ฝากขังพ่อแม่ขุดหลุมฝังศพลูก ยันไม่เคยใช้หมอนกดหน้า อ้างเพื่อนใส่ร้ายเพราะหมั่นไส้ ส่วนการตายของลูกก็หยุดลมหายใจเองไม่ได้ทำให้ลูกตาย
จากกรณีการเสียชีวิตของ "น้องไบรอัน" เด็กทารกเพศชายวัย 2 เดือน ที่ถูกนายนิพนธ์และน.ส.เฟย ผู้เป็นพ่อและแม่ของเด็ก นำมาขุดหลุมดินฝังไว้ที่บริเวณเชิงเขากบ เขตเทศบาลนครนครสวรรค์ นั้น
ล่าสุดวันนี้ ( 5 มิ.ย. 67) พนักงานสอบสวนสภ.เมืองนครสวรรค์ ได้ควบคุมตัวพ่อและแม่ของน้องไบรอันไปฝากขังโดยระหว่างที่นำตัวออกจากห้องขัง ผู้สื่อข่าวสอบถามพ่อของน้องไบรอันเกี่ยวกับประเด็นการใช้หมอนกดหน้าลูก เจ้าตัวได้แต่สายหน้าแล้วตอบว่า ไม่ได้ทำ จากนั้นตำรวจจึงคุมตัวขึ้นรถเพื่อที่จะไปฝากขังและในช่วงจังหวะนี้ผู้สื่อข่าวสอบถามพ่อของน้องไบรอันอีกครั้งหนึ่งว่า แน่ใจใช่ไหมว่า ไม่ได้เคยใช้หมอนกดหน้าลูก เจ้าตัวบอกว่าไม่เคยทำ ส่วนที่นายม่อนเพื่อนคนสนิทให้การกับผู้สื่อข่าวนั้นเป็นเรื่องเท็จนายม่อนหมั่นไส้ตนและต้องการใส่ร้ายตนเองเพราะไม่ชอบตนเองตั้งแต่เกิดเรื่องจึงใส่ร้าย ส่วนการตายของลูกก็หยุดลมหายใจเองไม่ได้ทำให้ลูกตายซึ่งลูกอาการไม่ดีตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลแล้ว
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามว่าเหตุใดทั้งสองคนไม่มีท่าทีสลดหรือเสียใจหลังจากลูกตายแล้วสองสามีภรรยาได้แต่ก้มหน้าเงียบแล้วบอกว่าเสียใจ
เวลาต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนได้เผยภาพกล้องวงจรปิดของวันที่ 23 พ.ค. ช่วงเวลา 18.22 น. ซึ่งจับภาพวินาทีที่พ่อแม่น้องไบรอันนำศพใส่กระเป๋าผ้าแบบสะพายข้างเดินเท้ามาตามถนนหลังสำนักงานเทศบาลนครนครสวรรค์ขึ้นไปบนเขากบและลงจากเขากบอีกครั้งในเวลา 18.42 น. ซึ่งจากการตรวจสอบจากชุดสืบสวนทราบว่าภาพวงจรปิดที่จับได้นั้นเหตุเกิดวันที่ 23 พ.ค. 67 ไม่ใช่วันที่ 24-26 พ.ค. ตามคำกล่าวอ้างของสองสามี-ภรรยาแต่อย่างใด โดยคาดการณ์ว่าเด็กชายไบรอันน่าจะเสียชีวิตตั้งแต่คืนวันที่ 22 พ.ค.และถูกปล่อยทิ้งไว้ในห้องจนถึงเย็นวันที่ 23 พ.ค.พ่อแม่จึงนำมาฝังศพทิ้งไว้ที่ทางลงเขากบจนกระทั่งมาพบและรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดจากเพื่อนเค้นถามสองสามีภรรยาจึงรู้ว่าเด็กเสียชีวิตและถูกนำมาฝัง
อย่างไรก็ตามขณะนี้ทั้งนายนิพนธ์และน.ส.เฟยถูกตำรวจแจ้งข้อหาไว้ก่อนแล้ว 3 ข้อหา ฐานกระทำความผิดฐานร่วมกันทอดทิ้งผู้ซึ่งพึ่งตนเองมิได้เพราะอายุความป่วยความเจ็บการพิการหรือจิตพิการรวมถึงการกระทำความผิดเป็นเหตุให้ผู้ถูกทอดทิ้งถึงแก่ความตายและซ่อนเร่นอำพรางหรือย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งหารตาย ส่วนข้อหาเพิ่มเติมจะมีการพิจารณาแจ้งเพิ่มหรือไม่นั้น ต้องรอผลการตรวจสภาพศพจากโรงพยาบาลออกมาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง