รวบโจรขโมยกกน. ไปช่วยตัวเอง ยอมรับชอบแบบเซ็กซี่ เมียไม่มีแบบนี้ ด้านผู้เสียหายตามเอาเรื่องให้ถึงที่สุด หวังให้ผู้ก่อเหตุหลาบจำ
วันที่ 7 ส.ค. ที่ สภ.ชัยพฤกษ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พ.ต.อ.สมชาย ชูแก้ว ผกก.สภ.ชัยพฤกษ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ ร่วมกันจับกุม นายศานิตย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี โจรขโมยกางเกงใน รับสารภาพว่านำไปแขวนไว้ในห้องน้ำเพื่อไว้ช่วยตัวเองที่บ้าน
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพบหลักฐาน เป็นกางเกงในผู้หญิง จำนวน 10 ตัว เสื้อ กางเกงและรองเท้า ที่ใช้ในวันก่อเหตุตรงกัน และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ
จากการสอบถาม นายศานิตย์ ถึงเหตุผลที่ก่อเหตุ โดยยอมรับว่า ก่อนก่อเหตุได้มีการดื่มเหล้า และเสพยาเสพติด ทำให้เกิดอารมณ์ชั่ววูบ ขี่รถจักรยานยนต์ผ่าน แล้วเห็นว่ามีการตากกางเกงในไว้นอกบ้าน จึงได้หยิบมาทั้งราวแขวน รวมแล้วได้กางเกงในผู้หญิงประมาณสิบกว่าตัว โดยได้นำกางเกงใน แขวนไว้ในห้องน้ำเพื่อช่วยเหลือตัวเอง
โดยนายศานิตย์ ยังบอกอีกว่า ตนชื่นชอบกางเกงในที่เป็นสายเดี่ยว ซึ่งยอมรับว่าของภรรยาไม่มีแบบนี้ จึงได้ก่อเหตุ พอทีมข่าวสอบถามว่ากางเกงในตัวไหนที่นายศานิตย์ ชอบมากที่สุดนายเอ ได้ชี้ตัวสีชมพูที่เป็นสายเดี่ยว
นายศานิตย์ ยังบอกอีกว่า คนในครอบครัวไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย เพราะว่าตนแอบทำหลังจากขโมยกางเกงในมาแล้ว ก็จะเอาแอบไว้ใต้หลังคาห้องน้ำ ยืนยันว่าภรรยาไม่มีส่วนรู้เห็น และไม่รู้ด้วยว่า ตนมีพฤติกรรมแบบนี้ ตอนนี้สงสารภรรยามาก กลัวภรรยา จะคิดน้อยใจว่าตัวเองรักกางเกงในคนอื่นมากกว่ากางเกงในภรรยา อยากจะวิงวอนขอให้เจ้าของกางเกงในไม่เอาเรื่องเอาความกับตน เพราะว่ามีภาระค่อนข้างเยอะ เป็นห่วงภรรยา ห่วงลูกสาว 2 คน ยิ่งตอนนี้พ่อตาแม่ยาย ก็ป่วยหนัก ถ้าขาดตนไปคนหนึ่ง ก็จะเสียเสาหลักของบ้านไป
ด้านผู้เสียหาย น.ส.บี (นามสมมติ) เดินทางมาชี้พยานหลักฐานปรากฎว่า มีกางเกงในของตนเองด้วย สำหรับเหตุการณ์นี้แม้จะเป็นการขโมยกางเกงในราคาเพียงเล็กน้อย แต่ก็ยอมความไม่ได้ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพราะเห็นกรณีแบบนี้แล้ว เจ้าของกางเกงในก็ปล่อยผ่าน อาจจะอาย หรือมองว่าเรื่องเล็กน้อย ก็เลยทำให้โจรก่อเหตุแบบนี้อยู่เรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้น และส่วนตัวก็อยากให้ผู้เสียหายกรณีแบบเดียวกับตนช่วยกันมาแจ้งความ เพื่อให้โจรโรคจิตเกรงกลัวกฎหมายบ้าง
ขณะที่ภรรยาของนายศานิตย์ ก็ได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ และอยู่ในอาการตกใจ และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก ร้องไห้สะอื้นอยู่ตลอดเวลา บอกว่าไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าสามีไปก่อเหตุแบบนี้ ที่ผ่านมาสามีไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่ แต่ยอมรับว่าเรื่องยาเสพติดรู้มาบ้าง ทั้งที่ตัวเองทำงานก่อสร้างด้วยกัน พอมาทราบแบบนี้บอกตามตรงว่าตกใจ รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้มากราบขอโทษผู้เสียหาย ผู้เสียหายก็พยายามปลอบใจบอกว่า ไม่ได้เอาเรื่องเอาความกับภรรยา แต่ต้องเอาความกับสามีพี่จริงๆ ไม่สามารถยอมความได้ ไม่งั้นเขาก็จะทำแบบนี้อีก