เปิดคำพูด เสี่ยแป้ง นาโหนด “ผมยอมแล้วครับนาย จบแล้วเรื่องการหนี”

31 พ.ค. 67

 

เปิดคำพูด เสี่ยแป้ง นาโหนด บอก รมว.ยุติธรรม “ผมยอมแล้วครับนาย จบแล้วเรื่องการหนี” หิ้วตัวกลับไทย 2 มิ.ย. นี้ จ่อโอนเป็นคดีพิเศษ 

จากกรณี ทางการอินโดนีเซียจับกุมตัว นาย เชาวลิต ทองด้วง หรือ เสี่ยแป้ง นาโหนด อายุ 37 ปี นักโทษหนีคดีคนสำคัญที่ทางการไทยต้องการตัวได้เมื่อวานนี้ (30 พ.ค. 67) ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ 

วันที่ 31 พ.ค. 67 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าว่า กรณีดังกล่าวทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ประสานกับทางตำรวจสากลของประเทศอินโดนีเซียเรียบร้อยแล้ว ได้รับแจ้งว่า สามารถรับตัว เสี่ยแป้ง นาโหนด กลับมาดำเนินคดีในไทยได้ตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. เป็นต้นไป 

เนื่องจากอินโดนีเซีย ได้แจ้งดำเนินคดีเพียงข้อกล่าวหาปลอมแปลงเอกสารทางราชการ เพื่อลักลอบเข้าประเทศ ส่วนคดีทำร้ายร่างกายผู้หญิงนั้น ไม่พบว่ามีผู้หญิงมาแจ้งความร้องทุกข์ ขณะนี้ตำรวจของอินโดนีเซียอยู่ระหว่างดำเนินการขั้นตอนการรับส่งตัว 

โดยพรุ่งนี้ (1 มิ.ย. 67) ตนจะเดินทางไปประสานการรับมอบตัว คาดว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยพร้อมกับ เสี่ยแป้ง นาโหนดได้ ซึ่งต้องการดำเนินการให้เร็วที่สุด ตั้งแต่วันนี้ก็ได้ส่งตัวแทนของทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกรมราชทัณฑ์ รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ไปประสานงานล่วงหน้าแล้ว 

พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า สำหรับขั้นตอนการนำตัว เสี่ยแป้ง นาโหนด กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยนั้น เบื้องต้นยังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะใช้เครื่องบินพาณิชย์ไปรับหรือไม่ เมื่อนำตัวกลับมาแล้วจะเปลี่ยนสถานที่คุมขังเป็นเรือนจำที่มีความมั่นคงสูง ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีอยู่ทั้งหมด 5 แห่ง แต่จะไม่ส่งตัวกลับไปที่เรือนจำนครศรีธรรมราชอีก เนื่องจากอาจมีผู้คอยให้การช่วยเหลือได้ 

สำหรับขั้นตอนการรับตัวนั้น เมื่อนำตัวกลับมายัง ประเทศไทยแล้ว ตำรวจจะนำตัวไปสอบสวน และนำตัวไปฝากขัง ซึ่งอาจเป็นพนักงานสอบสวนในพื้นที่ จ.พัทลุงและนครศรีธรรมราช เนื่องจากในพื้นที่ จ.พัทลุง เสี่ยแป้ง นาโหนด มีคดีพกพาอาวุธปืน พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งศาลได้พิพากษาจำคุกตลอดชีวิตแล้ว ส่วนในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราชมีข้อหาหลบหนีจากที่คุมขัง และพกพาอาวุธปืน ซึ่งเป็นคดีใหม่ แต่อาจพิจารณาโอนคดีมายังส่วนกลางได้ และอาจให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ พิจารณารับเป็นคดีพิเศษต่อไป 

ส่วนกรมราชทัณฑ์ก็จะต้องพิจารณาว่าจะใช้สถานที่คุมขังใด เพื่อไม่ให้ผู้ถูกคุมขังหลบหนี และไปก่อเหตุร้าย ซึ่งจะพิจารณาใช้เรือนจำความมั่นคงสูงที่มีอยู่ทั้งหมด 5  แห่งในประเทศไทย แต่จะไม่ส่งกลับไปที่เรือนจำนครศรีธรรมราช เนื่องจากเกรงว่าจะมีผู้คอยให้ความช่วยเหลือ และใช้อดีตเป็นบทเรียนไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำสองอีก 

ส่วนกรณีที่ เสี่ยแป้ง นาโหนด ได้ร้องขอความเป็นธรรมก่อนหน้านี้นั้น ทางกระทรวงยุติธรรมได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และจะให้ความเป็นธรรม ภายหลังจากนำตัว เสี่ยแป้ง นาโหนด กลับมาแล้วก็จะนำตัวมาสอบปากคำ เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในประเด็นอื่นๆ ต่อไป เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ 

ทั้งนี้จากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบว่ามีชาวอินโดนีเซียให้การช่วยเหลือ เสี่ยแป้ง นาโหนด ในการหลบหนี ต้องให้ทางการอินโดนีเซียเป็นผู้ตรวจสอบอีกครั้ง แต่เชื่อว่าเสี่ยแป้ง นาโหนด ไม่สามารถดำเนินการคนเดียวได้ ถ้าไม่มีต่างชาติให้ความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการปลอมบัตรประชาชน การอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมหรู หรือการเดินทางไปยังเกาะบาหลี   

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า วานนี้ที่ได้พูดคุยกับ เสี่ยแป้ง นาโหนด พอเห็นหน้าตนก็กล่าวว่า “ผมยอมแล้วครับนาย จบแล้วเรื่องการหนี” ซึ่งกล่าวได้สองสามประโยค ไม่ได้พาดพิงใคร 

ส่วนกรณีที่ เสี่ยแป้ง นาโหนด ถูกประชิดตัวจนถูกจับกุมได้ในที่สุดนั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เป็นความประมาทของ เสี่ยแป้ง นาโหนด เอง แต่ยอมรับว่าการติดตามตัว เสี่ยแป้ง นาโหนดนั้นมีความยากพอสมควร เนื่องจาก เสี่ยแป้ง นาโหนด ใช้ชื่อบุคคลอื่นในการจองที่พักหลายห้อง และเปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยๆ  ส่วนไทม์ไลน์การหลบหนี ยังขอไม่เปิดเผย เนื่องจากข้อมูลยังไม่ชัดเจน ขอให้รอผลการสอบสวนจากทางตำรวจก่อน 

ส่วนกรณีที่มีตำรวจหญิงเปิดเผยข้อมูลที่อยู่ของ เสี่ยแป้ง นาโหนด ที่อินโดนีเซียจนเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมได้นั้น เป็นเรื่องในสำนวนคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผล

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส