เปิดความหมาย สัญลักษณ์สามเหลี่ยมพีระมิดหัวกลับของ พรรคประชาชน

เฟซบุ๊กเพจ “พรรคก้าวไกล” เปลี่ยนชื่อเป็น “พรรคประชาชน” พร้อมเปิดความหมาย สัญลักษณ์สามเหลี่ยมพีระมิดหัวกลับ 

วันที่ 9 ส.ค. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กเพจ “พรรคก้าวไกล” ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “พรรคประชาชน - People's Party” พร้อมเปลี่ยนรูปโปรไฟล์เป็นรูปโลโก้ พรรคประชาชน และรูปภาพหน้าปกเป็นรูปของประชาชน 

โดยระบุข้อความว่า “สถาบันที่ศักดิ์สิทธิ์และยืนยงที่สุดในระบบการเมืองแบบประชาธิปไตย คือประชาชน ผู้เป็นเจ้าของอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศ สัญลักษณ์สามเหลี่ยมพีระมิดหัวกลับ แสดงถึงการยกประชาชนผู้เป็นรากฐานของประเทศไว้เหนือผู้ปกครอง เส้นประกบสามเส้น สื่อถึง เสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพ ลักษณะตัวอักษรชื่อพรรค เป็นงานสไตล์ Rectilinear ซึ่งเป็นเส้นตัด สะท้อนความเสมอภาคเท่าเทียมและทันสมัย และนี่คือ พรรคประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน สร้างประเทศไทยที่อำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน” 

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊กเพจ “พรรคประชาชน - People's Party” โพสต์ข้อความระบุว่า 4 ปีก้าวไกล ผู้คนและการเดินทาง สร้างพรรคของประชาชน ตลอดการเดินทางในนามก้าวไกล เราพิสูจน์ว่าการสร้างพรรคการเมืองที่ประชาชนร่วมกันเป็นเจ้าของ เกิดขึ้นได้จริง 

ทั้งหมดมาจากการลงมือลงแรง การสนับสนุนของพี่น้องประชาชน สมาชิกพรรค เครือข่ายคนทำงานทั่วประเทศ ที่มีความฝันร่วมกัน ต้องการเปลี่ยนแปลงการเมืองไทยให้ดีกว่าที่เป็นมา 

และนี่คือทั้งหมดของงานสร้างพรรคตลอด 4 ปีของก้าวไกล นับจากวันแรกถึงวันสุดท้าย 7 สิงหาคม 2567 จำนวนสมาชิกก้าวไกล 115,492 คน 

ได้รับจัดสรรเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง เติบโตต่อเนื่องทุกปี โดยคำนวณจาก (1) เงินบริจาคภาษีเงินได้บุคคลประจำปีที่ประชาชนกรอกในแบบฟอร์ม ภ.ง.ด. (2) ค่าบำรุงพรรคการเมืองที่ได้รับจัดสรรในแต่ละปี (3) (สำหรับเงินจัดสรรในปี 2567) คะแนนเสียงเลือกตั้ง สส.ในปี 2566 และ (4) จำนวนสาขาพรรคการเมือง 

↗️ปี 2563 = 358,009.71 บาท

↗️ปี 2564 = 4,033,346.22 บาท

↗️ปี 2565 = 30,145,874.86 บาท

↗️ปี 2566 = 47,454,254.82 บาท

↗️ปี 2567 = 60,144,034.38 บาท 

📍จำนวนสาขา 20 จังหวัด

📍จำนวน ตทอ. 287 อำเภอ

📍จำนวน ตทต. 33 ตำบล 

แม้คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญทำให้การเดินทางในยานพาหนะชื่อก้าวไกลต้องหยุดลง แต่ภารกิจสร้างพรรคของประชาชนจะไปต่อในยานพาหนะลำใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงความหวังและความเชื่อของผู้คน เดินหน้าต่อไป จนกว่าอำนาจสูงสุดเป็นของ “ประชาชน”