พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. เผย มด เมียเสี่ยต้น ให้การภาคเสธ แต่ยอมรับมีความขัดแย้งในครอบครัวจริง ขอต่อสู้คดีในชั้นศาล
ความคืบหน้าคดี ลอบยิงนายพิชิต กลีบจินดา หรือ เสี่ยต้น เจ้าของธุรกิจสอนสปาและนวดแผนไทย เมื่อวันที่ 8 เมษายน ก่อนไปเสียชีวิตปริศนาในจังหวัดมหาสารคาม เมื่อวันที่ 16 เมษายน ซึ่งทั้ง 2 เหตุการณ์ระยะเวลาห่างกันเพียงแค่ 8 วัน
ล่าสุดตำรวจได้ออกหมายจับผู้ต้องหา 4 คน และนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้แล้ว 3 คน คือ นางสาววรรณิภา หะมาลา หรือ มด อายุ 37 ปี ภรรยาเสี่ยต้น ผู้จ้างวาน สามารถจับกุมตัวได้ที่คอนโด ย่านรามคำแหง , นายสาโรจน์ เสือสุวรรณ หรือ เเป๊ะ อายุ 25 ปี คนรับงาน จัดหาอาวุธปืนและยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุ จับกุมตัวได้บ้านพักซอยรามอินทรา 62 , นายวีรภัทร สุคนธทรัพย์ หรือ วี คนขี่รถมอเตอร์ไซค์วันเกิดเหตุ จับกุมตัวได้ที่เคหะนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม
ส่วนนายณัฐพล ศิริโนนรัง อายุ 25 ปี มือปืน ยังหลบหนี ซึ่งมีเบาะแสว่าอยู่ตะเข็บชายแดน ทางภาคเหนือ
ด้านพลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า คดีนี้ตำรวจเริ่มทำการสืบสวนขยายผลจากคดีลอบยิงเสี่ยต้น ย่านเลียบทางด่วนรามอินทรา ท้องที่ สน.วังทองหลาง เมื่อวันที่ 8 เมษายน จนพบหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงคดีการเสียชีวิตปริศนา ที่ สภ.ยางศรีสุราช จังหวัดมหาสารคาม จึงนำมาสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา 4 คน และเมื่อเช้าทีผ่านมาตำรวจนครบาลก็ได้เปิดปฏิบัติการเข้าจับกุมผู้ต้องหา แล้วได้นำตัวมาสอบสวน
เบื้องต้น นายสาโรจน์ หรือ แป๊ะ และนายวีรภัทร หรือ วี รับสารภาพ ว่า เป็นผู้ร่วมขบวนการและได้รับเงินค่าจ้างจริง แต่ในส่วนคุณมด ภรรยาเสี่ยต้น ยังให้การภาคเสธ บอกเพียงว่า มีเรื่องโกรธเคืองและขัดแย้งกันมาตั้งแต่เดือนมีนาคม เป็นปัญหาในครอบครัวที่มีประเด็นเรื่องการหึงหวงด้วย
ส่วนประเด็นเรื่องการจ้างวานนั้น จากข้อมูลทางการสืบสวน พบว่า ก่อนหน้านี้ ภรรยาเสี่ยต้น ได้มีการเสิร์ชหาข้อมูลเกี่ยวกับมือปืนรับจ้าง ผ่านทางโซเชียลมีเดีย จากนั้นก็มีการทัก พูดคุยกับมือปืน คือ นายณัฐพล ผ่านทาง Messenger แล้วต่อมาวันที่ 1 เมษายน ได้มีการนัดพบกันที่สวนหลวง ร.9 เพื่อนัดแนะและวางแผน จากนั้น นายณัฐพล มือปืน ก็ได้ไปติดต่อ นายสาโรจน์ หรือ แป๊ะ ให้ตระเตรียมการ จัดหาที่พัก อาวุธปืน และรถมอเตอร์ไซค์ ทำให้นายสาโรจน์ หรือ แป๊ะ ไปติดต่อให้นายวีรภัทร หรือ วี มาร่วมขบวนการ
ขณะที่พบว่า ภรรยาเสี่ยต้นมีการจ่ายเงินค่าจ้างผ่านทางนายณัฐพล มือปืน รวมเป็นจำนวนเงินกว่า 3 แสนบาท โดยมีทั้งการโอนเข้าบัญชีและจ่ายเป็นเงินสด
สำหรับความสัมพันธ์ของเสี่ยต้น กับกลุ่มผู้ก่อเหตุ โดยเฉพาะนายสาโรจน์ หรือ แป๊ะ ที่เป็นคนตระเตรียมการ ตำรวจยังอยู่ระหว่างขยายผล ว่า รู้จักกันมาก่อนหรือเพิ่งรู้จักตอนที่วางแผนจะฆ่าสามี ส่วนมูลเหตุจูงใจ นั้น ตำรวจพบว่า มีอยู่ 2 ส่วน คือ ความขัดแย้งในครอบครัวและถ้าหากผู้ตายเสียชีวิต ผลประโยชน์จากเงินประกันและทรัพย์สินต่างๆจะตกอยู่กับภรรยาของเสี่ยต้น
พลตำรวจตรีนพศิลป์ บอกถึงความเชื่อมโยงระหว่างคดีที่ สน.วังทองหลาง กับ คดีที่สภ.ยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม ว่า เบื้องต้นเชื่อมโยงกันแน่นอน ในเรื่องของตัวบุคคลที่เป็นกลุ่มก่อเหตุซึ่งมีความเกี่ยวเนื่องกัน โดยหลังจากก่อเหตุลอบยิงครั้งแรกไม่สำเร็จ จึงมีการพูดคุยกันและล่อลวงให้เสี่ยต้น ไปที่จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งก็พบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุยังติดต่อพูดคุยกับภรรยาเสี่ยต้นอยู่ตลอด ขณะนี้ตำรวจภูธรภาค 4 อยู่ระหว่างเร่งสืบสวนหาสาเหตุการตาย และขยายผลไปถึงผู้เกี่ยวข้อง
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีคนในครอบครัวของภรรยาเสี่ยต้น มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ พลตำรวจตรีนพศิลป์ ระบุว่า ตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนขยายผล โดยยืนยันว่าหากมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงใคร จะดำเนินการทั้งหมด แต่ยืนยันว่า คดีลอบยิงเสี่ยต้น นั้น ตำรวจมีหลักฐานชัดเจน ว่า ภรรยาเสี่ยต้น ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหา ฐานใช้จ้างวาน ได้ทำหน้าที่เป็นคนชี้เป้า ส่งพิกัด และนัดเสี่ยต้นไปที่โรงเหล้าแสงจันทร์ ก่อนจะให้มือปืนลงมือก่อเหตุ
ย้ำว่า มด ภรรยาเสี่ยต้น มีการสอบปากคำนานเกือบ 4 ชั่วโมง แต่เจ้าตัวยังยืนกรานปฏิเสธ และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น.