สำนักพุทธ ยืนยันแล้ว เชื่อมจิตไม่มีจริง ผิดหลักคำสอนพระพุทธเจ้า เตรียมส่งให้มหาเถรสมาคมพิจารณา
นายพิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักพุทธฯ และนายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาปทุมธานี ในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมแถลงเกี่ยวกับดรามาเชื่อมจิต อ้างเป็นหลักคำสอนพระพุทธเจ้า จนทำให้เกิดความขัดแย้งตามมา
โดยนายพิชิต ระบุว่า ตามที่ได้เคยนำเรียนพี่น้องสื่อมวลชนไว้แล้วว่า วันนี้เราจะแถลงเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน จนกลายเป็นข้อขัดแย้งต่างๆนานา การแถลงข่าวในวันนี้ไม่ได้มีเจตนาที่จะใส่ร้ายบุคคลใดที่เกี่ยวข้อง ก็ขอให้เข้าใจเจตนาว่าภารกิจในวันนี้ ซึ่งมีผู้ทรงคุณวุฒิที่พร้อมจะอธิบายประเด็นปัญหาต่างๆที่สื่อมวลชน ประชาชนสงสัยให้สิ้นกระแสความ
และการแถลงข่าวในวันนี้ก็ถือว่าเป็นหลักการ ถ้ามีกรณีอะไรเกิดขึ้นในทำนองนี้อีกที่แอบอ้างพระพุทธศาสนา อ้างหรือแอบอิงพระพุทธเจ้า ก็คือจะใช้หลักการในวันนี้เป็นหลัก ที่จะต้องใช้สติ มีศีล สมาธิปัญญา ที่จะต้องตัดสินใจว่าเรื่องต่างๆนั้นถูกต้องตามหลักการของพระพุทธศาสนาหรือไม่
ซึ่งประเด็นข้อสงสัยที่วันนี้เราจะพูดถึงเรื่องการ เชื่อมจิต ขออนุญาตให้ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนา และผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ได้มาแถลงข่าวในวันนี้ในกรณี เชื่อมจิต
ด้านนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักพุทธฯ ระบุว่า สำหรับกรณีเชื่อมจิตนั้น ทางพศ.ขอเรียนว่าทาง พศ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ เนื่องจากว่าเราติดตามสถานการณ์มาตั้งแต่ต้น กรณีมีการเผยแพร่มาตั้งแต่ต้น มีทีมงานเฝ้าระวังรวบรวมข้อมูลรวบรวมคลิป รวบรวมรายละเอียดข่าวสารต่างๆ นอกจากนั้นขอกราบเรียนว่าเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคำสอนที่ผิดเพี้ยนไป เราได้สอบถามพระมหาเถระ ขอคำแนะนำ และทางพระมหาเถระ ก็ได้แจ้งมาทางพศ.ว่าขอให้ใช้สติ ขอให้ทำให้รอบคอบ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ส่งผลต่อเด็กและครอบครัว และในขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการมาชุดหนึ่งเพื่อตรวจสอบแล้ว
หลังจากนี้ก็จะนำเข้าที่ประชุมมหาเถรสมาคมให้ทราบ จากนั้นทางมหาเถรสมาคมจะมีมติให้ พศ.ดำเนินการอย่างไร ก็จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
ด้านนายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาปทุมธานี ระบุว่าทางทีมงานได้ตรวจสอบข้อมูลในพระไตรปิฎก ก็คือฟันธงในตรงนี้เลยว่า การเชื่อมจิตนั้น ไม่ปรากฏแต่อย่างใด ซึ่งการเชื่อมจิตนั้นนอกจากไม่ปรากฏแล้ว ยังขัดต่อหลักธรรมคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า
ก่อนที่นายพิชิต ระบุว่า หลังจากนี้จะขอความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อให้ช่วยป้องกันความเสียหาย ที่จะมาทำลายพระพุทธศาสนา
ส่วนที่ จ.อุดรธานี กรณีมีการอ้างใช้ฌานของพระพุทธเจ้า 5 พระองค์รักษาโรค ณ แดนธรรมสุขขาววะดี บ้านโนนตาแสง ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เปิดดินแดนรักษาโรคให้แก่ประชาชนทั่วไปโดยไม่มีค่าใช้จ่าย นั้นทาง นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักพุทธฯ ระบุได้ตรวจสอบแล้ว เบื้องต้นพบว่าไม่มีพระภิกษุรูปใดเข้าไปเกี่ยวข้อง ในส่วนที่สองในเรื่องของมีการรักษา โดยอ้างพระเจ้า 5 พระองค์นั้น ตอนนี้ทางจังหวัดได้ให้ทางสาธารณสุข บูรณาการการทำงานร่วมกันในพื้นที่ว่าข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นไปตามมาตรฐานสาธารณสุขหรือไม่
หลังจากนี้ นายพิชิต ชื่นบาน ระบุว่าเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก จากนี้จะเชิญผู้อำนวยการสำนักพุทธฯทั่วประเทศมาทำความเข้าใจและทำงานเชิงรุกกันอย่างจริงจังต่อไป.