ญาติงง พาร่างหนุ่มฮีโร่ ไฟไหม้ถังสารเคมี กลับบ้านเกิดได้แค่ครึ่งทาง

ญาติงง พาร่างหนุ่มพนักงานฮีโร่ ไฟไหม้ถังสารเคมีระยอง กลับบ้านเกิดเชียงราย พอถึงอ่างทอง ตำรวจโทรหาให้ส่งกลับนิติเวช รพ.ตร. 

จากกรณีเกิดเหตุ ไฟไหม้ถังบรรจุสาร ไพโรไลซิส แก๊สโซลีน ของ บริษัทมาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัลฯ ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม มาบตาพุด บนถนนไอ-แปด ทางเรือมาบตาพุด ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง 

ส่งผลให้ นายนพพร เรือนมา เป็นพนักงานประจำของบริษัท เสียชีวิต หลังจากพยายามปิดวาล์วบนถังสารโซลีนก่อนเกิดการระเบิดนั้น 

วันที่ 11 พ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า คนขับรถตู้บรรทุกร่างของนายนพพร ที่ญาติกำลังจะนำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด จ.เชียงราย ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจระยองให้รีบนำร่างผู้เสียชีวิตกลับไปยังโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อทำการชันสูตร 

ซึ่งขณะนั้นรถได้เดินทางไปถึง จ.อ่างทองแล้ว ทางคนขับก็ได้ปรึกษากับญาติ ผู้เสียชีวิต ซึ่งนั่งมาด้วย และยังมีที่ขับรถปิ๊กอัพใส่ทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตตามมาอีกหนึ่งคัน ทางญาติได้ประสานทางบริษัทฯ เพราะต้องการนำร่างผู้เสียชีวิตกลับไปยัง จ.เชียงราย ซึ่งมีญาติรออยู่ แต่ในที่สุดก็ต้องกลับไปที่ นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ตามที่ตำรวจได้แจ้งมา โดยญาติก็ต้องตามไปด้วยเช่นกัน 

ด้าน พล.ต.ต.พงศ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ ผบก.ภ.จว.ระยอง เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้สั่งกำชับให้ พ.ต.อ.ปัญญา ดำเล็ก ผู้กำกับการตำรวจภูธรมาบตาพุด ใช้ความละเอียดรอบคอบ เพราะการตรวจสอบหลักฐานรายละเอียดต่างๆ ทางคดี ต้องผ่านจากนิติเวช ซึ่งสภาพศพในบางครั้งการเห็นด้วยตาเพียงภายนอกไม่ได้ หมายความว่าภายในจะไม่ได้เกิดอะไรขึ้น หากมีการเผาศพไปแล้ว จะทำให้ยากต่อการตรวจสอบ การชันสูตรไว้อย่างละเอียดรอบคอบทำตามขั้นตอน เพื่อให้คดีรัดกุมที่สุด