รวบโจรแสบ เลียนแบบหนังฮอลลีวูดตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ พบเคยถูกดำเนินคดีมาหลายครั้งล่าสุด อาศัยช่วงสงกรานต์หนีกลับบ้าน สุดท้ายไม่รอด
เมื่อเวลา07.30 น.วันนี้ (20 เม.ย. 2567) ผู้สื่อข่าวรายงานภายใต้การอำนวยการของพล.ต.ต.วิชิตบุญ ชินวุฒิกุ ลผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน เร่งล่าตัวคนร้ายที่ไปตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ตามบ้านเรือนประชาชน สร้างความเสียหายและความเดือนร้อน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนของ สภ.บางแก้ว ร่วมมือกับกองกำกับการสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรภาค4 ไปติดตามจับกุมตัว นายอัฐพลหรือตี๋สุระอามาตย์ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ในข้อหาลักทรัพย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้คาบ้านพักหลังหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นห้องเช่าที่นายตี๋หนีไปกบดานหลังจากตระเวนก่อเหตุ แล้วอาศัยช่วงวันหยุดสงกรานต์เดินทางหนี ซึ่งจับกุมได้ช่วงเย็นของวันที่ 19 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ต้องหายอมรับสารภาพต่อหลักฐานว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง ตำรวจจึงควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายที่ สภ.บางเเก้ว
ผกก.สภ.บางแก้ว เปิดเผยกับทีมข่าวว่า สำหรับผู้ต้องหารายนี้สืบเนื่องจากช่วงวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา มีผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความว่า ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนและไม่ทราบตัว งัดหน้าต่างและประตูห้องพักของบ้านพักช่วงกลางวันแสกๆ ขณะที่ไม่มีใครอยู่บ้าน เข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ภายในบ้าน ได้ทรัพย์ทรัพย์สินไปหลายรายการ ทั้งนาฬิการหรู, แหวนเพชรแต่งงาน, สร้อยคอทองคำ, สร้อยข้อมือ, แหวนทอง, เงินสด, เล่มทะเบียนรถยนต์ และยังถอดกล้องวงจรปิดภายในบ้านและรอบบ้านของผู้เสียหายไปทั้งหมด รวมมูลค่าความเสียหายเกือบ 150,000 บาท
หลังเกิดเหตุสั่งการกำชับให้เร่งสืบสวนติดตามตัวผู้ก่อเหตุรายนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากเป็นภัยสังคมและยังสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้เสียหาย จึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งหาเบาะแสของคนร้าย จนกระทั่งไปพบเบาะแส ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสภ.บางแก้ว ได้ดำเนินตรวจสอบกล้องวงจรปิด สามารถบันทึกภาพชายลักษณะสวมหมวกสีดำ สวมแมสก์สีดำ ปิดบังใบหน้า สวมเสื้อแขนยาวสีกรมท่า สะพายกระเป๋าเป้สีเทา สวมกางขายาวสีดำ และสวมรองเท้าผ้าใบ Vans สีขาวดำ ขณะอยู่ในที่เกิดเหตุ
จึงได้สั่งการให้ทำการสืบสวนติดตามคนร้าย โดยการตรวจสอบกล้องวงจรปิดก่อนและหลังเกิดเหตุ พบว่า ก่อนเกิดเหตุคนร้ายได้เดินทางมาจากซอยลาดพร้าว 128/2 โดยเดินทางด้วยรถเมล์สาธารณะสาย 27 มาลงที่บริเวณหน้าเดอะมอลล์บางกะปิ จากนั้นได้เดินทางต่อด้วยรถตู้ขสมก.สายบางกะปิ-ปากน้ำมายังห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีสาขาศรีนครินทร์ จากนั้นได้เดินทางต่อด้วยรถสองแถวสาธารณะโดยสับเปลี่ยนรถสองแถวจำนวน 3 คัน แล้วจึงเดินไปยังที่เกิดเหตุ
โดยหลังจากก่อเหตุคนร้ายได้เดินเท้าระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร จากนั้นได้โดยสารด้วยรถจักรยานยนต์รับจ้าง มาลงบริเวณปากซอยหมู่บ้านบางพลีนิเวศน์ แล้วโดยสารด้วยรถแท็กซี่มาลงบริเวณสะพานลอยปากซอยโรงเรียนราชวินิตบางแก้ว จากนั้นได้โดยสารรถแท็กซี่อีกคันไปลงบริเวณวัดศรีเอี่ยม แล้วขึ้นโดยสารรถเมล์โดยสารสาย 145 ไปลงบริเวณหน้าเดอะมอลล์บางกะปิ และได้โดยสารรถแท็กซี่ไปยังที่พัก โดยระหว่างเดินทางคนร้ายได้สวมหมวกและแมสปกปิดใบหน้าตลอดเวลา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ก่อเหตุรายนี้คือ นายอัฐพล และต่อมาจึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ จนกระทั่งวันที่ 18 มีนาคม 2567 ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายอัฐพล พักอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทำการจับกุม
จากการสอบถามนายอัฐพลให้การรับว่า ตนได้เข้าไปทำการก่อเหตุลักทรัพย์ที่บ้านดังกล่าวจริง โดยทรัพย์สินที่ได้มา ตนนำไปขายแล้วนำเงินไปเล่นการพนันออนไลน์ ส่วนสาเหตุที่ใช้รถสาธารณะและสับเปลี่ยนรถหลายคันก่อนและหลังก่อเหตุ เนื่องจากต้องการให้เป็นการยากในการติดตามจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยได้เลียนแบบมาจากหนังฮอลลีวูดแนวโจรกรรม
โดยนายอัฐพลให้การเพิ่มเติมว่า ได้เคยเข้ามาก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่สภ.บางแก้ว เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2566 ได้ทรัพย์สินไป
- แหวนเพชร 3 วง ราคารวมประมาณ 65,000 บาท
- สร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง 1 เส้น ราคาประมาณ 15,000 บาท
- นาฬิกาข้อมือยี่ห้อแอปเปิ้ลวอส 1 เรือน ราคาประมาณ 20,000 บาท
- นาฬิกาข้อมือยี่ห้อTAG 2 เรือน ราคา5,000 และ 20,000 บาท
- นาฬิกาข้อมือยี่ห้อบดูเบอร์รี่ 1 เรือน ราคาประมาณ 4,000 บาท
ซึ่งเหตุดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสภ.บางแก้วได้สืบสวนติดตามมาโดยตลอด และให้การรับว่าเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2567 ได้เข้าไปทำการลักทรัพย์ในพื้นที่มีนบุรี ได้ทรัพย์สินเป็นทองรูปพรรณน้ำหนักประมาณ 10 บาท และก่อเหตุลักทรัพย์ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครอีกหลายพื้นที่ โดยตนจำสถานที่ก่อเหตุและวันเวลาไม่ได้ จากตรวจสอบประวัติอาชญากรรมนายอัฐพลหรือตี๋ฯพบมีประวัติเคยกระทำผิดดังนี้
- ข้อหา"ทำอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนโดยมิได้อนุญาต" เมื่อปี2551ที่สภ.โกสุมพิสัยภ.จว.มหาสารคามภ.4
- ข้อหา“ลักทรัพย์ในเคหสถานสถานที่ราชการ” เมื่อปี2557ที่สน.นิมิตรใหม่สถานะรอออกหมายจับ
- ข้อหา“ตัวการในข้อหาลักทรัพย์” เมื่อปี2561ที่สน.ฉลองกรุงสถานะหมายจับมีผลบังคับใช้ตามกฎหมายฝ่ายสืบสวนได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ฉลองกรุงเพื่ออายัดตัวต่อไป