ศาลไม่ให้ประกัน โอภาส กรรมการบริษัทวินโพรเสส คุมตัวเข้าเรือนจำ

3 มิ.ย. 67

ศาลจังหวัดระยอง ยกคำร้องขอประกันตัวชั่วคราว โอภาส กรรมการบริษัทวินโพรเสส จังหวัดระยอง ถูกส่งตัวเข้าเรือนจำกลางระยองแล้ว

 

วันที่ 3 มิ.ย.67 ความคืบหน้าคดีเพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมี และปัญหาการลักลอบทิ้งสารเคมี ที่ โรงงานวินโพรเสส ตำบลบางบุตร อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง ในช่วงบ่ายของวันนี้ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. มีกำหนดการเดินทางไปติดตามการดำเนินคดีดังกล่าว เรียกประชุมฯ ติดตามปัญหาและความคืบหน้า ณ สภ. บ้านค่าย  จว.ระยอง พร้อมเข้าตรวจสอบพื้นที่ ภายในโรงงาน

ส่วนการดำเนินคดี กับนายโอภาส บุญจันทร์ กรรมการเจ้าของโรงงานเก็บกากสารเคมีไฟไหม้วินโพรเสส ม.4 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย ผู้ต้องหาคดีครอบครองวัตถุอันตราย ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านค่าย อายัดตัวจากศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภาชี แจ้งจับข้อหาปลอมแปลงเอกสาร  โดยตำรวจ สภ.บ้านค่าย ได้นำตัวส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน

1717389437237

ซึ่งพนักงานสอบสวนภูธรบ้านค่าย ยื่นคำร้องขอฝากขังนายโอภาส ต่อศาลจังหวัดระยอง และคัดค้านการประกันตัว ด้วยเหตุผลว่ามีคดีเกิดขึ้นหลายพื้นที่ต่างกัน และมี หลายจุดที่เจ้าหน้าที่ยังต้องเข้าตรวจค้นหาพยานหลักฐานมาประกอบความเชื่อมโยงการกระทำผิด และตามที่กล่าวหาว่านายโอภาสเกี่ยวข้องสั่งการ หากได้รับการประกันตัวอาจ ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน  ศาลพิจารณาคำร้องคัดค้านดังกล่าวแล้ว จึงมีคำสั่งยกขอคำประกันตัวของนายโอภาส และอนุญาตตามคำขอฝากขังผัดแรก เป็นเวลา 12 วัน พร้อมส่งตัวเข้าเรือนจำจังหวัดระยองทันที

1717389408503

ซึ่งนายโอภาสถูกแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว 4 ท้องที่ คือ

  1. ที่ตำรวจภูธรมาบตาพุด จ.ระยอง ถูกแจ้งข้อกล่าวหาครอบครองวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต และฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน
  2. ที่ตำรวจภูธรภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกแจ้งข้อกล่าวหาปลอมแปลงเอกสารตราประทับ บริษัทเพราะสอน จำกัด
  3. ที่ตำรวจภูธรบ้านค่าย จ.ระยอง ถูกแจ้งข้อกล่าวหาอาญา มาตรา 228 และอาญามาตรา 237 กรณีทิ้งสิ่งของมีพิษลงแหล่งน้ำสาธารณะที่เป็นแหล่งสาธารณูปโภค

4. ที่ตำรวจ ปทส.ที่รับผิดชอบคดีโกดังสารเคมี อำเภอภาชี จ.อยุธยา แจ้งข้อกล่าวหานายโอภาส ร่วมกันครอบครองวัตถุ อันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต,ดำเนินกิจการเก็บ ขน หรือกำจัดสิ่งปฎิกูลมูลฝอยโดยทำเป็นกิจการ โดยไม่ได้รับอนุญาต, ประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยไม่ได้รับอนุญาต, ปล่อยน้ำที่ทำให้เกิดพิษแก่น้ำตามธรรมชาติ หรือสารเคมีเป็นพิษลงทางน้ำชลประทาน อาจทำให้เกิดอันตรายต่อเกษตกรรม การบริโภคบริโภค หรือสุขอนามัย

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส