น้าสาวร้อง สายไหมต้องรอด ติดใจสาเหตุการตกตึกของหลานชาย หลังไปพบสาวที่รู้จักผ่านแอปฯหาคู่ ก่อนจะตกตึกลงมาอาการโคม่า
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 มิ.ย.ที่สำนักงานเพจสายไหมต้องรอด นายเรืองสินธุ์ ถนอมพุทธ อายุ 45 ปี และนางรัตติยา ถนอมพุทธ อายุ 48 ปี ญาติผู้บาดเจ็บ เข้าร้องทุกข์กับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กรณีนายจักริน อายุ 31 ปี พนักงานขายโทรศัพท์ในห้างแห่งหนึ่งพลัดตกตึก หลังไปหาสาวที่รู้จักผ่านแอปพลิเคชั่นหนึ่งที่ทาวน์โฮมแห่งหนึ่ง เขตสะพานสูง กทม.
นายเรืองสินธุ์ เปิดเผยว่า เมื่อประมาณเวลา 01.00 น. ของวันที่ 3 มิ.ย. หลานของตนได้มีการนัดพบผู้หญิง 2 คน ที่รู้จักกันได้ไม่นานผ่านทางแอปพลิเคชั่นหนึ่ง โดยมีการนัดทานข้าวและดื่มของมึนเมา ต่อมาจึงได้มีการไปนั่งเล่นกันต่อที่ทาวน์โฮมชั้น 4 ที่เป็นห้องพักของหนึ่งในผู้หญิง 2 คน ซึ่งทาวน์โฮมดังกล่าวมีลักษณะชั้นล่างเป็นร้านกาแฟ ชั้น 4 เป็นที่พักพนักงาน ซึ่งทางหญิงทั้งสองได้บอกกับตนว่า ขณะเกิดเหตุมีผู้หญิงคนหนึ่งหลับอยู่บนเตียง และอีกคนนั่งพูดคุยกับหลานของตนอยู่ปลายเตียง จากนั้นผู้หญิงที่นั่งพูดคุยได้ลุกเข้าห้องน้ำ แต่เมื่อออกมาจากห้องน้ำกลับไม่พบหลานของตน ซึ่งทราบภายหลังว่าหลานของตนพลัดตกจากทาวน์โฮมแล้ว ต่อมาหญิงทั้งสองจึงได้เรียกรถพยาบาลและทำการแจ้งความ
แต่ตนเกิดความสงสัยและพบข้อพิรุธจากหญิง 2 ราย เพราะทั้งคู่ให้การลงบันทึกประจำวันว่าหลานของตนกระโดดลงมาเอง ทั้งที่บอกกับตนว่าไม่เห็นเหตุการณ์ นอกจากนี้ตนยังเกิดความสงสัยในเรื่องลักษณะท่าทางการพลัดตกของหลาน ซึ่งดูไม่เหมือนการกระโดดลงมาเอง ตนได้ทำการแจ้งความไปเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. แต่ทางตำรวจยังไม่มีการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและยังไม่มีการเรียกสอบปากคำใครแต่อย่างใด
ซึ่งตนเกรงว่าหากปล่อยเวลาให้นานขึ้นหลักฐานจะหายไป ทั้งนี้ทางฝั่งหญิง 2 รายยังบอกกับตนว่า มีการทำความสะอาดและจัดระเบียงที่เกิดเหตุใหม่ โดยอ้างว่าเป็นภาพลักษณ์ของร้านอีกด้วย
นางรัตติยา กล่าวว่า อาการหลานของตนในตอนนี้อยู่ในขั้นโคม่า ไม่รู้สึกตัวตั้งแต่เกิดเหตุ ซึ่งการรักษามีการผ่าสมองไปแล้ว 1 ครั้ง แต่ยังไม่มีการตอบสนองจากตัวของหลานตน ขณะนี้มีการใช้เครื่องช่วยหายใจ และต้องมีเครื่องที่คอยดูดเลือดออกจากสมองของหลานตน เนื่องด้วยหลานตนมีอาการเลือดคั่งในสมองร่วมด้วย ซึ่งหมอยังไม่มีการให้คำตอบในเรื่องของอาการหลานตนว่าหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร
ทั้งนี้ตนวอนใครที่พบเห็นเหตุการณ์ในวันดังกล่าว หรือใครพอมีกล้องหน้ารถหรือกล้องวงจรปิดใกล้ๆบริเวณที่เกิดเหตุ วอนขอให้ออกมาช่วยเหลือหลานตน ตนอยากได้รับความยุติธรรม และอยากทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ขณะที่ นายเอกภพ กล่าวว่า ตนมองว่าท่าทางการพลัดตกของผู้เจ็บมีความผิดปกติ และคำให้การของ หญิงทั้งสองรายก็มีความผิดปกติ เนื่องจากในที่เกิดเหตุหญิงทั้งสองมีการติดต่อไปยังเพื่อนของผู้เจ็บ และได้บอกกับเพื่อนของผู้เจ็บว่ามีคนอยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด 3 รายเป็นหญิง 2 รายและชายอีก 1 รายไม่รวมผู้บาดเจ็บ ซึ่งภายหลังได้มีการกล่าวอ้างใหม่อีกครั้งว่ามีเพียงผู้หญิง 2 รายเท่านั้น ตนอยากให้ทีมพิสูจน์หลักฐานลงตรวจสอบที่เกิดเหตุ ว่าผู้เจ็บอาจถูกผลักหรือโยนหรือหนีอะไรซักอย่างหรือไม่ ซึ่งจากการสอบถามจิตใจคนเจ็บเป็นปกติ ไม่มีเรื่องเครียดแต่อย่างใด หลังจากนี้ตนต้องไปดูที่เกิดเหตุและทำการประสานไปยัง ผกก.สน.บางชัน ว่าเหตุใดถึงไม่มีเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ และใบแจ้งความเหตุใดยังไม่เป็นคดียังเป็นเพียงแค่ลงบันทึกประจำวันเท่านั้น เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนสอบสวนตามกฏหมายต่อไป.