ทนายเดชา เปิดข้อกฎหมาย คดีหนุ่มเส้นเลือดในสมองแตก ถูกตำรวจกักตัวอ้างเมาแล้วขับ เผยผู้ต้องหาซึ่งถูกควบคุมตัว มีสิทธิได้รับการรักษาโดยเร็ว
จากกรณีแฟนสาวร้องสายไหมต้องรอด หลังแฟนหนุ่มป่วยเส้นเลือดในสมองแตกขับรถชนดะย่านยานนาวา ถูกตำรวจกักตัวอ้างเมาแล้วขับ ยื้อเวลา 3 ชม.ไม่ยอมส่ง รพ.จนหมดสติดับ
โดยเธอ เล่าว่า วันเกิดเหตุคือวันที่ 13 กรกฎาคม แฟนของเธอขับรถสนามบินไปรับลูกค้าจากสนามบินสุวรรณภูมิไปส่งที่โรงแรมย่านยานนาวา พอส่งลูกค้าเสร็จระหว่างเดินทางกลับ แฟนหนุ่มโทรศัพท์หาบอกว่าปวดหัวมากและอาเจียน จึงบอกให้แฟนไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ระหว่างขับรถไปโรงพยาบาลแฟนหนุ่มเริ่มมีอาการหนัก ไม่สามารถควบคุมรถได้ จึงประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คันอื่นหลายคัน พอโทรศัพท์หาแฟนเบอร์แรกไม่รับสาย จึงโทรเข้าอีกเครื่องซึ่งเชื่อมต่อกับระบบบลูทูธของรถและรับสายอัตโนมัติ ตอนนั้นได้ยินเสียงคนเคาะกระจกรถ โวยวาย และบอกให้แฟนลงมาจากรถ แต่ไม่ได้ยินเสียงแฟน จึงวางสายไป
จากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง แม่ของแฟนก็โทรศัพท์มาหาตน บอกว่าตำรวจโทรมา บอกว่าแฟนเมาแล้วขับรถไปชนคันอื่น ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สน.ยานนาวา ตนติดธุระอยู่ต่างจังหวัดจึงให้แม่ไปที่โรงพักก่อน ระหว่างนั้นตนก็โทรศัพท์หาตำรวจ ขอคุยกับแฟน และขอให้พาแฟนไปส่งโรงพยาบาลก่อน เพราะแฟนป่วย และยืนยันว่าแฟนไม่ได้เมา แต่ตำรวจไม่ยอมให้คุยกับแฟน บอกว่าแฟนไม่ยอมลงจากรถ และให้รีบตามบริษัทประกันมาที่ สน.ด่วน
ประมาณ 3 ทุ่ม ตนจึงวิดีโอคอลหาพี่ชายของแฟนที่อยู่ สน. พบว่าแฟนหมดสติไปแล้ว กู้ภัยจึงนำตัวส่งโรงพยาบาล ถึงโรงพยาบาลเกือบ 4 ทุ่ม แพทย์ที่ให้การรักษาบอกว่ามาช้าไป หลังจากนั้นก็พยายามรักษาตามอาการอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 3 วัน ก่อนเสียชีวิต ซึ่งในใบรับรองแพทย์ ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าเส้นเลือดในสมองแตก เธอจึงตรวจสอบ GPS ย้อนหลัง พบว่าแฟนอยู่ที่ สน.ยานนาวา เกือบ 2 ชั่วโมง
ซึ่งมองว่าหากนำส่งโรงพยาบาลเร็วกว่านี้แฟนอาจไม่เสียชีวิต
ล่าสุดเพจทนายคลายทุกข์ ของทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า ผู้ต้องหาซึ่งถูกควบคุมตัวมีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลโดยเร็วเมื่อเกิดการเจ็บป่วย #คดีหนุ่มเส้นเลือดในสมองแตก
"ข้อกฎหมายที่ควรรู้เกี่ยวกับสิทธิของผู้ต้องหาเมื่อถูกควบคุมตัว ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 7/1 ผู้ต้องหามีสิทธิ์ได้รับการรักษาพยาบาลโดยเร็วเมื่อเกิดการเจ็บป่วย ให้ตำรวจซึ่งรับมอบตัวผู้ต้องหามีหน้าที่แจ้งให้ผู้ต้องหานั้นทราบในโอกาสแรกถึงสิทธิ์ดังกล่าว สิทธิ์ดังกล่าวถือเป็นสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของมนุษย์นะครับ"