วันที่ 6 ม.ค 68 ที่จ.ระยอง อ.เบียร์ ฅนตื่นธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีไลฟ์สดพาดพิงบุคคลสำคัญว่า ตอนนี้ยังไม่มีการประสานจากตำรวจไซเบอร์ ซึ่งตนเองยืนยันว่าพูดในไลฟ์สดอยู่ตลอดเวลาว่า อาจารย์มีแบ็คดี ซึ่งแบ็คนั้นคือพระพุทธเจ้า ตนมองว่ามันเป็นความเพ้อเจ้อของสังคมที่จะเอาอาจารย์ลงให้ได้ พยายามจะใส่ร้ายป้ายสีได้ทุกอย่างทุกคำ ตนสอนธรรมะของพระพุทธเจ้า แต่ก็มีคนพยายามจะทำลาย ก็ไม่รู้ว่าตนไปทำผิดอะไร ซึ่งมันเกินไปหรือเปล่า
ส่วนกรณีที่มีการเปรียบเทียบสังขารเกจิกับซากสัตว์ ตนเคยตอบไปหลายครั้งแล้วว่า พูดในมุมของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีคนถามว่าร่างกายของเกจิไม่เน่าเท่ากับศักดิ์สิทธิ์ใช่ไหม ตนก็มองว่ามันไม่เกี่ยวอะไรกับความศักดิ์สิทธิ์ ยกตัวอย่างอย่างเช่นสัตว์เดรัจฉาน มันก็มีไม่เน่าไม่เปื่อย งั้นสัตว์เดรัจฉานก็ต้องศักดิ์สิทธิ์ด้วย ซึ่งคำสอนของพระพุทธเจ้าบอกแล้ว พระพุทธองค์ทรงปฏิเสธเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์คือการดลบันดาลอ้อนวอน ขอร้องเทพเทวา ให้เขาเหล่านั้นดลบันดาลตามความพอใจ ถ้าบอกว่า สรีระร่างกายเกจิครูบาอาจารย์ สามารถไปกราบอ้อนวอนขอร้อง สิ่งศักดิ์สิทธิ์เรานั้น แล้ว จะสามารถดลบันดาลให้เราประสบความสำเร็จได้ ตนมองว่ามันเพ้อเจ้อ ไม่ใช่หลักคำสอน ไม่มีในพระพุทธศาสนา และยังยืนยันคำเดิมว่าไม่ได้ดูถูกปรามาส ดูถูกเหยียดหยาม พ่อแม่ครูบาอาจารย์
ส่วนในกรณี ทนายอนันตชัยกับหลวงพี่น้ำฝน ตนมองว่าท่านสามารถพูดได้ตามสิทธิเสรีภาพ ส่วนทนายอนันตชัย ตนก็ไม่ได้มีปัญหากัน ออกไปทางชื่นชอบซะด้วยซ้ำ ส่วนหลวงพี่น้ำฝน ตนก็ไม่ได้มีปัญหา ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหากับทั้งสองท่าน แต่ถ้าทั้งสองท่านจะมีปัญหากับตนก็เป็นเรื่องของเขาไม่เกี่ยวกับตน ตนไม่ขอต่อยตี ไม่ขอมีเรื่องด้วย ถ้าพูดผิดเรื่องไหนพูดมาว่าผิดเรื่องอะไร ชี้แจงมา อย่ามากล่าวว่าร้ายพยายามเข้าใจจิตจำนงค์อาจารย์ ไม่ว่าจะใครก็สามารถขอพบกับอาจารย์ได้ สามารถตำหนิติเตียนได้พร้อมจะเปลี่ยนและแก้ไขให้ ตามหลักคำสอนถ้าไม่ขัดกับพระพุทธศาสนา
Advertisement