นายอำเภอคูเมือง สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงปม ผู้ใหญ่บ้านขอเปลี่ยนปีเกิดใหม่เพื่ออยู่ต่ออีก 2 ปี ชาวบ้านชี้ไม่เห็นด้วย
จากกรณีที่เพจดัง “Survive – สายไหมต้องรอด” โพสต์แฉผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่ง ใน อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ว่ามีการเปลี่ยน พ.ศ. เกิดใหม่ จากปี 2507 เป็น 2509 ทำให้สามารถดำรงตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน ไปได้จนถึงปี 2569 จากที่จะต้องเกษียณในปี 2567 ซึ่งบัตรประจำตัวประชาชนใบเดิมระบุปีเกิดเป็น พ.ศ. 2507 ออกเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2559 หมดอายุในวันที่ 10 มี.ค. 2567 ส่วนบัตรใบใหม่ ออกเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2565 หมดอายุในวันที่ 10 มี.ค. 2573 ทำให้ชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก
จากการตรวจสอบพบว่าผู้ใหญ่บ้านที่ถูกระบุถึง คือ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 ต.หนองขมาร อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นผู้ใหญ่บ้านเมื่อปี 2561 ต่อมาปี 2565 ได้นำหลักฐานทะเบียนบ้านเก่าไปยื่นเรื่องขอเปลี่ยนปีเกิดใหม่ โดยอ้างว่าปีเกิดจริงคือ 2509 แต่ในบัตรประชาชนลงเป็น 2507 กระทั่งมีคนนำเรื่องไปร้องเพจสายไหมต้องรอด
ล่าสุดวันนี้ (19 เม.ย.67) ทีมข่าวได้เดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอคูเมือง เพื่อจะสอบข้อเท็จจริงข้อเท็จจริงกับทางอำเภอ แต่นายอำเภอติดภารกิจ นายอรรถพล สนสกุล ปลัดอาวุโส อำเภอคูเมือง จึงให้ข้อมูลแทน โดยบอกว่ากรณีดังกล่าวท่านนายอำเภอทราบเรื่องแล้ว และได้สั่งการให้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงตามขั้นตอนแล้ว ขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ผิดถูกก็ว่ากันตามพยานหลักฐาน โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
อย่างไรก็ตามการแก้ไขวันเดือนปีเกิดประชาชนทุกคนสามารถทำได้ หากวันเดือนปีเกิดจริงไม่ตรงกับที่ระบุในบัตรประชาชน แต่ต้องมีหลักฐานถูกต้อง อาทิ สำเนาทะเบียนบ้านเก่า หลักฐานการศึกษา หรือทางทางทหาร หรือพยานบุคคลที่สามารถยืนยันและรับรองได้ ก็สามารถแก้ไขระบบทะเบียนราษฎร์ได้
จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปยังบ้านผู้ใหญ่บ้านที่ถูกเพจดังแฉ แต่ผู้ใหญ่บ้านบอกว่าไม่สะดวกจะให้ข้อมูลอะไร ทีมข่าวจึงได้สอบถามความเห็นจากชาวบ้านในหมู่บ้าน ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างบอกว่า แม้ผู้ใหญ่บ้านจะทำหน้าที่ดี แต่การจะเปลี่ยนปีเกิดใหม่เพื่อให้ได้ดำรงตำแหน่งต่ออีก 2 ปีนั้น ก็ไม่เห็นด้วย และอยากให้ดำเนินการอยากถูกต้องตามระเบียบและกฎหมายเท่าเทียมกันทุกคน หากครบกำหนดเกษียณก็ต้องเกษียณ แล้วเลือกตั้งใหม่ให้คนอื่นมาทำหน้าที่แทน ก็อยากให้ตรวจสอบตรงไปตรงมา.