จากกรณีคดีโฉนดถุงกล้วยแขก แม้ในส่วนของคดีความจบลงไปนานแล้ว โดยมูลนิธิวัดสวนแก้วเป็นฝ่ายแพ้คดี หมดกรรมสิทธิ์ครอบครองที่ดินที่ซื้อมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ทางวัดสวนแก้วต้องแพ้คดีให้กับทายาทเจ้าของที่ดิน และต้องชดใช้เงินค่าเสียหายอีกจำนวน 1.9 ล้านบาทกับคู่กรณี
เมื่อวันที่ 13 พ.ย. 67 ที่ลานอนุสาวรีย์ถุงดล้วยแขกวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พระราชธรรมนิเทศ พระพยอมกัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว พร้อมด้วย ทนายอนันตชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ทนายดร.ประยุทธ ประเทศเสนา รองประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ได้แถลงข่าวปิดคดีข้อพิพาทที่ดินถุงกล้วยแขกของวัดสวนแก้ว หลังพระพยอมได้ส่งเรื่องขอความช่วยเหลือเรื่องที่ดินแปลงดังกล่าวกับทนายอนันตชัย จนในที่สุดในวันนี้สามารถเจรจาไกล่เกลี่ยกับทางทายาทเจ้าของที่ดินได้สำเร็จ จึงได้ร่วมกันแถลงข่าวปิดตำนานโฉนดถุงกล้วยแขกของวัดสวนแก้ว หลังสู้คดียืดยื้อมานานกว่า 20 ปี
ทนายอนันตชัย กล่าวว่า ตนในฐานะทีมทนายความที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากหลวงพ่อเมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยทางวัดต้องการให้ทางมูลนิธิกองทัพธรรมยื่นมือเข้ามาแก้ไขปัญหาเรื่องโฉนดที่ดินถุงกล้วยแขก หลังมีข้อพิพาทมาเกือบ 20 ปี โดยตนคิดว่าการใช้พระเดชในเรื่องนี้ไม่สามารถใช้ได้ต้องใช้พระคุณ เพื่อแก้ปัญหา ตนจึงได้ตรวจสอบเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค. 67 เมื่อได้เข้ามาพูดคุยกับหลวงพ่อ เพื่อสืบหาเรื่องราวทั้งหมดแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมหลวงพ่อเก็บเงินซื้อที่ดินได้ 300 กว่าไร่ เพื่อทำสวนพฤกษศาสตร์
ตนรู้สึกว่าวัดทำเรื่องดี ไม่มีที่ไหนทำมาก่อน แต่ตนก็แปลกใจที่หลวงพ่อมานั่งเสียดายกับโฉนดที่ดินเลขที่ 55600 แค่เนื้อที่ 1 ไร่ 1 งาน 55 ตารางวา จนตนเพิ่งมาทราบว่าเงินจำนวน 10 ล้านบาทที่ซื้อที่ดินนั้นเป็นเงินจากพระเกจิผู้ใหญ่จากทั่วประเทศกับประชาชนที่บริจาคมาให้ เพื่อซื้อที่ดิน โดยหลวงพ่อต้องการปกป้องเงินของครูบาอาจารย์ที่นำมาซื้อที่ดินแปลงนี้
ซึ่งก่อนซื้อทางหลวงพ่อก็ได้สอบถามทุกหน่วยงานเรียบร้อยแล้ว หลังนางวันทนายื่นฟ้องร้องปรปักษ์จนได้ที่ดินผืนดังกล่าวมาครอบครองก่อนนำมาขายให้กับทางวัด เมื่อปี 2547แต่ต่อมาถูกทางทายาทเจ้าของที่ดินร่วมกันฟ้องร้องขอเพิกถอน เพราะเป็นที่ดินมรดกจนชนะคดีในที่สุด ทำให้ทางวัดเสียที่ดินกลับคืนไป พร้อมกับเงินที่ทางวัดจ่ายไป
ทนายอนันตชัย กล่าวอีกว่า หลวงพ่อและเจ้าของที่ดินเป็นผู้สุจริตทั้งคู่ต่อมาศาลพิพากษาให้ทางวัดรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด และย้ายออกจากที่ดินเมื่อปี 2565 ที่ดินนี้ต่อสู้กันมายาวนาน 18 ปี เมื่อตนลงมาตรวจสอบแล้วจึงได้เสนอให้เจรจาไกล่เกลี่ย โดยตนเป็นตัวแทนเจรจา ซึ่งตนได้ไปคุยกับเจ้าของที่ดินตระกูลหิรัญประดิษฐ์ทุกอย่างจบกันด้วยดีในวันนี้ ตนจึงเสนอให้หลวงพ่อแถลงข่าวปิดดตำนานอนุสาวรีย์ถุงกล้วยแขกในวันนี้ โดยเตรียมรื้อออกอนุสาวรีย์ดังกล่าวออกทั้งหมด
ปัจจุบันทางวัดยังต้องผ่อนชำระเงิน เพื่อชดใช้ให้กับเจ้าของที่เป็นเงิน 1.9 ล้านบาทตนจึงได้เสนอให้ทางวัดตั้งกองผ้าป่าเพื่อปลดล็อกซื้อที่ดินวัดสวนแก้วไปจ่ายชำระให้กับคู่กรณี เพื่อให้เรื่องนี้จบลงด้วยดีโดยทางวัดจะตั้งเป็นกองผ้าป่าเปิดรับบริจาค เพื่อนำเงินมาชำระค่าเสียหายให้กับเจ้าของที่ดินต่อไป ซึ่งตนหวังว่าการปิดตำนานจะเป็นผลดีกับทุกฝ่ายและทางวัดก็จะได้ซื้อที่ดินแปลงนี้กลับคืนมา เพราะเงินของครูบาอาจารย์ที่ได้นำมาใช้ซื้อที่ดินไปหมดแล้ว
พระราชธรรมนิเทศ กล่าวว่า คดีโฉนดถุงกล้วยแขกยาวนานมาถึงเกือบ 20 ปี วันนี้เป็นวันปิดตำนานโฉนดถุงกล้วยแขกวัดสวนแก้ว โดยมีทนายอนันตชัยเข้ามาช่วยจนเรื่องจบสิ้น ทางวัดจะได้แกะโซ่ที่ล่ามที่ดินแปลงนี้เสียที วันนี้ถือเป็นวันที่มีข่าวที่เป็นมงคลน่าปลื้มใจ ทางกรมที่ดินก็คงจะปลื้มใจหลังวัดปลดล็อกเรื่องที่ดินได้สำเร็จทางทายาทตระกูลหิรัญประดิษฐ์ก็จะได้หมดเรื่องแครงใจกันกับวัด สบายใจขึ้นทุกฝ่าย โดยทางวัดเตรียมนำกระเช้าไปให้ทางทายาทที่ยอมผ่อนปรนเรื่องนี้ให้จบลงด้วยดี สุดท้ายนี้ทางวัดได้มีทนายมาเป็นที่พึ่งให้กับวัด และศาสนา เรื่องนี้จบลงด้วยดีไม่มีคำว่าเจ็บใจกันอีกต่อไป
Advertisement