กัน จอมพลัง บุกทลายซุ้ม องค์กรเถื่อนรับน้องโหด ชี้เป็น แก๊งอาชญากร จากผู้ล่าเตรียมเป็นผู้ถูกล่า เดินหน้าจัดการ ลั่นต้องเอาให้เป็นเยี่ยงอย่าง
จากกรณี นายสมชาย (นามสมมติ) อายุ 54 ปี และ น.ส.นิด (นามสมมติ) อายุ 39 ปี พ่อและแม่ของนายต้น (นามสมมติ) อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังย่าน จ.นนทบุรี แจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ที่รับน้องโหดทำร้ายลูกชาย หลังจากลูกชายไปขอลาออกจากการเข้าระบบการรับน้อง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส รักษาตัวอยู่ห้องไอซียู
ขณะที่ผู้เป็นพ่อเองก็ถูกกลุ่มนักศึกษาทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิด ในมหาวิทยาลัยชื่อดัง ต่อหน้ารองอธิการบดี แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุก็ไม่เกรงกลัว ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ต่อมาวันที่ 17 ส.ค.67 นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พร้อมด้วยพ.ต.ท.ศุภชัย ศรีศักดิ์ รองผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษภ.จว.นนทบุรี (พยัคฆ์นนท์ 66) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้พาน้องต้น และครอบครัว ลงพื้นที่บริเวณ ซอยเปลี่ยวข้างป้ายรถเมล์ ริมถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
ซึ่งบริเวณด้านในเป็นพื้นที่กว้างเป็นป่ารกร้าง ที่ทางรุ่นพี่ของมหาวิทยาลัยดังกล่าวจะพารุ่นน้องกว่า 50 คนรับน้องหลังเลิกเรียน บริเวณด้านในจะเป็นทางเดินเข้าไปประมาณ 20 เมตร จะพบว่ามีผ้าใบสีน้ำเงินกั้นเป็นซุ้ม บนพื้นพบขวดเหล้าขาวตกอยู่จำนวนหลายขวด และลังกล่องเหล้าขาว ถัดไปพบกระป๋องสเปรย์สีแดงตกอยู่ 2 กระป๋อง ห่างไป 3 เมตร พบกล่องลังกระดาษของสเปรย์วางอยู่อีก 1 ลัง
ขณะลงพื้นที่ตรวจสอบทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบอาวุธมีดหัวตัดขึ้นสนิมตกอยู่จำนวน 2 เล่ม และอาวุธมีดงออีก 1 เล่ม รวมจำนวน 3 เล่ม ตกอยู่ในสถานที่ดังกล่าว
กัน จอมพลัง กล่าวว่า เมื่อวานผู้เสียหายได้ออกจากโรงพยาบาลด่วน มีคนติดต่อไปทางคนที่รู้จักว่า มีคนจะตามหาน้องที่โรงพยาบาล น้องเล่าให้ฟังว่ามีเพื่อนอยู่สมัยเรียนตั้งแต่เด็ก ต่างคนต่างเรียน รุ่นพี่เห็นว่าอยู่ด้วยกันให้น้องเลิกคบเพื่อน ใช้วิธีการรับน้อง ถ้าไม่ทำตามก็จะต่อย เตะ แล้วให้บอกว่าขอบคุณครับอย่างเดียว บอกให้น้องเลิกคบเพื่อน แต่ถ้าน้องทำไม่ได้ก็จะถูกรุมต่อย รุมเตะ ยึดบัตรประชาชนบังคับให้พาไปที่บ้าน บอกว่ากูรู้บ้านมึงอยู่ไหน ถ้ามึงไม่ทำตามเดี๋ยวกูจะสังหารมึงทั้งครอบครัว
และมีการพาน้องไปตามห้องจะมีศูนย์ฝึกกลางแจ้ง ศูนย์ตรงนี้จะเป็นที่ที่เอามาต่อยมาเตะ แล้วฝึกแบบทหาร หลังจากนั้นพาไปที่ห้องเอาสเปรย์ เผาตามตัว ขึ้นไปบนห้องรอบละ 10 คน เผาทุกคนต้องถอดเสื้อผ้าทั้งหมด และปิดตา
กลุ่มนี้มันเป็นแก๊งอาชญากรย่อมๆ มีเงินกองกลาง มีเก็บกองกลางเป็นรายอาทิตย์ เวลาใครมีปัญหาจะเอาเงิน ก้อนนี้คอยช่วยเหลือ หลังที่น้องถูกกระทำต่างๆ นานาจนทนไม่ไหว เลยไปบอกพ่อกับแม่ พ่อแม่พาไปลาออกที่โรงเรียน แต่ครั้งนี้เป็นรุมกระทืบพ่อกับน้องที่โรงเรียน จนพ่อแม่ต้องก้มกราบขอชีวิต
ส่วนข้อมูลที่ตนได้มาอยากฝากถามโรงเรียนคนที่เป็นหัวโจก รุมทำร้ายเป็นนักเรียนที่อยู่ในสถาบันท่านหรือไม่ ถ้าไม่ใช่สถาบันท่านแล้วไปใส่ชุดนักศึกษาแล้วกระทืบผู้ปกครอง ทำร้ายคนอื่นได้ในโรงเรียน ต้องถามว่าทางโรงเรียนหละหลวมไหม มีมาตรการอะไรหรือยัง มาบอกว่าไม่ได้สนับสนุน ทางน้องบอกว่าทำแบบนี้มานานแล้วลองย้อนไปดู เคยมีทหารคนนึง เคยถูกทำแบบนี้เหมือนกันหรือไม่ เหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นครั้งแรก หรือเกิดมาหลายครั้งแล้ว น้องมาถึงจุดนี้ได้แสดงว่าต้องเหลืออดเหลือทน
ทางผู้ก่อเหตุอ้างว่ารู้จัก คนใหญ่คนโต ลองดูว่าจะชนะตำรวจด้านหลังตนได้ไหม วันนี้เห็นตรงกันว่าไม่อยากมีองค์กรเถื่อน อยู่ในพื้นที่นนทบุรี ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่ใช่อยากลากใครมาต่อยมาเตะแล้วคนคนนั้นต้องขอบคุณ อยากจะไปกระทืบพ่อใครก็ได้ ซึ่งมันไม่ใช่ ต้องเอาให้เป็นเยี่ยงอย่าง วันนี้คือจุดเริ่มต้นหลังจากนี้ตนขอฝากแก๊งค์นี้ เลือกฝั่งให้ดี มี 40-50 คน เลือกให้ดีว่าจะอยู่แก๊งไหน ใครให้ข้อมูลตนจะเก็บไว้เป็นพยาน แต่ถ้าใครเลือกช่วยเพื่อน เดี๋ยวได้ตามกันไปติดๆ วันนี้มาเรียนหนังสือควรต้องคิดถึงพ่อแม่บ้าง ส่วนเรื่องเสียงความปลอดภัยตนต้องขอขอบคุณทางผู้การจังหวัดนนทบุรีจัดดูแล 24 ชั่วโมง ตอนนี้จากผู้ล่าอาจจะกลายเป็นผู้ถูกล่าก็ได้
นายต้น ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า หลังเลิกเรียนเกือบจะทุกวัน กลุ่มรุ่นพี่จะพาพวกเด็กที่รับน้องมารับน้องกันที่สถานที่นี้ บางวันก็แยกไปรับน้องกันที่อื่น โดยมีการขึ้นหอพักต่างๆไม่ซ้ำที่ ในการรับน้องที่จุดนี้ จะมีรุ่นพี่ยืนล้อมรอบให้ท่องกลอนของโรงเรียน ท่องจำชื่อเพื่อน ถ้าเราท่องไม่ได้ก็จะโดนซ่อม เช่น เอาหัวปักพื้น วิดพื้น ลุกนั่ง เตะและต่อย หากโดนแล้วจะบังคับต้องบอกว่า "ขอบคุณครับ" ถ้าพูดว่าไม่ครับ จะลากไปข้างหลังแล้วจะถูกใช้สเปรย์จุดไฟแช็คเผาขนที่อวัยวะเพศ เวลาใครโดนลักษณะนี้ก็จะให้คนอื่นก้มหน้าและหลับตา ซึ่งเวลาทำร้ายจะปิดด้วยผ้าใบสีฟ้า เพื่อไม่ให้ใครเห็น ซึ่งการรวมตัวกันคนที่รับน้องตอนนี้ประมาณ 50 คน ส่วนรุ่นพี่จะมีประมาณ 10 กว่าคนบางครั้งจะมีศิษย์เก่ามาด้วย ทุกคนจะพกอาวุธมีดทุกคน เพื่อให้ป้องกันตัว โดยมีการบังคับให้พวกตนพกมีดทุกครั้ง เพื่อป้องกันตัวจากสถาบันคู่อริ
โดยพูดว่า “พกไป ถ้าโดนตำรวจจับเดี๋ยวจ่ายค่าปรับให้แค่ 100-200 แค่นั้น” ส่วนในการรับน้องที่นี้รุ่นพี่จะยึดมีด ยึดโทรศัพท์ก่อนเข้าไปข้างใน โดยวางไว้บริเวณปากทางเข้าให้เข้าไปตัวเปล่า แล้วก็ทำการซ่อม ร้องเพลง ตามที่ตนบอก มีการร้องเพลงปลุกระดมปลูกฝังให้คาดแค้นกับคู่อริ เคยเล่าประวัติว่าทางกลุ่มรุ่นพี่เคยถูกสถาบันคู่อริยิงตายไปแล้ว อยากให้แก้แค้น ให้รักในสถาบัน การกระทำลักษณะนี้เหมือนมีการสานต่อกันมาเรื่อยๆ บางคนก็ทนได้ยังอยู่ที่มหาวิทยาลัย บางคนก็ไม่ได้เรียน ส่วนถ้ากลุ่มอื่นไม่ได้มารับน้อง ก็จะถูกหาเรื่องในโรงเรียน เพื่อจะบีบให้เข้าระบบ ถ้าไม่เข้าจะโดนหาเรื่อง
ก่อนเข้าระบบบอกว่าจะเตะบอลทุกเย็น ตอนนี้ตนรู้สึกงง เวลาให้ไปไหนจะเปิดโลเคชั่นแล้วก็จะลบทิ้ง เช็กชื่อทุกรอบ ทำเหมือนเป็นอาจารย์ จะมาที่นี่ประมาณ 5 โมงเย็น หลังเลิกเรียน หลังเกิดเหตุไม่ได้โดนโทรมาขู่ มีแต่อาจารย์โทรมาบอกแม่ของตนว่าให้รีบเอาเด็กออกจากโรงพยาบาล เพราะกลัวว่าจะไปป่วนที่โรงพยาบาล ตอนเกิดเหตุอาจารย์ก็ยืนอยู่ด้วย แต่ห้ามลูกศิษย์ไม่ได้ ตอนนี้ตัดสินใจลาออกเรียบร้อยแล้ว บางคนใส่ชอปเข้ามาแต่ไม่ได้เรียนแล้ว ตอนนี้ตนอยากให้ทางโรงเรียนช่วยเหลือเรื่องการเรียน เพราะตนต้องเสียเวลาไป 1 ปี คนที่ทำร้ายตนมาทั้งหมด 4 คนจำหน้าได้ทุกคน