พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย แจงยังอยู่บ้านหลวง (บ้านพักทหาร) เพราะบ้านไกลจาก ก.มหาดไทย แต่พร้อมย้ายออกทันที
พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะอดีตผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ ถึงการพักอาศัยในบ้านพักสวัสดิการของทหาร ว่า ไม่ว่าจะมีกฎระเบียบออกมาอย่างไรก็ต้องปฏิบัติตาม ตนก็เตรียมบ้านไว้แล้ว แต่เพราะความสะดวกจึงยังอยู่ ไม่ได้มีจุดประสงค์ใด เดิมทีตนก็ไม่ค่อยได้อยู่บ้านพักสวัสดิการ แต่ตอนทำงานที่ ก.มหาดไทย เดินทางไม่ไหวเพราะไกล แต่ถ้ามีกฎระเบียบอย่างไรก็พร้อมปฏิบัติ
ทั้งนี้เมื่อถามว่า กฎระเบียบที่ว่านี้ต้องเขียนให้ชัดเจนขึ้นมาหรือไม่ พลเอกอนุพงษ์ กล่าวว่า ของเดิมมีอยู่แล้วว่า จะอนุโลมให้อยู่นานเท่าใด เพราะเป็นระเบียบภายใน และจากการเป็นผู้บังคับบัญชาทหารบกมา บางคนเกษียณแล้วเขายังไม่มีบ้านของตัวเอง เราก็อนุโลมจนเขาหาที่อยู่ได้ บางทีเกิน 6 เดือน แต่ที่ให้ได้ เพราะบ้านพักว่างก็ให้เขาอยู่ดูแล แต่ถ้าบ้านพักเต็มก็ต้องออก
ทั้งนี้ พลเอกอนุพงษ์พร้อมยกตัวอย่างว่าตนเองเคยมีนายทหารวัยเกษียณ อายุมากแล้ว เขานิสัยซื่อสัตย์ ไม่ได้เตรียมตัวด้วย เวลาเกษียณไม่มีบ้านก็อนุโลมให้อยู่ ลูกเด็กเล็กแดงก็ยังเรียนหนังสือ ซึ่งถึงช่วงหนึ่งก็ให้ออกโดยจะดูตามความเหมาะสม
ทั้งนี้ พลเอกอนุพงษ์ กล่าวถึงกรณีกระแสสังคมเป็นห่วงผู้ครอบครองปืนสวัสดิการจากหน่วยงานต่างๆ จะนำปืนเหล่านั้นไปก่อเหตุว่า ตามหลักการถ้ากฎหมายให้ครอบครอง ก็มีได้ ถ้ากฎหมายให้มีไม่ได้ก็มีความผิดทั้งคนให้และผู้ครอบครอง และถือเป็นสิ่งดีหากผู้ซื้อปืนสวัสดิการแล้วไม่ขายต่อก็ถือว่ามีเจตนาดี แต่ที่เขากังวลคือบางคนมีปืนสวัสดิการเป็นสิบกระบอก แล้ววันหนึ่งไม่มีสักกระบอกเป็นเรื่องน่ากลัว เพราะหากนำไปขายแล้วปืนเหล่านั้นจะไปอยู่ที่ไหน แต่ถ้าตกไปเป็นของมรดกก็ไม่เป็นไร เพราะถือว่าตรงตามเจตนารมณ์ของปืนสวัสดิการ ถึงอย่างไรก็ต้องไปดูตามกฎหมายซึ่งเรื่องนี้ก็น่าจะไปเก็บสถิติดู แต่ส่วนตัวมองว่าไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครครอบครองปืนเท่าไหร่แต่อยู่ที่ความประพฤติมากกว่า ซึ่งต้องไปดูว่าผู้ที่ก่อเหตุต่างๆ เขามีปืนสวัสดิการกี่กระบอก