อัดกันมายังไง!ตำรวจถึงกับผงะ จับแรงงานต่างด้าวกระบะ 3 คันยัดกันมา 43 คนแน่นเต็มรถ
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ร่วมกันจับกุม
1.นายเตชินท์ อายุ 30 ปี (ผู้ขับขี่)
2.นายสมัย อายุ 30 ปี (ผู้ขับขี่)
3.นายชยากร อายุ 42 ปี (ผู้ขับขี่) และผู้ถูกจับที่ 4-46 บุคคลต่างด้าว สัญชาติ เมียนมา
หลังกก.1 บก.ทล. ได้กวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่กองกำกับการ 1 อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล.(นครสวรรค์), ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(พระนครศรีอยุธยา), ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล.(สิงห์บุรี) และ ส.ทล.2 กก.1 บก.ทล.(สระบุรี) บูรณาการร่วมกันสืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ
โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทาง ทล.11 กม.72-73 พบ รถกระบะ 3 คัน ขับขี่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้านหน้า ขับขี่มาด้วยความเร็วสูง และมีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์ปกติ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับขี่ติดตามอย่างกระชั้นชิด พบรถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA REVO สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียน พิษณุโลก (ด้านหลัง) , รถกระบะ ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีเทา ติดแผ่นป้ายทะเบียน พิษณุโลก (ด้านหลัง) และ รถกระบะ ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีดำ ติดแผ่นป้ายทะเบียน อุตรดิตถ์ (ด้านหลัง)
โดยมีผ้าใบปิดที่ด้านท้ายรถทั้ง 3 คัน ตำรวจจึงได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถกระบะทั้ง 3 คันให้หยุด แต่ทั้งหมดกลับรีบเร่งเครื่องหนี และพยายามจะขับชนรถของเจ้าหน้าที่หลายครั้ง
กระทั่งมาถึง บริเวณ กม.72-73 ทล.11 ต.โคกเดื่อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ ตำรวจได้ขับประกบก่อนสกัดข้างหน้า จนทำให้รถทั้ง 3 คันหยุดลง และคนขับพยายามจะหลบหนี ตำรวจจึงรีบกระจายกำลังเข้าทำการจับกุมตัวเร่งด่วน
โดยรถคันที่ 1 พบมีบุคคลต่างด้าว สัญชาติเมียนมา 14 คน รถคันที่ 2 มีบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา 15 คน และรถคันที่ 3 มีบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา 14 คน โดยสารมากับรถไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง
สอบคนขับรถทั้ง 3 คน ยอมรับว่า ได้รับการประสานจากชายไทย (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ให้ไปรับแรงงานต่างด้าว ที่บริเวณ พื้นที่ จ.กำแพงเพชร และ จ.พิษณุโลก เพื่อไปส่งปลายทางที่ อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์ โดยได้ค่าจ้าง 12,000-15,000 บาทต่อครั้ง จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ โดยเงินค่าจ้างที่ได้มาจะนำไปเที่ยวและใช้จ่ายต่างๆ
ขณะที่บุคคลต่างด้าวที่ถูกจับ มีการสอบถามผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมาให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่าย 15,000 - 25,000 บาท จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไพศาลี ภ.จว.นครสวรรค์ ดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมกับแจ้งข้อหาคนขับรถ “ซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือหรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นจากการจับกุม”
ส่วนแรงงานต่างด้าวทั้ง 43 คน ถูกแจ้ง “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”
