อีกแล้ว! เที่ยวบินระทึก บั้งไฟเฉียด เครื่องบิน นักพนันประกาศให้นักบินต้องหลบเอง โนสนโนแคร์จะเล่นพนัน ขณะที่หน่วยงานเกี่ยวข้องเงียบกริบ
จากเหตุการณ์นักพนันบั้งไฟไม่พอใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ ห้ามจับเวลาขานบอกเวลาขณะบั้งไฟขึ้นสู่อากาศ เหตุเกิดที่งานประเพณีบุญบั้งไฟแสน บ้านแข้ด่อน ต.เบิด อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา
ต่อมาวันที่ 19 พ.ค. 6 7ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า จะมีการลักลอบเล่นการพนันลักษณะเดียวกัน ในงานประเพณีบุญบั้งไฟแสนที่ด้านหลังวัดสว่างอารมณ์ บ้านจังเกา ม.10 ต.หนองไผ่ล้อม อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ จึงได้เข้าสอบถาม นายวิรุต ตรียวง นายอำเภอสำโรงทาบ ถึงมาตรการการป้องกันไม่ให้มีการเล่นการพนันบั้งไฟในงานบุญ
โดยนายวิรุต กล่าวว่า ได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครองลงพื้นที่สอดส่องดูแลป้องกันแล้ว หากมีการเล่นการพนันในงานเจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการได้เลย หรือหากว่ามีคลิปที่แสดงให้เห็นว่ามีการเล่นพนัน ก็สามารถส่งมาให้ได้ แต่ถ้าไม่มีปรากฎว่ามีการเล่นการพนัน ตนก็ไม่สามารถไประงับงานเขาได้ เนื่องจากเขาขออนุญาตจุดในงานประเพณีถวายปู่-ตา แต่ถ้ามีคลิปชัดเจนเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลัง อส. ตนและป้องกันสามารถสั่งระงับได้เลย
ส่วนเรื่องการขานเวลา ตนไม่แน่ใจในประเพณีของเขา เพราะตนเพิ่งมารับตำแหน่งที่นี่ แต่ถ้ามีการนำเงินมาพนันขันต่อกันก็ผิดกฎหมาย ซึ่งทางตำรวจจะเป็นผู้ที่ชำนาญในเรื่องนี้ สื่อมวลชนสามารถประสานเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในงานได้เลย
ต่อมาช่วงเวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 19 พ.ค. 67 บั้งไฟบั้งแรกก็ได้ถูกปล่อยให้สู่อากาศ และได้รับคลิปจากผู้ที่อยู่ภายในงานถ่ายส่งมาให้จำนวนหลายคลิปเป็นคลิปภาพที่มีการเล่นพนันขันต่อกันอย่างโจ๋งครึ่ม มีการประกาศขานเวลาบั้งไฟขึ้นผ่านทางเครื่องขยายเสียงชัดเจน
ผู้สื่อข่าวจึงได้โทรประสานแจ้งปลัดป้องกันอำเภอว่า กำลังมีการเล่นพนันบั้งไฟกันอยู่ในงาน ทางปลัดป้องกันอำเภอก็ได้ยืนยันว่าไม่มี เพราะตนเพิ่งออกมา จึงส่งคลิปที่ได้ให้กับปลัดป้องกันอำเภอสำโรงทาบดู และฝากให้ส่งต่อรายงานให้กับทางนายอำเภอรับทราบด้วย เพื่อให้หามาตรการป้องกันเหตุ หรือดำเนินการระงับตามที่นายอำเภอได้กล่าวไว้
ขณะที่บั้งไฟก็ทยอยขึ้นฐานไฟเรื่อยๆ แต่ก็ไม่มีมาตรการใดๆ ออกมา นักพนันบั้งไฟก็ยังคงเล่นกันอย่างสบายใจเหมือนเดิม ผู้สื่อข่าวได้ประสานทั้งนายอำเภอปลัดป้องกันอำเภอและเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างก็เงียบกริบ และไม่มีใครรับสาย หรือแจ้งกลับให้ทราบ
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบความจริงตามคลิปที่ได้รับ พบว่าผู้ที่จะเข้าไปในงานประเพณีบั้งไฟแสน ต้องซื้อโบว์ติดเพื่อเข้าไปชม คนละ 100 บาท ภายในงานพบนักพนันจำนวนหลักพันกว่าคนกำลังต่อรองราคาเล่นพนันกันอย่างโจ๋งครึ่ม ก่อนที่บั้งไฟจะขึ้นสู่อากาศ โดยมีกรรมการกลางคอยประกาศบอกเวลาผ่านเครื่องขยายเสียงให้เซียนพนันได้รับทราบ ทุกครั้งที่บั้งไฟขึ้นจากฐานปล่อยลอยอยู่บนอากาศ ก่อนสรุปเวลาให้ได้รับทราบ
ทั้งนี้จากการสังเกตพบว่า ไม่พบมีเจ้าหน้าที่แต่งกายในชุดเครื่องแบบอยู่ภายในงาน และบริเวณฐานจุดบั้งไฟดังกล่าว ยังพบว่ามีเครื่องบินจากสายการบินต่างๆ บินผ่านจำนวนหลายเที่ยวบิน ในจำนวนนั้น มีหนึ่งสายการบินที่เกือบถูกบั้งไฟพุ่งชน รอดผ่านไปได้อย่างเฉียดฉิว ก่อนที่จะได้ยินเสียงประกาศผ่านทางเครื่องขยายเสียงว่า การจุดครั้งนี้ได้มีการแจ้งจุดปล่อย และแจ้งวิทยุการบินแล้ว ทีมนักบินก็เหมือนกันถ้าคุณไม่หลบคุณก็จะชน ขณะที่การจุดบั้งไฟยังคงดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่องจนเสร็จงาน
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังเดินทางกลับได้รับโทรศัพท์จากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้มีการเข้าไปจับกุมผู้หาได้จำนวน 2 ราย กำลังนำตัวส่งดำเนินคดี โดยผู้สื่อข่าวได้แนะนำว่าให้ทางเจ้าหน้าที่ให้กรรมการกลางหยุดประกาศขานเวลาจึงจะหยุดการเล่นนักพนันได้ เพราะถ้านักพนันไม่รู้เวลาก็ไม่สามารถเล่นพนันกันได้ หากจะจับคนเล่นเป็นพันคนคงเป็นไปได้ยาก
ทั้งนี ในท้ายราชกิจจานุเบกษา ของประกาศจังหวัดสุรินทร์ ข้อ 3. ให้เพิ่มความต่อไปนี้ เป็นข้อ 5.5 และข้อ 5.6 ของประกาศจังหวัดสุรินทร์ เรื่องมาตรการป้องกันและการรักษาความปลอดภัยและการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนในการจุดและปล่อย หรือกระทำการอย่างใดเพื่อให้บั้งไฟ ตะไล หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศ ลงวันที่ 11 ก.ค. 57
"5.5 หากปรากฏว่ามีการกระทำอันน่าเชื่อได้ว่ามีการลักลอบเล่นการพนันบั้งไฟ ตะไล หรือ วัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกัน นายอำเภอแห่งท้องที่ อาจพิจารณาไม่อนุญาตให้มีการจุดและปล่อยหรือกระทำการอย่างใด เพื่อให้บั้งไฟ ตะไล หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศในพื้นที่ดังกล่าวในปีถัดไป 5.6 หากปรากฏในภายหลังว่า มีการดำเนินการใดที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หรือเงื่อนไขแห่งการอนุญาต หรือมีการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย หรือการกระทำอื่นใด อันมีลักษณะเป็นอย่างเดียวกัน นายอำเภอแห่งท้องที่ มีอำนาจสั่งระงับมิให้มีการจุดและปล่อยหรือกระทำการอย่างใดเพื่อให้บั้งไฟ ตะไล หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันขึ้นไปสู่อากาศได้" 4. ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 3 เม.ย. 67 โดยนายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์