“ทนายด่าง” ตั้งคำถามหน้าเมรุเผาศพบุ้ง ถึงมาตรฐาน รพ.ราชทัณฑ์  

19 พ.ค. 67

“ทนายด่าง” ตั้งคำถามหน้าเมรุเผาศพบุ้ง ยัน ได้รับข้อมูลบันทึกการรักษาบุ้ง จากรพ.ธรรมศาสตร์ ระบุมีการใส่ท่อช่วยหายใจในหลอดอาหาร

นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความจากประจำศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน แถลงคำชี้แจงหน้าเมรุเผาศพบุ้ง หลังกรมราชทัณฑ์ออกเอกสารยืนยันการรักษา นางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง นักกิจกรรมทางการเมือง ว่าให้การช่วยเหลือตามมาตรฐานการรักษาวิชาชีพของแพทย์ โดยแพทย์ดำเนินการใส่ท่อช่วยหายใจ ได้นวดหัวใจ พร้อมให้ยากระตุ้นหัวใจ ยากระตุ้นความดันโลหิตตามมาตรฐานการช่วยชีวิตขั้นสูง และทีมบุคลากรทางการแพทย์ให้การดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดตลอดช่วงเวลา จนส่งตัวผู้ป่วยถึงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ  

ซึ่งหลังจากที่ ทนายกฤษฎางค์อ่านคำแถลง ชี้แจงของกรมราชทัณฑ์เสร็จ ก็ได้ฉีกกระดาษที่เป็นเพลสของกรมราชทัณฑ์ทันที

จากนั้นทนายกฤษฎางค์ ได้นำบันทึกการรักษาของนางสาวเนติพร จากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ มาอ่านเพื่อชี้แจงว่า นางสาวเนติพร หมดสติในเวลา 06.23 น. ซึ่งขณะนั้นไม่มีสัญญาณชีพ และมีการทำ CPR จนกระทั่งถูกส่งตัวมายังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ในเวลา 09.30 น. และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

โดยสาเหตุการเสียชีวิตจากการพลิกศพลงความเห็นว่าภาวะหัวใจล้มเหลวโดยเฉียบพลัน ภาวะสมดุลเกลือแร่ผิดปกติ และภาวะหัวใจโต ส่วนผลการตรวจหาสารพิษอยู่ระหว่างการรอผล

โดยจากข้อมูลการรักษาจากเวชระเบียนที่ได้รับจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่รับบุ้งมารักษาในเวลา  09:30 น. ขณะนั้นไม่มีสัญญาณชีพคลื่นหัวใจแรกรับไม่มีคลื่นไฟฟ้าของหัวใจข้างล่าง (Asystole) ไม่มีเสียงลมในปอด แต่กลับได้ยินที่บริเวณลิ้นปี่ และพบพ่อช่วยหายใจอยู่ในหลอดอาหาร รวมถึงค่าคาบอนไดอ๊อกไซด์ ที่วัดการหายใจ ( ETCO2) เท่ากับ 0 มิลลิเมตรปรอต ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจใหม่ที่ห้องฉุกเฉิน และหลังใส่ท่อช่วยหายใจใหม่ ก็ได้ยินเสียงลมที่ปอดทั้ง 2 ข้าง และ ค่าคาบอนไดอ๊อกไซด์ ที่วัดการหายใจ ( ETCO2) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 10 มิลลิเมตรปรอต

ทนายกฤษฎางค์ได้ ตั้งข้อสงสัย ถึงการกู้ชีพ ตั้งแต่ที่บุ้ง ล้มและไม่มีสัญญาณชีพ เมื่อตอน 06.23 น. เป็นเวลา 3 ชั่วโมง กว่าจะมาถึงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ และทนายกฤษฎางค์ 

ยังบอกอีกว่าการใส่ท่อช่วยหายใจในหลอดอาหารเป็นสิ่งที่พบได้ แต่ตามมาตรฐานวิชาชีพ การตรวจสอบเพื่อยืนยันตำแหน่งข้อช่วยหายใจทันทีเป็นเรื่องพื้นฐาน หากไม่แน่ใจต้องมีวิธีในการยืนยัน เพื่อแน่ใจว่าตำแหน่งของท่อช่วยหายใจอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องหรือไม่ และแม้การใส่ท่อช่วยหายใจผิดตำแหน่งอาจไม่ได้เป็นสาเหตุการเสียชีวิตแต่ก็เป็นหนึ่งในความผิดพลาดร้ายแรงที่ทำให้โอกาสการคืนชีพของบุ้งน้อยลงจนกลายเป็นแทบไม่มีโอกาสการรอดชีวิต

ดังนั้นทนายความและครอบครัวจึงตั้งคำถามกับทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับบุ้งตั้งแต่การดูแลก่อนการเสียชีวิตการกู้ชีพไปจนถึงการส่งตัวเพื่อรักษาต่อ เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ทราบถึงมาตรฐานของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ถูกคุมขังคนอื่นที่ต้องใช้โรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่เกิดเหตุในลักษณะเช่นเดียวกับบุ้งอีก ทนายกฤษฎางค์ ยังบอกอีกว่าสิ่งที่ตนและครอบครัวบุ้ง สงสัยนั้นไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง

นอกจากนี้ทนายกฤษฎางค์ ยังบอกอีกว่าพูดคุยกับมรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ว่า รถฉุกเฉินที่นำตัว บุ้ง ไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ภายในมีแพทย์และผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์อยู่ในรถคันดังกล่าวอีกด้วย

ขณะที่พรุ่งนี้ เวลา 09.30 น. ทีมทนายความ และกลุ่มเพื่อนจะเดินทางไปยังโรงพยาบาลราชทัณฑ์เพื่อขอประวัติการรักษาบุ้ง 5 วันก่อนเสียชีวิต หลังถูกเลื่อนการส่งเอกสารมาถึง 7 ครั้ง

จากนั้นเวลา 14.24 น. ญาติและครอบครัว พร้อมกลุ่มเพื่อน โดยมีนางสาวณัฐนิษ ดวงมุสิทธิ์ หรือ ใบปอ เป็นผู้ถือรูปหน้าศพ พี่สาวของบุ้ง ถือ กระถางธูป และมีนายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือ สายน้ำ นางสาวอรวรรณ ภู่พงษ์ หรือแบม นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และเพื่อนกลุ่มทะลุวัง ร่วมกันเข็นรถเพื่อเคลื่อนโลงศพ และมีกลุ่มประชาชน เดินต่อท้ายขบวนเพื่อเวียนรอบเมรุ จำนวน 3 รอบ และระหว่างเวียนรอบเมรุ ได้มีการเปิดเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา , เพื่อมวลชน , ฝากรักถึงเจ้าผีเสื้อ รวมถึงการตะโกนเรียกร้องสิทธิการประกันตัวผู้ต้องหาคดีทางการเมือง จากนั้นได้ช่วยกันยกโลงศพขึ้นไปบนเมรุ โดยทางเพื่อนและครอบครัวได้มีการแสดง รำมโนราห์ โดยน้องสาวของบุ้ง เป็นคนรำ และกิจกรรมหน้าไฟ เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้กับบุ้งเป็นครั้งสุดท้าย

ส่วนบุคคลสำคัญทางการเมืองที่มาร่วมการงานฌาปนกิจของบุ้ง มีนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธาน นปช. นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ อดีตแกนนำนปช. แต่จากการสังเกตไม่พบเยาวชนหญิงที่เคยอยู่ในการดูแลของบุ้ง (หยก) มาร่วมงานฌาปนกิจแต่อย่างใด

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส