จตุพร ประเมิน พิชิตลาออก หยุดยั้งความผิด เศรษฐา ไม่ได้ เชื่อศาล รธน.รับพิจารณา ส่อถูกสั่งหยุดปฎิบัติหน้าที่
เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2567 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ โดยประเมินสถานการณ์ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ที่ถูก 40 สว.ยื่นคำร้องถอดถอนจากตำแหน่ง และคาดศาล รธน.จะรับคำร้องไว้พิจารณาและสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ทัน
อีกทั้งกล่าวถึงข่าว นายพิชิต ชื่นบาน จะลาออกจาก รมต.ประจำสำนักนายกฯว่า คำร้องของ 40 สว.ได้กล่าวโทษนายเศรษฐา ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะเป็นคนแต่งตั้งนายพิชิต เป็น รมต. ซึ่งน่าจะเป็นความผิดหลักตาม รธน.มาตรา 160 (4)และ (5) ซึ่งว่าด้วยคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี ดังนั้น กรณีนี้ความผิดทั้งปวงคงอยู่ที่คนแต่งตั้งนายพิชิตเป็น รมต. คือ นายเศรษฐา พร้อมเชื่อว่า ปฏิบัติการลับของ 40 สว. เป็นการตอบโต้ฉับพลัน ซึ่งคาดมาจากการเบี้ยวดีลลังกาวี โดย สว.ลงชื่อ 40 คน ยื่นประธาน สว.เพื่อส่งศาล รธน. และมีการรับคำร้องให้ตุลาการศาล รธน.วินิจฉัยจะรับไว้พิจารณาหรือไม่ ในวันที่ 23 พ.ค.นี้จะมีคำสั่งชัดเจน
นายจตุพร ประเมินว่า นายเศรษฐา ไม่ได้คิดถึงขั้นถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ศาล รธน.นัดพิจารณารับคำร้องหรือไม่วันที่ 23 พ.ค.นี้ โดยคาดจากเงื่อนไขช่วงเวลาว่า ต้องการส่งสัญญาณไปถึงวันที่ 29 พ.ค.นี้ ที่ทักษิณ ชินวัตร ต้องไปฟังคำสั่งอัยการสูงสุดจะยื่นฟ้องคดี ม.112 หรือไม่
“ดูเหมือนคำร้องและกำหนดวันที่ 23 พ.ค.เพื่อพิจารณารับหรือไม่รับคำร้องนั้น คาดว่าจะให้บทเรียนกับการเบี้ยวดีลจนเกิดความเสียหายมากมายตั้งแต่ไม่ปฏิบัติตามพระบรมราชโองการ รวมทั้งการทำตัวเป็นนักโทษอภิสิทธิ์ชนสองมาตรฐานไม่ยอมติดคุกสักวัน อันเป็นพฤติกรรมทำลายกระบวนการยุติธรรมยับเยิน พร้อมเชิดชูการตระบัดสัตย์เป็นเรื่องที่ดีงามไป”
ไม่เพียงเท่านั้น ดีลนรกลังกาวียังเปิดโอกาสให้รัฐบาลพยายามทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต มาทำลายระบบเศรษฐกิจของประเทศแทบพังพินาศ นอกจากนี้ยังกระตุ้นหนุนให้ต่างชาติมาลงทุนโครงการแลนด์บริดจ์เพื่อครอบครองแผ่นดินไทยนานถึง 99 ปี อีกทั้งยังมีความพยายามก่อตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ คาสิโน มาทำลายสังคมไทยให้เสียหายแหลกลาญด้วย"การเสียหายทั้งหมดมาจากการสมคบคิดตั้งแต่วันยึดอำนาจเมื่อ 22 พ.ค. 2557 แล้วมาคืนอำนาจกลับสู่พรรคที่ถูกยึดไปในวันที่ 22 ส.ค. 2566 จึงแสดงให้เห็นการสมคบคิดชัดเจน เพราะการยึดอำนาจปี 2557 อ้างเหตุผลถึงความเหลวแหลกของรัฐบาล แล้วมาคืนอำนาจให้ จึงเป็นการสมคบคิดตั้งแต่บัดนั้นจนถึงบัดนี้”
นายจตุพร กล่าวว่า ประเทศไทยกว่า 10 ปีถูกละเลงด้วยการสมคบคิดแล้วนำไปสู่การดีลลังกาวี ดังนั้น 20 ปีที่สู้กันมา การเสียชีวิตมีทุกฝ่ายจึงเป็นความสูญเปล่า โดยมีการเล่นละครอำนาจเป็นฉากบังหน้า เมื่อประกาศต่อสู้กับเผด็จการ แต่ต้องจับมือกับเผด็จการ จนประชาชนดูเหมือนถูกหลอกซ้ำๆ มานาน
รวมทั้งกล่าวว่า สิ่งสำคัญประชาชนต้องไม่ลืมว่า การยึดอำนาจเมื่อ 22 พ.ค. 2557 ถึงการตั้งรัฐบาลเพื่อไทยในวันที่ 22 ส.ค. 2566 ดังนั้น เมื่อบ้านเมืองมาถึงจุดการสมคบคิดอีกครั้ง โดยปฏิบัติการลับของ 40 สว.ยื่นถอดถอนนายเศรษฐา จึงรอดยากมาก เพราะไปตั้งนายพิชิตเป็น รมต. ซึ่งขัดคุณสมบัติตาม รธน.กำหนดไว้ในด้านขาดมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง จึงสะท้อนถึงไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ซึ่งขัด รธน. มาตรา 160 (4) และ (5)
"นายพิชิต มีเรื่องคุณสมบัติเป็น รมต.ขัด รธน. แต่นายกฯ กลับไปตั้งเป็น รมต.จึงเป็นความผิดหลักและที่สำคัญ แม้นายพิชิตลาออกจาก รมต. แต่ความผิดของนายเศรษฐายังมีอยู่ เรื่องก็ไม่จบ ศาล รธน.สามารถพิจารณาความผิดทั้งด้านจริยธรรมและความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ ซึ่งเป็นความผิดที่กว้างขวางยิ่ง”
พร้อมกล่าวว่า ถ้านายเศรษฐาและนายพิชิตลาออกด้วยกันทั้งสองคน แต่ความผิดตามคำร้องยังไม่จบสิ้นลง เพราะต้องย้ายการพิจารณาไปที่ศาลฎีกาเกี่ยวกับการทุจริต ดังนั้น คาดว่าในวันที่ 23 พ.ค.นี้ ศาล รธน.เบื้องต้นจะรับคำร้องที่ส่งจากประธานสภาเกี่ยวกับการกล่าวหาคุณสมบัติ รมต.เป็นหลัก และสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นตัวอย่างในการถูกคำสั่งนี้มาแล้ว
"ผมเชื่อว่า จะสั่งวันที่ 23 พ.ค.นี้ เพื่อเป็นสัญญาณไปถึงวันที่ 29 พ.ค.นี้ว่า คุณ ทักษิณ จะอยู่ในไทยต่อไปหรือจะรับกับผลลัพธ์สั่งฟ้องคดี ม.112 แล้วขอประกันตัว แต่ต้องเข้าเรือนจำ สิ่งนี้จึงเป็นศาลาวัดใจ ซึ่งเชื่อว่า เป็นแบบที่ถูกวาง กำหนดไว้แล้ว เพื่อให้เวลาหนึ่งสัปดาห์ให้คนวันที่ 29 พ.ค.ได้เห็น"
นายจตุพร คาดว่า หากศาล รธน.รับพิจารณาคำร้อง 40 สว.ในวันที่ 23 พ.ค.นี้แล้วสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที จะส่งแรงกระเพื่อมกับพรรคการเมืองครั้งใหญ่จนปั่นป่วน จะเห็นปรากฎการณ์โยกย้ายพรรคทั้งซีกรัฐบาลและฝ่ายค้าน
อีกอย่าง ถ้าผลวันที่ 29 พ.ค.นี้ อัยการไม่ฟ้องทักษิณในคดี ม.112 ยิ่งจะทำให้อารมณ์สังคมเดือดดาลในเรื่องสองมาตรฐานเมื่อไปเทียบกับคดีบุ้ง-เนติพร เสน่ห์สังคม ได้ชัดเจน ดังนั้น วันที่ 23 พ.ค.นี้ จะพิสูจน์ว่ามีไฟเขียวตามการแอบอ้างจริงหรือไม่ ซึ่งประชาชนจะได้เห็นกันและควรต้องลุกตื่นขึ้นถ่วงดุลอำนาจการเปลี่ยนแปลงตบตาที่สัมพันธ์กันด้วยผลประโยชน์เหมือนเดิม
“ดังนั้น การตื่นรู้ของประชาชนจะทำให้บ้านเมืองไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ถูกต้องและเป็นจริงได้” นายจตุพร เชื่อในพลังตื่นรู้ของประชาชน ประเทศไทยต้องมาก่อน.