สืบนครบาล รวบ นายแบบหุ่นล่ำคาคอนโดหรู สร้างโปรไฟล์หรูดูดี น่าเชื่อถือ หลอกให้ลงทุนแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ
การสืบสวนข้อมูลของผู้ต้องหารายนี้ จุดเริ่มต้นจากเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2567 เพจสืบนครบาล IDMB ได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก ว่าถูก นายแบบ ก. หล่อล่ำ ชื่อดัง ชักชวนให้ร่วมลงทุนนำเงินมาฝากเพื่อเทรด Forex แลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ
โดยใช้วิธีการสร้างโปรไฟล์หรู หล่อ ดูดี มีการอบรมสัมมนาสร้างความน่าเชื่อถือ และยังพูดจาน่าเชื่อถือ อ้างว่าตนเองมีประสบการณ์กับตลาด forex มายาวนาน ยืนยันว่า บริษัทของตนมีการโอนเงินซื้อขายจริงๆ 100% รวมถึงมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่าโบรกเกอร์อื่น ทำให้มีคนตัดสินใจฝากเงินเพื่อทำการเทรดผ่านโบรกเกอร์ของเจ้าตัวกันหลายราย ซึ่งมีตั้งแต่หลักหมื่น ถึงหลักล้าน แรก ๆ ก็สามาถเทรดเงินได้อย่างรวดเร็ว ฝากทุน ถอนกำไรได้ตามปกติ แต่หลังๆทราบว่าไม่ได้มีการนำเงินไปเทรดจริง และก็ถอนเงินคืนไม่ได้ ทำให้เกิดความเสียหายมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ตรวจสอบในระบบพบหหมายจับติดตัว 17 หมาย
ต่อมา สารวัตรพิทักษ์ นักสืบวัย 59 ปี จึงได้พาทีมสืบออกสืบสวนหาข่าว ถึงผู้ต้องหารายนี้ ที่หลบหนีเก็บตัวเงียบ จนทราบพบว่าผู้ต้องหามีการเดินทางออกนอกประเทศ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ปลายทางลงสนามบิน”Istanbul Airport“ จากนั้นไม่เคยมีข้อมูลในฐานระบบว่าบินเข้าน่านฟ้าไทยหรือผ่านเส้นทางอื่นๆในระบบเพื่อเข้าไทยโดยผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง และตอนนั้นยังไม่มีการออกหมายจับในฐานระบบ ทำให้ผู้ต้องหาเดินทางได้อย่างราบรื่น
กระทั่งเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ตำรวจได้บุกจับ นายสุรพิชญ์ หรือก๊าซ ภาคาหาญ อายุ 30 ปี ตามหมายจับ ความผิดฐาน “พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534”
จากการตรวจในฐานระบบ ยังพบหมายจับ อีก 16 หมาย
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การว่า ตนมีอาชีพทำงานอิสระเคยผ่านงานในวงการบันเทิงตั้งแต่อายุ19ปี รวมถึงงานถ่ายแบบต่างๆมากมาย สำหรับมูลแห่งคดี”ฉ้อโกง“ แล้วลวงเช็คเด้ง ”จุดเริ่มต้นธุรกิจโซเชียลมีเดียของ “ไฟด์ เทค กรุ๊ป” เกิดจากการที่ผู้ต้องหาชักชวนเพื่อนๆมาร่วมหุ้นกันตั้งบริษัทรับทำเกี่ยวกับแอปพลิเคชั่น เกมออนไลน์ และสื่อมัลติมีเดียต่างๆ ขึ้นมา โดยรับหน้าที่บริหารจัดการและเป็นคนรับเงินจากลูกค้ามาเข้าบริษัทให้เพื่อนๆ ช่วยกันทำอีกที“ จากนั้นเริ่มหมุนไม่ทัน เอาเงินไปลงทุนทั้งเทรดหุ้น ทั้งนำไปใช้ชีวิตที่หรูหราจนวันนี้ผมไม่เหลืออะไร
ผู้ต้องหาให้การอีกว่า “ในระหว่างที่ ผู้ต้องหา พักที่อังกฤษ” ตนสืบทราบภายหลังว่าหมายจับกำลังทยอยออก ยอมรับว่ากังวลใจและคิดหาวิธีเพื่อหลบหนีเข้าไทยให้ได้พร้อมทั้งศึกษาจากผู้มีประสบการณ์แบบลับตา(ตบตาชุดสืบสวนภายหลังมีหมายจับ)โดยอ้างว่าตนรู้จักกับหญิงวัยกลางคนชาวมาเลเซียที่พักอยู่อังกฤษ ยื่นข้อเสนอว่าจะช่วยตนในการเดินทางผ่านเข้ามาเลเซียโดยการันตีว่าจะไม่ถูกจับกุม โดยคิดค่าช่วยเหลือครั้งละ5,000บาท โดยตนไม่ต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง เข้าๆออกๆ 4 ครั้ง จนกระทั่งมาถูกจับกุมล่าสุด