พายุถล่มจันทบุรี ท้าวเวสสุวรรณ ยังต้านไม่ไหวต้องสละรองเท้าทิ้งกระบองคู่กาย ชาวสวนช้ำ ต้นทุเรียนหักโค่น เสียหายกว่า 2 ล้านบาท
วันที่ 28 ก.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานพร้อมเปิดภาพเปิดความเสียหายเบื้องต้นที่เกิดขึ้นหลังจาก พายุฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนักในพื้นที่ จังหวัดจันทบุรี ตั้งแต่เมื่อวานนี้ต่อเนื่องและเพิ่งเบาบางลงเมื่อประมาณ 02.00 น. ที่ผ่านมา
พบว่าหลายพื้นที่ในจังหวัดจันทบุรีถูกน้ำท่วมขังระบายไม่ทันหลายพื้นที่ด้วยกัน โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มและที่รองรับน้ำใกล้ลำคลองถนนที่อยู่ในพื้นที่ตัวเมืองจันทบุรี รวมถึงชาวบ้านในเขตพื้นที่อำเภอโป่งน้ำร้อน อำเภอมะขาม และอำเภอขลุงบางพื้นที่ยังคงมีน้ำท่วมขัง เจ้าหน้าที่เทศบาลและกู้ภัยฯ ต้องนำเรือท้องแบนเข้าให้ความช่วยเหลือ
ล่าสุด ความเสียหายบริเวณ วัดวันยาวล่าง ต.วันยาว อ.ขลุง หลังคาของศาลาการเปรียญที่ใช้ทำบุญถูกพายุพัดเสียหาย น้ำรั่วเข้าภายในศาลา ต้นไม้หักโค่นหลายต้น
และที่บริเวณหน้าโบสถ์มี ท้าวเวสสุวรรณคู่ สีแดงและเขียว แต่พบว่ายักษ์ตัวสีเขียวสีเขียวเหลือเพียงกระบองคู่กายและเท้าทั้งสองข้าง ส่วนตัวของท้าวเวสสุวรรณหายไป
ฝากการตรวจสอบแล้วปรากฏว่า ท้าวเวสสุวรรณ ถูกพายุพัดจนตัวล้มลงไปนอนหงายอยู่กับพื้น เหลือเพียงกระบองคู่กายและขาช่วงข้อเท้าติดอยู่บนแท่นปูน โดยขณะนี้ทางวัดและชาวบ้านอยู่ระหว่างช่วยกันแก้ไขปรับปรุงและเคลียร์สถานที่
ห่างจากวัดวันยาวล่าง 200 เมตร ซ.4 หมู่ 2 ต.วันยาว สวนทุเรียนของ นาย สมชาย ยิ้มสกุล มีพื้นที่ทั้งหมด 7 ไร่ มีต้นทุเรียนทั้งหมด 181ต้น แต่ละต้นอายุ 10 กว่าปี ให้ผลผลิตต้นละประมาณ 30,000 บาท ถูกลมพายุพัดหักโค่นเสียหายไปทั้งหมด 71 ต้นคิดเป็นค่าความเสียหายกว่า 2 ล้านบาท