จับหนุ่มปากีสถานพร้อมเมียชาวไทย ลวงหนุ่มชาวอินเดียมาฆ่าแล้วทิ้งศพริมถนน พบปมขัดแย้งทางธุรกิจ
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีชาวต่างชาติถูกคนร้ายฆ่าทิ้งศพ ริมถนนสายบ้านในหยง-ท่าอยู่ พื้นที่ ม.3 บ้านนา ต.หล่อยูง อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา
ล่าสุดตำรวจภูธรภาค 8 สืบสวนจนทราบว่าผู้เสียชีวิตคือ MR.POULOSEVARGHESE สัญชาติอินเดีย เดินทางเข้ามาในประเทศโทยเมื่อวันที่ 19 เมษายน2567 โดยได้เดินทางเขามาพร้อมกับ MR.YASIRASHFAQ อายุ 32 ปี สัญชาติปากีสถาน (ผู้ต้องหาที่ 1 ) แจ้งว่าพักในคอนโดแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองภูเก็ต
ชุดสืบสวนสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานพบว่าผู้เสียชีวิตและผู้ต้องหาที่ 1 เป็นหุ้นส่วนทำธุรกิจร่วมกันที่ประเทศดูไบ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 ผู้เสียชีวิตได้ร่วมทุนถือหุ้นห้างหุ้นส่วนเทอร์กิด จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจนำเที่ยวของนางคาดิจายาซิร์ อัซฟาก อายุ 39 ปีสัญชาติไทย (ผู้ต้องหาที่2) ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ต้องหาที่ 1
จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุ เชื่อว่าผู้เสียชีวิตกับผู้ต้องหาที่ 1 และผู้ต้องหาที่ 2 ได้มีปัญหาขัดแจ้งกันเกี่ยวกับธุรกิจ ผู้ต้องหาทั้งสองจึงได้วางแผนจัดเตรียมอาวุธปืนและลวงผู้เสียชีวิตพาโดยสารรถยนต์ของผู้ต้องหามายังที่เกิดเหตุ และได้ใช้อาวุธปืนยิงจนถึงแก่ความตาย และได้ทิ้งศพไว้ในที่เกิดเหตุ
โดยการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ผู้ต้องหาพาผู้เสียชีวิตไปก่อเหตุ พบรถยนต์ที่ผู้ต้องหาใช้เป็นยานพาหนะ จึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายค้นบ้านหลังหนึ่ง ม.3 ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ซึ่งเป็นบ้านพักของผู้ต้องหาทั้ง 2
ผลการตรวจค้นพบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ พบรองเท้าผู้เสียชีวิตและเสื้อผ้าที่ผู้ต้องหาสวมใส่ขณะเกิด ต่อมาได้ทำการการตรวจค้นห้องพักที่คอนโดแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองภูเก็ต ซึ่งผู้ต้องหาได้เช่าพักอาศัย ผลการตรวจค้นได้พบทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตที่ผู้ต้องหาทั้งสองนำไปเก็บไว้ และพบรถยนต์ ที่ผู้ต้องหาทั้งสองใช้เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ ซึ่งมีร่องรอยกระสุนปืนและคราบเลือดของผู้เสียชีวิตในรถยนต์คันดังกล่าว
จากการแกะรอยจากกล้องวงจรปิดพบว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ค.67 ผู้ต้องหาทั้งสองได้พาผู้ตายนั่งรถเก๋ง จากจังหวัดภูเก็ตมุ่งหน้าไปยังจ.พังงา โดยมีนางคาดิจายาซิร์ อัซฟาก เป็นคนขับ แต่ระหว่างทางผู้ตายซึ่งนั่งข้างคนขับ ได้มีปากเสียงกับ MR.YASIRASHFAQ ที่นั่งอยู่เบาะหลังในเรื่องธุรกิจ MR.YASIRASHFAQ จึงบอกให้นางคาดิจายาซิร์ ขับรถไปจนถึงบริเวณที่เกิดเหตุ แล้วใช้อาวุธปืนยิง MR.POULOSEVARGHESE จนเสียชีวิต ก่อนลากศพลงไปทิ้งไว้บริเวณที่เกิดเหตุและหลบหนีไป
เบื้องต้นผู้ต้องหาในการสารภาพ ตำรวจคุมตัวทั้งสองคน ดำเนินคดี ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ ก่อนมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต.