เสียงสะอื้นลั่นวัด ญาติ-ชาวบ้านร่ำไห้รับ 4 ศพ ฆ่ายกครัวทำพิธีทางศาสนา โดยตั้งวางเรียงกัน 3 ศพบนศาลา ส่วนทนายสามีใหม่ ญาติรับไปทำพิธีคนละวัด
จากกรณีมีเหตุนายปฐพี มีบาง อายุ 52 ปี อดีต ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน จ.บุรีรัมย์ ลาออกจากราชการ ใช้อาวุธปืนบุกยิง น.ส.ดวงเดือน อายุ 41 ปี ผอ.โรงเรียนบ้านโนนอีปังโพนวัว อ.เมือง ศรีสะเกษ เจ้าของบ้านอดีภรรยาเพิ่งหย่าร้างกัน นายปรมัตถ์ อายุ 39 ปี ทนายความสามีใหม่ ของ น.ส.ดวงเดือน นางหยกมณี อายุ 66 ปี แม่ของน.ส.ดวงเดือน และนายบุญเลื่อน อายุ 61 ปี น้องเขยของนางหยกมณี เสียชีวิตอยู่ในบ้าน ต.หนองไผ่ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ส่วนนายปฐพี หลังก่อเหตุได้ขับรถหลบหนีไปยิงตัวเองเสียชีวิต ที่อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์
ล่าสุดเมื่อวันที่ 24 ก.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังแพทย์ทำการผ่าชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิตเสร็จเรียบร้อยแล้ว ญาติๆและเพื่อนๆรวมถึงคณะครูได้มารอรับศพเพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลแต่เช้ามืด โดยเมื่อเวลา 08.42 น.ได้เคลื่อนศพของนายบุญเลื่อน น้าเขยของ ผอ.ดวงเดือน ออกมาเป็นศพแรก ศพที่ 2 คือ ศพของนางหยกมณี แม่ของ ผอ.ดวงเดือน และ ศพที่ 3 คือศพของ ผอ.ดวงเดือน ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจ ซึ่งทั้ง 3 ศพ จะตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านหอยพัฒนา ต.หนองไผ่ อ.เมืองจ.ศรีสะเกษ
ส่วนศพของนายปรมัตถ์ ทนายความ หลังแพทย์ผ่าชันสูตรแล้ว เมื่อเวลา 13.00 น.แม่พร้อมทั้งหลานๆญาติๆและเพื่อนๆของนายปรมัตถ์ ได้เดินทางมาติดต่อของรับศพจากห้องนิติเวช รพ.ศรีสะเกษ เพื่อนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ที่วัดมหาพุทธาราม (พระอารามหลวง) หรือวัดพระโต โดยได้นิมนต์พระสงฆ์เดินนำหน้าจูงศพและมีหลานสาวเดินถือรูปภาพนายปรมัตถ์ และมีแม่ของนายปรมัตถ์ เดินมาพร้อมกัน พร้อมกับร้องไห้สะอื้นเศร้าโศกเสียใจตลอดทาง
ส่วนศพของ ผอ.ดวงเดือน แม่และน้าเขย ได้มีชาวบ้านจำนวนมากแห่มารับศพ พร้อมกับมีการตั้งศพเรียงกันทั้ง 3 ศพ ภายในศาลาวัดบ้านหอยพัฒนา
โดยมีญาติๆและชาวบ้านที่มาช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ ต่างพากันร้องไห้เสียใจไปตามๆกัน.