“จูน นาตาชา” เข้าพิธีรับใบประกาศนียบัตรจบหลักสูตร พัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร กองทัพบก รุ่นที่ 30 พร้อมเดินหน้าช่วยเหลือประเทศชาติ เป็นปีที่ 10
“จูน นาตาชา” สาวสวยเก่งมากความสามารถที่ตอนนี้กำลังศึกษาระดับปริญญาโทการทูตและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พร้อมเรียนหลักสูตรผู้นำกับ Harvard business school hbsonthego ของมหาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังเป็นเจ้าของธุรกิจในตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท รวมถึงนักช่วยสังคม เดินหน้าทำภาระกิจช่วยเหลือประเทศชาติด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ โดยเป็นประธานจัดตั้งโครงการช่วยเหลือสังคมเข้าสู่ปีที่ 10 อย่างโครงการ “FRIEND OF JUNE” และโครงการ World Trend Soft Power ซึ่งเป็นโครงการช่วยเหลือสังคมตลอดมา
ล่าสุด “จูน นาตาชา” ได้เข้าพิธีรับใบประกาศนียบัตรจบหลักสูตร พัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร กองทัพบก รุ่นที่ 30 ในวันที่ 21 พ.ค.67 ณ กองบัญชาการกองทัพบก โดย พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีปิดหลักสูตรในครั้งนี้ พร้อมมอบใบประกาศนียบัตรให้กับผู้สำเร็จการอบรมทั้งสิ้น 71 ราย ประกอบด้วยข้าราชการทหารและตำรวจ 22 นาย ข้าราชการพลเรือน พนักงานรัฐวิสาหกิจและพนักงานองค์กรของรัฐ จำนวน 12 ราย และนักธุรกิจภาคเอกชน จำนวน 37 ราย เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคลากร ของหน่วยงานความมั่นคง ภาครัฐ ภาควิสาหกิจ สื่อมวลชนและภาคประชาชน ในการร่วมกันสนับสนุนภารกิจของกองทัพบกและร่วมแก้ไขปัญหาภัยคุกคามด้านความมั่นคงของประเทศ
“จูน นาตาชา” ได้กล่าวถึงความภาคภูมิใจในการร่วมเป็นหนึ่งในโครงการอบรมพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร กองทัพบก รุ่นที่ 30 ว่า “จูนจบหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร กองทัพบกรุ่นที่ 30 แล้วค่ะ ในฐานะที่จูนได้รับหน้าที่เป็นคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์และฝ่ายกิจกรรมของรุ่น ทุก ๆ ภารกิจของหลักสูตร จูนได้ร่วมปฏิบัติอย่างเต็มที่ ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ เพื่อสนับสนุนภารกิจของกองทัพบก ในการปกป้องประเทศชาติ จาก vision เดียวกัน ไปสู่ mission ที่ทำให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ เพราะการปกป้องชาติบ้านเมืองนั้น ไม่ใช่ภาระของใครคนใดคนหนึ่ง ทุกคนจะต้องร่วมมือร่วมใจกัน โดยประโยชน์ของหลักสูตรนี้ เป็นการผนึกกำลังและสานสัมพันธ์ของภาครัฐกับภาคเอกชนให้เหนี่ยวแน่น เพื่อปกป้องชาติบ้านเมือง ให้อยู่อย่างสงบสุข เกิดความสมานฉันท์ ในทุกมิติ จูนรักและหวงแหนแผ่นดินไทย ตระหนักเสมอว่าการที่เราได้เกิดมาในผืนแผ่นดินไทย ได้อยู่อาศัยอย่างผาสุขตลอดมาโดยไม่มีผู้ใดมารุกราน ไม่ต้องตกเป็นเมืองขึ้นของใคร ถือเป็นความโชคดีของคนไทยอันหาที่สุดไม่ได้ กระนั้นแล้ว เราในฐานะคนไทยและลูกหลานของแผ่นดินไทย เราต้องรัก ต้องหวงแหน และกตัญญูต่อแผ่นดินเกิด สืบไป”