สลด! สาว 15 ควบจยย.ข้ามทางรถไฟที่ชาวบ้านทำขึ้นเอง ถูกม้าเหล็กชนกะโหลกแตกดับอนาถ
วันที่ 2 สิงหาคม 2567 เวล า09.40 น. พ.ต.ท.ธีระภาพ ภูขันซ้าย สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุรถไฟชนรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
เหตุเกิดบริเวณทางลัดผ่านชุมชนทุ่งสว่างไปชุมชนหนองเหล็กเขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบขบวนรถไฟตู้สินค้า ขบวนที่ 555 จอดอยู่ ที่เกิดเหตุมีชาวบ้านจำนวนมากมุ งดูศพที่พงหญ้าริมทางรถไฟ คือน.ส.อาณัตยา หรือน้องต้นหลิว อายุ 15 ปี ชาวชุมชนวัดโพธิวรารามเขตเทศบาลนครอุดรธานีนักศึกษาชั้นปวช.1วิทยาลัยอาชีวศึกษา จ.อุดรธานี สภาพนอนคว่ำหน้าสวมเสื้อกีฬาสีม่วง กางเกงวอร์มขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาวดำ หลุดออกจากเท้าพบโทรศัพท์มือถือแตก หมวกกันน๊อกหลุดจากศีรษะ ห่างศพเล็กน้อยพบรถจักรยานยนต์ น้ำเงิน สภาพใหม่ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนล้มพังเสียหายอยู่ในพงหญ้า
จากการชันสูตรพบกะโหลกศีรษะด้านขวายุบ คอหัก นำศพไปเก็บไว้ที่นิติเวชโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี
นายพัชระ พรหมจันทร์ อายุ 29 ปี พนักงานควบคุมท้ายขบวนรถไฟเล่าว่า รถไฟขบวนที่555 ขนตู้สินค้ามาจากแหลมฉบั งจ.ชลบุรี ปลายทางสถานีรถไฟ จ.หนองคาย เมื่อขับออกมาจากสถานีรถไฟ จ.อุดรธานี มาถึงที่เกิดเหตุ พนักงานขับรถไฟพบผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ผ่านแบบกระชั้นชิด แต่ห้ามล้อไม่ทันจึงได้ชนผู้ตายเข้าอย่างจัง และได้จอดขบวนรถไฟและลงมาช่วยเหลือแต่พบว่าเสียชีวิตแล้ว
นายยุทธนา ไชยเสนา อายุ 34 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่าบริเวณที่เกิดเหตุเป็นทางข้ามทางรถไฟ ที่ชาวบ้านทำขึ้นมาเอง และไม่มีเครื่องกั้น และสัญญาณเตือนเมื่อรถไฟมา ก่อนเกิดเหตุตนยืนอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร เห็นผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์จากชุมชนหนองเหล็กข้ ามทางรถไฟมาชุมชนทุ่งสว่าง เป็นจังหวะเดียวกันกับขบวนรถไฟมุ่งหน้ามาด้วยความเร็วและไม่มีเสียงเปิดหวูดสัญญาณ ผู้ตายคงไม่เห็นรถไฟมาจึ งขี่รถจักรยานยนต์ข้ามตัดหน้าขบวนรถไฟกระชั้นชิด ทำให้รถไฟชนกระเด็นตกลงไปพงหญ้าเสียชีวิต ซึ่งฝากเตือนผู้ที่ข้ามทางรถไฟบริเวณนี้ให้จอดรถและมองซ้ายมองขวาก่อนข้ามทาง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปพบญาติ ที่อาศัยอยู่ชุมชนวัดโพธิวราราม เขตเทศบาลนครอุดรธานี เพื่อแจ้งข่าวน.ส.อาณัตยาโดนรถไฟชนเสียชีวิต เมื่อรู้ข่าวญาติต่างร่ำไห้ด้วยความเสียใจพอตั้งสติได้น.ส.นุชนาฎ อายุ 53 ปี ยายผู้ตายร่ำไห้ด้วยความเสียใจพร้อมกับได้โทรศัพท์หาญาติพี่น้องเพื่อแจ้งข่าวร้าย
ด้านน.ส.อารยา อายุ 36 ปี แม่ผู้ตายเล่าว่า ตนเลี้ยงลูก 4 คนผู้ตายเป็นลูกคนที่ 2 ส่วนพ่อเสียชีวิตหลายปีแล้ว ผู้ตายเรียนอยู่วิทยาลัยอาชีวศึกษา จ.อุดรธานี และไม่รู้ว่าผู้ตายขี่รถไปแถวนั้นทำไม ก่อนเกิดเหตุ 3 วัน ตนมีลางสังหรณ์ขนลุกตั้งแต่ขาทั้งสองข้างยันหัว และมีความรู้สึกว่าใจหายเหมือนเสียของรักอะไรซักอย่างแต่ไม่รู้ว่าเสียอะไ รถ้าดวงวิญญาณลูกฟังอยู่อยากบอกว่าอยากให้ลูกกลับมา