม้กระทั่งนำไปสู่การเป็นมะเร็งผิวหนังได้
ขนชั้นนอก ที่มีเส้นยาวๆ และปกคลุมร่างกายอย่างหลวม ๆ นั้น ยังทำให้ลมเย็น ไหลผ่านผิวหนังและช่วยระบายความร้อน ได้ดีกว่าการที่โกนขนจนเหลือแต่ขนเกรียนๆ สั้นๆ ของทั้ง 2 ชั้น ซึ่งกลับทำให้ระบายความร้อนได้แย่ลง
สุนัขสายพันธุ์ที่มีขนชั้นเดียว (single-coat) นั้น เราสามารถจะโกนขนมันซ้ำ ๆ ได้ เนื่องจากการโกนขนไม่ได้ไปเปลี่ยนแปลง “เนื้อสัมผัส (texture)” ของขนโดยรวมของพวกมัน ขนของมันก็ยังคงกลับมางอกยาวขึ้นเรื่อยๆ ได้ ขณะที่ขนของสุนัข สายพันธุ์ที่เป็นขนแบบ double-coat จะงอกขึ้นมาถึงแค่ความยาวระดับหนึ่ง และก็จะหยุดงอกต่อ
ส่วนเนื้อสัมผัสของขนของสุนัขพวก double-coat นั้น กลับเปลี่ยนแปลงไปหลังจากที่โดนโกนขน โดยขนชั้นนอกที่เป็นขนปกคลุมป้องกัน (guard hair) เมื่อเคยถูกโกนแล้ว จะเปลี่ยนเป็นขนที่หยาบขึ้น และทำให้พวกดอกหญ้า/กิ่งไม้เล็กๆ ติดตามขนได้ง่าย
ยิ่งกว่านั้น ถ้าสุนัขมีอายุมากหรือไม่สุขภาพไม่ดี ขนของมันก็อาจจะไม่งอกกลับมาเหมือนเดิมหลังจากโกน การโกนขนยังทำให้สุนัขมีผิวหนังบริเวณเส้นขนพันกัน และมีอาการระคายเคืองผิวได้ง่าย ยิ่งถ้าเอาสุนัขไปอาบน้ำ ก็จะยิ่งมีปัญหาเส้นขนพันกันแน่นขึ้นอีก และทำให้สุนัขไม่สบายตัวมากยิ่งขึ้น
ดังนั้น ถ้าคิดว่าจะโกนขนสุนัขของคุณ ก็ควรที่จะต้องปรึกษาช่างตัดขนสุนัขมืออาชีพ (หรือสัตวแพทย์) เสียก่อน เพราะช่างมืออาชีพจะมีประสบการณ์มาพอ ที่จะทราบว่าควรจะให้บริการสุนัขของคุณ ด้วยวิธีไหน ถึงจะดีที่สุด