เพิ่มจำนวนหน้ากากอนามัย 7 แสนชิ้น/วัน กระจายให้ทุก รพ.ทั่วประเทศ

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 6 มี.ค. 63 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงข่าวจากศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล COVID-19 ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  โดยนายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้เปิดเผยถึงจำนวนแรงงานไทยในเกาหลีใต้มีทั้งหมด 209,909 คน เป็นแรงงานถูกกฎหมาย 57,470 คน , ผิดกฎหมาย 152,439 คน มีแรงงานแสดงความประสงค์ขอกลับไทยแล้ว 5,389 คน ในจำนวนนี้เดินทางกลับไทยแล้ว 4,727 คน (ตั้งแต่ 11 ธ.ค. 62- 1 มี.ค. 63) ทั้งนี้เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (5 มี.ค.63 ) นายดอน ปรมัตถวินัย รมว.ต่างประเทศ ได้โทรศัพท์ประสานขอให้ทางการเกาหลีใต้ เพิ่มมาตรการเข้มข้นในการตรวจคัดกรองที่สนามบินอินชอน สำหรับผู้โดยสารที่จะเดินทางมาประเทศไทย และขอให้จัดส่งข้อมูลแรงงานไทยที่เดินทางกลับมา ให้ทาง สตม.ไทย รับทราบ จากนั้นเมื่อถึงสนามบินในประเทศไทย จะมีหลุมจอดโดยเฉพาะเพื่อคัดกรอง หาก 1. มีไข้ จะถูกส่งตัวไป รพ.ในเครือของ สธ. ทันที 2. มาจากพื้นที่เสี่ยง เช่น เมืองที่เชื้อแพร่ระบาดอยู่ จะส่งไปยังพื้นที่กักตัวตามที่รัฐบาลจัดเตรียมไว้ ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะมีการติดตามแรงงานที่กลับมา โดยทำงานร่วมกันกับหน่วยงานอื่น ในคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ซึ่งได้รับความร่วมมือจากแรงงานส่วนใหญ่ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่เป็นข่าว ซึ่งต้องใช้มาตรการทางกฎหมายจัดการ ในส่วนของจำนวนผู้ติดเชื้อ ปัจจุบันทั่วโลกติดเชื้อประมาณ 96,000 คนใน 84 ประเทศ ที่มีอาการหนักประมาณ 6,000 คนหรือ 6% ที่เหลืออีกกว่า 90% คืออาการป่วยเหมือนเป็นไข้หวัดธรรมดา สธ.ยืนยันว่า เชื้อโรคนี้ไม่มีการล่องลอยไปตามอากาศ ติดต่อได้ 2 วิธีเท่านั้น คือ 1. ไอ-จาม รดใส่กันในระยะ 1 ช่วงแขน 2. เชื้อที่ติดอยู่ตามที่ต่าง ๆ แล้วมือไปสัมผัสเอาเข้าปาก จมูก ส่วนจำนวนตัวเลขผู้ป่วยในไทย ยังคงเดิมคือ 47 ราย ในจำนวนนี้ 45 รายอาการไม่รุนแรง เสียชีวิต 1 ราย และอีก 1 รายยังต้องดูแลใกล้ชิด สำหรับปัญหาการขาดแคลนหน้ากากอนามัย นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตอนนี้มีโรงงานผลิต 11 แห่ง กำลังผลิตอยู่ที่ 1.2 ล้านชิ้นต่อวัน ประสบปัญหาเรื่องการนำเข้าวัตถุดิบ และต่างประเทศงดการส่งออก ทำให้จำนวนหน้ากากที่เคยนำเข้าเดือนละประมาณ 20 ล้านชิ้น หายไป เหลือให้ใช้ในประเทศแค่ 1.2 ล้านชิ้นต่อวัน ในจำนวนนี้จะมี 6 แสนชิ้นที่ ก.พาณิชย์บริหารจัดการร่วมกับ สธ. จัดสรรให้บุคลากรทางการแพทย์-ผู้ป่วย ได้รับประมาณ วันละ 3.5 แสนชิ้น ประมาณ 2 แสนชิ้นจะถูกส่งไปตามสนามบิน สายการบิน ร้านขายยา ที่เหลืออีกประมาณ 6 แสนชิ้นจะเป็นไปตามกลไกปกติ ผู้ผลิตส่งให้ตามโรงงาน หรือ รพ.เอกชน หลังจากเกิดปัญหาขาดแคลนอย่างหนัก จึงมีการปรับกระบวนการจัดการใหม่ จัดลำดับความจำเป็นใช้ โดย ก.พาณิชย์ และ สธ. เข้าไปบริหารจัดการทั้งหมด 1.2 ล้านชิ้น จัดสรรให้บุคลากรทางการแพทย์ 7 แสนชิ้นต่อวัน เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รพ.ทุกแห่งเกือบทั่วประเทศ จะได้รับหน้ากากอนามัยใช้ แต่จะมีการประเมินเป็นรายวัน ว่าจะมีความจำเป็นต้องใช้เพิ่มเติมหรือไม่อย่างไร ส่วนที่เหลือประมาณ 5 แสนชิ้น จะส่งไปให้หน่วยงานที่มีความจำเป็น หรือกลุ่มเสี่ยงที่จะต้องสัมผัสกับผู้ป่วย เช่น สนามบิน ตม. จะมีบางส่วนเท่านั้นที่เกลี่ยไปให้ร้านค้าต่าง ๆ รวมถึงร้านธงฟ้า อธิบดีกรมการค้าภายในยังระบุด้วยว่า ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 9 มี.ค. 63 เป็นต้นไป หน้ากากอนามัย ราคาจะต้องไม่เกินชิ้นละ 2.50 บาท หากฝ่าฝืนจะมีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท