สลด ไฟไหม้กุฎิร้าง วัดสวนแก้ว เด็กวัดวัยฟันน้ำนมนอนกอดกันดับอนาถ 3 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำเครื่องตัดถ่างนำร่างออกมา สภาพไหม้เกรียม
เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 22 พ.ค. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางใญ่ ได้รับแจ้ง เหตุเพลิงไหม้กุฎิร้าง ภายในวัดสวนแก้ว อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ
ด.ช.ปัณณวิชญ์ อายุ 11 ปี ด.ช.ปัณณวัฒน์ 11 ปี และ ด.ช.ธีรพงษ์ อายุ 9 ปี จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางใหญ่ รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุบริเวณภายในกุฎิแห่งหนึ่ง ภายในวัดสวนแก้ว อ.เมือง จ.นนทบุรี ตั้งอยู่ห่างจากซุ้มประตูวัด ระยะทางประมาณ 500 เมตร พบว่า บริเวณกุฏิได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้ทั้งหลัง โดยบริเวณด้านหน้ากุฎิได้มีเก้าอี้พลาสติก 1 ตัว สีน้ำเงินวางอยู่ด้านหน้า พร้อมกับลังกระดาษ 1 ลังวางอยู่ใกล้เคียงกัน
ส่วนรอบข้างได้มีเสื้อผ้าลายสก็อตตากไว้ข้างกุฎิจำนวน 2 ตัว และเสื้อผ้าอื่นๆ ได้ตากไว้อยู่ประมาณ 2-3 ตัว ส่วนบริเวณด้านในกุฎิพบศพเด็กผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ราย นอนเรียงใช้มือกอดกันอยู่ ตามร่างกายมีบาดแผลเกิดจากการเผาไหม้ ส่วนบริเวณประตูภายในกุฎิถูกล็อกด้วยแม่กุญแจ ทางด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ใช้เครื่องตัดถ่างแม่กุญแจดังกล่าวเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ภายในวัดสวนแก้ว เปิดเผยว่า กุฎิดังกล่าวนั้นเป็นกุฎิร้าง ไม่มีใครอาศัยอยู่ ในขณะเกิดเหตุตนไม่ทราบว่ามีเด็กทั้ง 3 ราย ซึ่งเป็นเด็กที่อาศัยอยู่ภายในวัดเข้ามาเล่นในกุฎิดังกล่าว แต่มารู้ภายหลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ไปแล้ว จึงเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
นายทศพล ฟักประไพ อายุ 38 ปี ผู้บริหารการแพทย์ร่วมกตัญญูจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า เบื้องต้นตนได้รับแจ้งเหตุว่า มีคนถูกไฟลวกจำนวน 1 ราย ภายในวัดสวน แต่ปรากฏว่าพอมาถึงที่เกิดเหตุพบว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 3 ราย เป็นเด็กอายุไม่เกิน 11 ปี พอตนมาถึงที่เกิดเหตุก็ทราบว่า เป็นเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดเหตุเป็นภายในกุฎิแห่งหนึ่งภายในวัดสวนแก้ว
เบื้องต้นตอนนี้ทางการไฟฟ้าได้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยมีการตัดกระแสไฟ เพื่อตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตในตอนนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบสาเหตุ ส่วนผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย จากการสอบถามทางแม่ชี ซึ่งเป็นผู้ที่เลี้ยงดูเด็กทั้งหมด เป็นเด็กที่ทางวัดอุปการะเลี้ยงดูไว้ ซึ่ง 2 ใน 3 รายที่เสียชีวิตเป็นคู่แฝดกัน ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุของการเสียชีวิตจากเด็กทั้ง 3 ราย
ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่ง กล่าวว่า ปกติแล้วบริเวณกุฏิที่เกิดเหตุดังกล่าวเป็นกุฏิที่ให้สามเณรที่บวชในภาคฤดูร้อนได้พักอาศัยอยู่ ซึ่งตอนเกิดเหตุได้มีเด็กวัดที่มาอาศัยอยู่ในกุฎิดังกล่าว เป็นฝาแฝดที่อาศัยอยู่ แต่หลังจากนั้นได้มีเด็กวัดรายอื่นได้เข้ามาเล่นกันภายในกุฏิ รวมทั้งหมดจำนวน 5 ราย แต่หลังจากนั้นได้มีเด็กวัดจำนวน 2 ราย รู้สึกง่วงง่วงนอนจึงได้เดินทางกลับไปหาแม่ชีที่ได้เลี้ยงดูตัวเองอยู่ ก่อนจะเกิดเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าวขึ้น
ต่อมาเวลา 01.50 น. วันที่ 23 พ.ค.67 เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้นำเครื่องตัดถ่างมาตัด บริเวณประตูหน้ากุฎิ เนื่องจากกลัวกุฏิดังกล่าวจะพังลงมา เพราะถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายทั้งหลัง โดยศพทั้ง 3 ราย สภาพร่างกายถูกความร้อนเผาไหม้ผิวหนังสีดำเกรียมหลุดลอก และมีหนังบางตำแหน่งปริถึงชั้นกล้ามเนื้อ สภาพศีรษะสั้นเกรียน ซึ่งทั้ง 3 ราย สภาพศพได้นอนคว่ำอยู่ภายในกุฎิ มีน้ำลายฟูมปาก
เบื้องต้นทางด้าน ร.ต.ท.จักรกฤษณ์ โดรณ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางใหญ่ ได้บันทึกภาพหลักฐานที่เกิดเหตุ พร้อมนำศพผู้เสียชีวิตนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตต่อไป พร้อมเตรียมประสานญาติผู้เสียชีวิต เพื่อนำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนา