ซ้อมทหารเกณฑ์พ่นพิษ บิ๊กทิน เรียก ผบ.ทบ.หารือบ่ายนี้ กำหนดแนวทางบทลงโทษ การฝึกพลทหารให้สากล พร้อมตั้งกก.กลาโหมตรวจสอบเรื่องร้องเรียนคู่ขนานกองทัพ
จากกรณี น้องสาวของพลทหารรายหนึ่ง ร้องเรียน “สายไหมต้องรอด” ว่า พี่ชายพร้อมเพื่อนพลทหารค่ายอดิศร สังกัด ม.4 พัน 25 ฐานนอแล จ.เชียงใหม่ โดนซ้อมหนักปางตาย จนบางคนหลับคาเท้าจ่าและนายสิบ อีกทั้งยังสั่งแก้ผ้ายืนตากฝนนาน 6 ชม. ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ต่อมาเมื่อวลา 09.30 น. วันที่ 5 ส.ค. 67 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมานาย สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้รวบรวมข้อมูล กรณีพลทหารในสังกัด กองพันทหารม้าที่ 25 ที่ถูกส่งไปฝึกที่ฐานปฏิบัติการใน ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และถูกลงโทษหนัก โดยให้เก็บสถิติในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาของทุกเหล่าทัพว่ามีจำนวนของเหตุการณ์และรูปแบบในลักษณะเช่นนี้เป็นอย่างไร เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการกำหนดนโยบายและบทลงโทษที่ชัดเจนให้มากขึ้น
ทั้งนี้กองทัพบกได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และมีการลงโทษตามอำนาจของผู้บัญชาการกองพลไปแล้ว แต่เพื่อให้เกิดความสบายใจต่อญาติของทหาร ในส่วนของกระทรวงกลาโหมจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพื่อพิจารณาผลสอบหาข้อเท็จจริงคู่ขนาน เพื่อนำไปสรุปหาข้อบกพร่อง เช่น การบริหาร การฝึกและบทลงโทษ
สำหรับผู้ใต้บังคับบัญชาและผู้บังคับบัญชา หากเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นอีก เพื่อให้ทุกเหล่าทัพปฏิบัติในแนวทางเดียวกัน เพราะที่ผ่านมา รมว.กลาโหมได้ขอความร่วมมือทั้งในที่ประชุมสภากลาโหม และผู้นำเหล่าทัพไปแล้ว ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก โดยเฉพาะการไม่ให้เกียรติในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หรือแม้แต่กระทั่งการลงโทษที่เกินกว่าเหตุหรือไม่เหมาะสม ไม่เป็นไปตามมาตรฐานการฝึกระดับสากล
นายจิรายุ กล่าวอีกว่า เมื่อคืนที่วันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา รมว.กลาโหม ได้ เชิญ ผบ.ทบ เข้าพูดคุยในวันนี้ (5 ส.ค. 67) เวลา 15.00 น. ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (ศรีสมาน) เพื่อหารือและกำหนดแนวทาง โดยเฉพาะเรื่องการให้ทุกเหล่าทัพจัดประชุมระดับผู้บัญชาการกองพลทั่วประเทศ เพื่อรับนโยบายจาก รมว.กลาโหมโดยตรง
“กรณีนี้ รมว.กลาโหมไม่สบายใจมาก โดยสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการของกระทรวงขึ้นมา เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงคู่ขนานไปกับเหล่าทัพ เพราะที่ผ่านมา หากให้ทางหน่วยสอบสวนกันเองอาจทำให้ญาติของทหาร และประชาชนทั่วไปไม่สบายใจ ซึ่งรมว.กลาโหมจะกำชับอีกครั้งในระดับนโยบายว่าหากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีกผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบ” นายจิรายุ กล่าว
Advertisement