เจอต้นตอทำน้ำทะเลหาดแม่รำพึงเป็นสีดำแล้ว เป็นพื้นที่ดินว่างเปล่ากว่า 3 ร้อยไร่ของเอกชน แต่ยังไม่สามารถหาแนวทางแก้ไขได้
วันนี้ (31พ.ค.67)นายทวีป แสงกระจ่าง นายกอบ ต.ตะพงและนายพงษ์ศักดิ์ คงคารัตน์ ปลัดอำเภอเมืองจังหวัดระยอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุน้ำทะเลหาดแม่รำพึงเป็นสีดำ
และจากการตรวจสอบพบพื้นที่ดินกว่า 3 ร้อยไร่ ของเอกชนในพื้นที่หมู่ 13 ตำบลตะพง เป็นที่ดินว่างเปล่ามีต้นหญ้าและต้นวัชพืชหลายชนิดขึ้นปกคลุมเต็มพื้นที่ ซึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ผ่านมามีฝนตกหนักหลายวันติดต่อกัน ทำให้พื้นที่กว่า 3 ร้อยไร่ ถูกน้ำท่วม ทำให้ต้นหญ้าและต้นวัชพืชถูกน้ำท่วมล้มตายส่งผลให้น้ำแปรสภาพเป็นสีดำจำนวนมาก มีกลิ่นเน่าเหม็นไหลลงคลองสาธารณะ ก่อนไหลลงทะเลบริเวณหาดแม่รำพึง จึงทำให้น้ำทะเลเป็นสีดำ และมีกลิ่นเน่าเหม็นตามที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ
นายทวีป นายกอบต.ตะพง เปิดเผยว่า เนื่องจากพื้นที่ต้นตอทำน้ำทะเลเป็นสีดำเป็นของเอกชน อบต.ไม่สามารถเข้าไปดำเนินการได้
ส่วนแนวทางแก้ไขปัญหาไม่สามารถทำได้เนื่องจากมีหน่วยงานที่รับผิดชอบ 4 หน่วยงาน คือ อบต.ตะพง อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เสม็ด แขวงการทางหลวชนบท และสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาระยอง ซึ่งที่ผ่านมาอบต.ตะพ ได้มีการพูดคุยกับอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดให้ยกพื้นที่หาดแม่รำพึง ให้กับอบต.ตะพง เพื่อพัฒนา และแก้ปัญหาต่างๆแต่ถูกปฏิเสธแต่เวลามีปัญหาต่างๆอบต.ตะพง เป็นผู้รับผิดชอบทั้งๆที่อบต.ตะพง ไม่มีอำนาจเข้าไปแก้ปัญหาแต่ที่ผ่านมาชาวบ้านหรือผู้ประกอบการเดือดร้อนก็มาร้องเรียนที่อบต.ตะพง
สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาไม่ให้น้ำในคลองเน่าเสียไหลลงทะเลอบต.ตะพง มีแนวทางไว้แล้วคือสร้างเขื่อนกั้นคลื่นบริเวณปากร่องคลอง ซึ่งน้ำคลองไหลลงทะเล แต่จะต้องมีการขุดลอกทรายและกั้นเขื่อน แต่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาระยองรวมทั้งอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดไม่ยินยอม ตนเองจึงอยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เรียกหน่วยงานทั้ง 4 หน่วยมาเจรจาหาข้อยุติแก้ปัญหา เนื่องจากหาดแม่รำพึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดระยอง
ส่วนปัญหาน้ำทะเลสีดำเกิดจากธรรมชาติ ไม่ใช่สารเคมีโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งน้ำทะเลสีดำอยู่บริเวณชายหาดเพียง 3 ร้อยเมตรเท่านั้น นักท่องเที่ยวสามารถมาท่องเที่ยวได้ตามปกติแต่ระยะนี้เป็นช่วงมรสุม มีคลื่นลมแรงไม่ควรลงเล่นน้ำทะเลเพราะจะเกิดอันตรายได้