ลูกตำรวจหัวโจก ฮึกเหิมพาพวกบุกฟัน แทงเด็กเทคนิคกลางสี่แยกไฟแดง ต้องขี่รถหนีเอาชีวิตรอด ขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน
วันที่ 18 พ.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุเกิดวันที่ 17พ.ค. 67 เวลา 07.20 น. เวลาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากชาวบ้านให้มาตรวจสอบ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุทำร้ายร่างกายบริเวณไฟแดงทุ่งพระเมรุ อ.เมือง จ.นครปฐม จุดเกิดเหตุฝั่งขาเข้า กทม.
เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบไม่พบเหตุ ประมาณ 20 นาที ก็ได้รับแจ้งจากอาจารย์ที่วิทยาลัยเทคนิคว่า นักเรียนที่วิทยาลัยถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ทางกู้ชีพได้แจ้งเจ้าน้าที่ตำรวจ สภ.นครปฐมว่า มีผู้ได้รับาดเจ็บเป็นนักเรียนเทคนิค
จากการตรวจสอบพบว่าโดนฟันที่แขน พับด้านซ้าย ทั้งกู้ชีพปฐมพยาบาล และนำตัวส่งโรงพยาบาลนครปฐม เบื้องต้นทราบชื่อผู้บาดเจ็บ ชื่อนายพีรพัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี เรียนชั้น ปวส. ให้ข้อมูลกับอาจารย์ว่า ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจากบ้านพร้อมแฟน กำลังจะไปวิทยาลัยเทคนิค ระหว่างทางติดไฟแดง บริเวณทุ่งพระเมรุ ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ ได้เห็นผู้ก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์ ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียน ลักษณะผู้ก่อเหตุใส่เสื้อยืดสีดำ กางเกงขายาวสีครีม ซึ่งขี่รถเหมือนคล้ายจะไปส่งแฟนทำงาน คนซ้อนสวมเสื้อฟอร์มสีเขียว กางเกงขายาวสีดำ เมื่อมาถึงแยกทุ่งพระเมรุ ติดสัญญาณไฟแดง และรถจักยานยนต์คันดังกล่าวก็เข้ามาปาดหน้ารถของตน และมีรถจักรยานยนต์อีก จำนวน 3 คัน ระหว่างรอสัญญาณไฟ
จากนั้นผู้ก่อเหตุจึงลงจากรถแล้วเดินเข้าไปหานายเชษฐพัฒน์ (สงวนนามสกุล) ซึ่งจอดติดไฟแดง และใช้มือจับคอเสื้อถามว่า "เอ็งเป็นเด็กโรงเรียนอะไร" พอตอบกลับไปว่าเป็นเด็กเทคนิคฯ จากนั้นนายเชษฐพัฒน์ก็วิ่งจะไปขึ้นรถจักยานยนต์ขี่รถหนี เพราะแฟนตนได้ตะโกนห้าม หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุก็ได้มุ่งเป้านายพีรพัฒน์ (ผู้บาดเจ็บ) ซึ่งอยู่ข้างๆ กัน จนได้มีการชกต่อยกันตามภาพวงจรปิด
ระหว่างนั้นผู้ก่อเหตุสู้ไม่ได้ เนื่องจากตัวเล็กกว่า ผู้ก่อเหตุเอาอาวุธมีดพกที่ติดตัวมา ยาวประมาณ 15 ซม. แทงไปที่บริเวณข้อพับแขนซ้ายของนายพีรพัฒน์ จนได้รับบาดเจ็บ
จากนั้นเป็นสัญญาณไฟเขียว ผู้บาดเจ็บได้รีบขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี มุ่งหน้าไปทางวิทยาลัยเทคนิค เข้าไปข้างวิทยาลัยเทคนิค ไปจอดอยู่ที่ร้านขายของ และขอความช่วยเหลือ จนกู้ชีพมาทำการปฐมพยาบาล และนำตัวส่งโรงพยาบาลนครปฐม ส่วนทางด้านผู้ก่อเหตุ หลังก่อเหตุ ได้แยกย้ายกันหนี ทางชุดสืบสวน สภ.นครปฐม ลงพื้นที่ตรวจสอบเก็บภาพจากกล้องวงจรปิด นำมาเป็นหลักฐานเพื่อ ตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป เบื้องต้นทราบแล้วว่าผู้ก่อเหตุเป็นบุตรชายของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ภาค 7
.jpg)
