ว่าที่บัณฑิตสาวพาพ่อที่ป่วยไปรักษา รพ.รัฐแห่งหนึ่ง แต่ถูกปฏิเสธการรักษา สุดท้ายพ่อเสียชีวิต ล่าสุดเตรียมเรียกเจรจา 1 ส.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่ผู้เสียหายได้มีการร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน หลังจากพาพ่อไปรักษาที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งทางผู้เสียหายอ้างว่าได้นำพ่อไปเข้ารับการรักษาเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.ของวันที่ 21 (เช้ามืดวันที่ 22 ก.ค.) ด้วยอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ก่อนที่ทาง รพ.จะให้นำผู้ป่วยกลับไปบ้านและมาใหม่อีกครั้งในช่วงเช้า แต่หลังจากกลับไปบ้านแล้วผู้ป่วยอาการไม่ดีขึ้นพร้อมกับอาเจียนออกมาเป็นเลือด ทำให้ทางญาติได้นำส่ง รพ.แห่งนี้เพื่อรักษา ซึ่งหลังจากตรวจร่างกายแล้วทาง รพ.แห่งนี้ได้ส่งตัวไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แต่ก็สายเกินไปสุดท้ายเสียชีวิต
ซึ่งล่าสุดวันนี้ (29 ก.ค.67) ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนายแพทย์สุผล ตติยนันทพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ทราบเรื่องดังกล่าวเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทางผู้เสียหายได้เข้ามายื่นหนังสือร้องเรียนให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยในเบื้องต้นทราบจากทาง ผอ.รพ.ว่าจะมีการจัดคุยกันในวันที่ 1 ส.ค.67 อย่างไรก็ตามหลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นทาง สสจ.ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจก็เตรียมที่จะเรียกทั้ง 2 ฝ่ายให้นำเอกสารเข้ามาชี้แจงรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งสำหรับข้อกังวลกรณีที่ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นคนต่างด้าวนั้น ทางหลักประกันสุขภาพก็ต้องไปตรวจสอบเอกสารต่างๆที่ทางผู้เสียชีวิตนั้นได้มีการทำเอกสารเรื่องประกันสุขภาพไว้หรือไม่ แต่ในเบื้องต้นทราบว่าทางผู้เสียชีวิตได้ซื้อประกันสุขภาพเอาไว้ที่โรงพบาบาลในพื้นที่อยู่แล้ว อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้หลักประกันสุขภาพแห่งชาตินั้นก็ได้ให้สิทธิ์คลอบคลุมไปถึงชาวต่างด้าวอีกด้วย
นายแพทย์ สสจ.กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นทาง สสจ.รวมไปถึงโรงพยาบาลของรัฐได้มีการประชุมหาแนวทางแก้ไขเพื่อยกระดับมาตรการในการรักษาและโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการประเมินอาการของคนไข้ที่เข้ารับการรักษาว่าวิกฤติหรือไม่อย่างไร โดยเอากรณีตัวอย่างของโรงพยาบาลพระทองคำ ซึ่งเคยเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันซึ่งได้เป็นข่าวไปแล้ว นำมาวิเคราะห์และหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา ซึ่งประชุมเสร็จไปไม่นานนี้เอง
และเตรียมที่จะแจ้งไปยัง รพ.รัฐในสังกัดให้ปฏิบัติตามแนวทางแต่ยังไม่ทันได้ประกาศก็มาเกิดเหตุการณ์นี้เสียก่อน อยากให้ประชาชนมั่นใจเพราะทาง สสจ.และ รพ.รัฐรวมไปถึงหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขนั้นจริงจังกับการแก้ปัญหาและจะป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะเช่นนี้อีก.