"รัชนก อินทนนท์" หรือ เมย์ แบดมินตันหญิงเดี่ยว ทีมชาติไทย กับเป้าหมายสูงสุดคว้าเหรียญ ในมหกรรมโอลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024
นับถอยหลังสู่ การแข่งขันกีฬา "โอลิมปิกเกมส์ 2024" ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในระหว่างวันที่ 26 ก.ค. ไปจนถึง 11 ส.ค. สำหรับทัพนักกีฬา ผลงานที่ผ่านมากับการคว้า 35 เหรียญรางวัล ในกีฬาโอลิมปิก นั้นแต่สิ่งที่ ปารีสเกมส์ มีลุ้นคือการสร้างประวัติศาสตร์ของนักแบดมินตันไทย ที่ผ่านมายังไม่เคยมีใครคว้าเหรียญรางวัลได้เลย โดยครั้งนี้แบดมินตันมีการชิงชัยทั้งสิ้น 15 เหรียญ
โดยมี นักแบดมินตันไทย ผ่านเข้ามาได้ถึง 9 คน จากทั้งหมด 5 ประเภท ประกอบไปด้วย ประเภทชายเดี่ยว วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มืออันดับ 8 ของโลก , หญิงเดี่ยว เมย์ รัชนก อินทนนท์ มืออันดับ 21 ของโลก , เม ศุภนิดา เกตุทอง มืออันดับ 16 ของโลก , ชายคู่ เอ็ม สุภัค จอมเกาะ จับคู่กับ สกาย กิตินุพงษ์ เกตุเรน คู่มืออันดับ 24 ของโลก , หญิงคู่ กิ๊ฟ จงกลพรรณ กิติธรากุล จับคู่กับ วิว รวินดา ประจงใจ คู่มืออันดับ 10 ของโลก , คู่ผสม บาส เดชาพล พัววรานุเคราะห์ จับคู่กับ ปอป้อ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มืออันดับ 6 ของโลก
สำหรับ "รัชนก อินทนนท์" หรือ เมย์ แบดมินตันประเภทหญิงเดี่ยว ในวัย 29 ปี ที่ผ่านประสบการณ์แข่งขันโอลิมปิกเกมส์มาแล้ว 3 ครั้งผ่านทุกความความรู้สึกตลอดเกมการแข่งขัน โอลิมปิกเกมส์ ซึ่งที่ผ่านมาในทุกรายการเรียกได้ว่าคนในวงการต่างรู้จักตัวเธอเป็นอย่างดี เพราะคว้าแชมป์ตลอดอาชีพไม่น้อยกว่า 20 รายการ แต่สิ่งเดียวที่จะเติมเต็มให้ เมย์ และเป้าหมายสูงสุดของ เมย์ คือการคว้าเหรียญมาคล้องคอให้ได้ สำหรับ โอลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 โดยวันนี้จะพาไปย้อนเส้นทาง "รัชนก อินทนนท์"
เริ่มเข้าวงการ
"เมย์ รัชนก" เริ่มเล่นแบดมินตันตั้งแต่อายุ 6 ขวบ หลังจากครอบครัวย้ายจากร้อยเอ็ดมาอยู่กรุงเทพ คุณพ่อและคุณแม่ เข้ามาทงานที่โรงงานทำขนมบ้านทองหยอด โดยมี แม่ปุก กมลา ทองกร ซึ่งมีโรงเรียนและสโมสรแบดมินตัน บ้านทองหยอด เป็นของตัวเองด้วย รวมถึงเป็นแม่บุญธรรมของ เมย์ ซึ่งต่อมา ด้วยเกรงว่าจะได้รับอันตรายในโรงงานจึงได้ หัดให้เล่นแบดมินตันครั้งแรก ก่อนแข่งขันครั้งแรกในรายการอุดรธานี โอเพ่น และคว้าแชมป์ได้ทันที
สร้างชื่อระดับโลก
"เมย์ รัชนก" สร้างชื่อเสียงในเยาวชนโลก เมื่อวัยเพียง 14 ปี เป็นนักแบดมินตันในประวัติศาสตร์ที่อายุน้อยที่สุด คว้าแชมป์เยาวชนโลกครั้งแรกเมื่อปี 2009 ที่มาเลเซีย จากนั้นป้องกันแชมป์ต่อในปี 2010 ที่เม็กซิโก เรียกว่าการเป็นแชมป์ว่ายากแล้วแต่การป้องกันแชมป์นั้นยากกว่าแต่ เมย์ ทำได้ 3 สมัยซ้อนโดยคว้าแชมป์อีกครั้งเมื่อปี 2011 ที่ไต้หวัน
โอลิมปิกสมัยแรก
หลังจาก เมย์ คว้าแชมป์เยาวชนโลก 3 สมัยซ้อน ถือเป็นการเพิ่มความท้าทายกับอาชีพสู่การเข้าร่วม โอลิมปิกเกมส์ครั้งแรก ลอนดอนเกมส์ 2012 ในวัยเพียง 17 ปี แม้ว่าครั้งแรกจะทำผลงานไว้ได้ดีสุดเพียงรอบ 8 คนสุดท้ายก็ตาม
สู่มือ 1 โลก
กระทั่งปี 2016 เมย์ ถือว่าขึ้นสู่จุดพีคที่สุดกับฟอร์มการเล่นเมื่อคว้ารางวัลมากมาย รวมถึงสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแบดมินตันคนแรกที่ได้แชมป์ซูเปอร์ซีรีส์ 3 รายการรวดในช่วง 3 สัปดาห์ติดต่อกัน ที่อินเดีย มาเลเซีย และสิงคโปร์ ส่งผลให้ชื่อของ "รัชนก อินทนนท์" ในวัย 21 ปี ทะยานขึ้นไปครองตำแหน่งนักแบดมินตัน มือ 1 ของโลกได้อย่างยิ่งใหญ่
ความท้อกับปีที่ยากลำบาก
ปัญหาชิ้นใหญ่ก็มาถึงสำหรับนักกีฬาอาชีพที่ไม่ว่าจะพร้อมแค่ไหน ตแสำหรับอาการบาดเจ็บก็เป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด และ เมย์ "รัชนก อินทนนท์" ต้องเจอหลายต่อหลายครั้งจนกระทั่งต้องถอนตัวจากการแข่งขันในช่วงปี 2023 ที่ผ่านมา เพื่อให้กลับมาพร้อมที่สุดสำหรับโอลิมปิก แต่ด้วยอายุที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับร่างกายที่ทำศึกหนักจากการแข่งขันที่ผ่าน ๆ มา ทำให้ เมย์ เจอฟอร์มที่แย่เล่นงานจนเกิดความท้อบ้าง แต่เธอก็สู้มาโดยตลอดจนถึงปี 2024 แม้จะสามารถคว้าแชมป์ก่อนเข้าสู่ ปารีสเกมส์ ได้เพียงรายการเดียวคือ สเปน มาสเตอร์ส เวิลด์ทัวร์ 300 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
เป้าหมายโอลิมปิกหนสุดท้าย
โอลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 หรือ สมัยที่ 4 ของ "เมย์ รัชนก" หลังจากที่ผ่านมาผลงานของเธอ เริ่มจาก โอลิมปิกเกมส์ ลอนดอน2012 รอบ 8 คนสุดท้าย , โอลิมปิกเกมส์ ริโอ2016 รอบ 8 คนสุดท้าย , โอลิมปิกเกมส์ โตเกียว2020 รอบ 8 คนสุดท้าย ซึ่งในปีนี้ถือเป็นความฝันสูงสุดครั้งสุดท้ายของเธอ ที่จะต้องทำให้เต็มที่เพื่อเป้าหมายคว้าเหรียญครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในอาชีพการเล่นแบดมินตัน เพื่อปิดจบโอลิมปิกครั้งสุดท้ายของตัวเอง
สำหรับการจับสลากแบ่งสายในมหกรรม "โอลิมปิก 2024" ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดย ประเภทหญิงเดี่ยว "รัชนก อินทนนท์" มืออันดับ 21 ของโลก เจอศึกหนัก เมื่ออยู่ในกลุ่มอี ร่วมกับ ไถ้ ซื่อหยิง มือวางอันดับ 3 ของรายการ มืออันดับ 3 ของโลกจากไต้หวัน และ เลียนเน่ ทราน มืออันดับ 57 ของโลกจากเบลเยียม
สำหรับ
ขอบคุณภาพจาก รัชนก อินทนนท์
