ผบ.ทร.ให้โอวาท กำลังพลฝีพาย 2,200 นาย ย้ำทุกคนเป็นความภาคภูมิใจของคนทั้งชาติ

1 ส.ค. 67

 

ผบ.ทร.ให้โอวาท กำลังพลฝีพาย 2,200 นาย ย้ำทุกคนเป็นความภาคภูมิใจของคนทั้งชาติ ช่วงบ่ายซ้อมย่อยเต็มรูปขบวน 52 ลำ เป็นวันแรก 

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 1 ส.ค. 67 ที่บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เชิงสะพานพระราม 8 เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค (คจร.)เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 

เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค โดยมีกำลังพลในขบวนพยุหยาตราทางชลมารค และฝีพายเรือพระราชพิธี จำนวน 2,200 นายร่วมในพิธี 

ผบ.ทร.ให้โอวาท กำลังพลฝีพาย 2,200 นาย ย้ำทุกคนเป็นความภาคภูมิใจของคนทั้งชาติ

ทั้งนี้ ผบ.ทร. ได้มอบโอวาทแก่กำลังพลตอนหนึ่งว่า “ทุกคนคือความภูมิใจของกองทัพเรือ ทุกคนคือความภูมิใจของประชาชนคนไทยทั้งชาติ ขอให้มีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีอันสำคัญยิ่งนี้ และจงทำหน้าที่ของตนให้เต็มที่ เพื่อให้การจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เป็นไปด้วยความเรียบร้อยเรียบร้อยสง่างามและสมพระเกียรติ และขอให้ดูแลเรื่องอุบัติเหตุให้มีความระมัดระวัง และขอให้มีสุขภาพแข็งแรงยิ่งช่วงใกล้งานพระราชพิธีก็ขอให้ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง” 

ผบ.ทร.ให้โอวาท กำลังพลฝีพาย 2,200 นาย ย้ำทุกคนเป็นความภาคภูมิใจของคนทั้งชาติ

สำหรับรูปแบบการจัดขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารคในครั้งนี้ ใช้เรือพระราชพิธีจำนวนทั้งสิ้น 52 ลำ  ความยาว 1,200 เมตร กว้าง 90 เมตร โดยใช้กำลังพลประจำเรือในขบวนเรือพระราชพิธี จำนวนทั้งสิ้น 2,200 นายซึ่งการซ้อมขบวนเรือพระราชพิธีเป็นการจัดรูปขบวนตามรูปแบบโบราณราชประเพณีทุกประการ รูปขบวนเรือ แบ่งออกเป็น 5 ริ้ว 3 สาย คือ   

ผบ.ทร.ให้โอวาท กำลังพลฝีพาย 2,200 นาย ย้ำทุกคนเป็นความภาคภูมิใจของคนทั้งชาติ

- ริ้วสายกลาง ซึ่งเป็นเรือสายสำคัญ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่ง 4 ลำ มีเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ นอกจากนี้มีเรืออีเหลือง เรือกลองนอก เรือแตงโม ซึ่งเป็นเรือของผู้บัญชาการขบวนเรือ เรือกลองใน พร้อมด้วยเรือตำรวจนอก และเรือตำรวจใน 

- ริ้วสายใน ขนาบข้าง ฝั่งซ้ายและฝั่งขวาของริ้วซ้ายกลาง  มีเรือทองขวานฟ้าและเรือทองบ้าบิ่น เป็นเรือประตูหน้า เรือเสือทยานชล และเรือเสือคำรณสินธุ์ เป็นเรือพิฆาต เรือรูปสัตว์ 8 ลำ และปิดท้ายสายในด้วยเรือเอกไชยเหินหาว และเรือเอกไชยหลาวทอง ซึ่งเป็นเรือคู่ชัก 

- ริ้วสายนอก อยู่ทางด้านซ้ายและขวาของริ้วสายใน ประกอบด้วยเรือดั้ง และเรือแซง สายละ 14 ลำ รวม 52 ลำ 

ผบ.ทร.ให้โอวาท กำลังพลฝีพาย 2,200 นาย ย้ำทุกคนเป็นความภาคภูมิใจของคนทั้งชาติ

โดยการฝึกซ้อมเป็นขบวน จะเริ่มทำการซ้อมย่อยเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 10 ครั้ง ดังนี้ วันที่ 1 ,8 ,15 ,22 สิงหาคม วันที่ 3 ,12 ,19 ,26 กันยายน วันที่ 1 และ 10 ตุลาคม 

สำหรับการซ้อมใหญ่ จำนวน 2 ครั้ง ในวันที่ 15 และ 22 ตุลาคม และซ้อมเก็บความเรียบร้อยในวันที่ 24 ตุลาคม โดยพระราชพิธีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 27 ตุลาคม 2567 

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถรับชม การฝึกซ้อมได้ตลอดเส้นทางที่ขบวนเรือแล่นผ่านโดยพื้นที่สาธารณะที่สามารถรับชมได้อย่างใกล้ชิด มีดังนี้ ฝั่งธน บริเวณใต้สะพานพระราม 8 ด้านพระบรมราชเสาวรีย์รัชกาลที่ 8 สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ข้างโรงพยาบาลศิริราช ท่าน้ำวัดระฆังโฆษิตาราม และวัดอรุณราชวราราม ฝั่งพระนคร ที่สวนสันติชัยปราการ ข้างป้อมพระสุเมรุ ท่ามหาราช และท่าช้าง ตั้งแต่เวลา 15.00 น. ที่เรือพระราชพิธีเริ่ม เคลื่อนขบวนบริเวณสะพาน พระราม 8 จนเสร็จพิธีที่วัดอรุณราชวราราม

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส