วันที่ 14 มีนาคม พ.ศ.2568 นายพิรุณโรจน์ นาคดนตรี นายอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้มอบหมายให้นายบรรพต จันทรวงษ์ ปลัดจังหวัดนำทีมชุดปฎิบัติการพิเศษฝ่ายปกคองกระทุ่มแบน โดยนายณัฐพล บุญทวี ปลัดอำเภอพร้อมกำลังเข้าตรวจสอบวัดดังแห่งหนึ่ง ในอำเภอกระทุ่มแบน เพื่อตรวจสอบหาสารเสพติดในพระสงฆ์ที่อยู่ภายในวัดทั้งหมด ผลการตรวจพบว่ามีพระสงฆ์ใช้สารเสพติดจำนวน 1 รูป จึงได้นำตัวพระสงฆ์รูปดังกล่าวไปลาสิกขาต่อพระผู้ใหญ่
จากนั้นชุดจับกุมจึงได้เค้นสอบว่าซื้อยาบ้ามาจากไหน ใครเป็นคนนำมาขายให้ จนทราบว่ามีหญิงสาวรายหนึ่ง นำมาขายให้ที่วัดอยู่ตลอดเป็นประจำ
พอชุดจับกุมได้รับทราบข้อมูลจนแน่ชัด จึงได้วางแผนขยายผลติดตามเฝ้าสังเกตพฤติการณ์ของหญิงสาวคนดังกล่าว จนพบว่าจะมีการส่งยาบริเวณพื้นที่ป้อมยามหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่กระทุ่มแบน ชุดจับกุมจึงได้แฝงตัว ซุ่มอยู่บริเวณป้อมยามของหมู่บ้าน พบเป้าหมายนางสาวแสงอรุณ (ขอสงวนนามสกุล) เดินทางมาที่ป้อมยามดังกล่าวและเข้าไปภายในป้อมยาม จากนั้นเจ้าหน้าที่ที่แฝงตัวอยู่บริเวณดังกล่าว จึงเข้าชาร์จพร้อมแสดงตัวขอตรวจค้น
โดยนางสาวแสงอรุณ ยอมรับว่านำยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) ยาบ้าเม็ดสีแดง จำนวน 30 เม็ดบรรจุอยู่ในถุงซิปใส ถุงละ 10 เม็ด จำนวน 3 ถุง ซุกซ่อนอย่างมิดชิดอยู่ภายในเสื้อยกทรงข้างซ้ายของตัวเอง เพื่อตบตาชุดจับกุม แต่ทางชุดจับกุมพูดจาจนให้นางสาวแสงอรุณยอมรับสารภาพแต่โดยดีนำยาบ้าของกลางทั้งหมดออกมาจากเสื่อยกทรงให้กับทางเจ้าหน้าที่
โดยผู้ต้องหายอมรับว่ารับยาบ้ามาจากนาย“หมูอ้วน” ราคาเม็ดละ 15 บาท และนำมาขายต่อในพื้นที่กระทุ่มแบน ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดมาทำบันทึกจับกุมณที่ว่าการอำเภอกระทุ่มแบน และนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
Advertisement