แน่จริงไปสึกแล้วมาต่อยกัน! หนุ่มส่งพัสดุหัวร้อน ท้าเจ้าอาวาสไปสึกมา ดวลกำปั้นตัวต่อตัว หลังฉุนถูกทวงเงินทอน ล่าสุดโต้กันคนละมุม
วันที่ 23 ส.ค.67 นายจีระติ อะช่วยรัมย์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ต.หนองใหญ่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้นำคลิปวิดีโอที่ถ่ายขณะพนักงานส่งพัสดุจะทำร้ายเจ้าอาวาส ขณะทวงถามเงินทอนค่าพัสดุ มาร้องเรียนสื่อเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับด้านบริการ
โดยเหตุการณ์ในคลิป คือ หนุ่มอายุประมาณ 25-30 ปี กำลังชี้หน้าเถียงกับเจ้าอาวาส วัดลักษณะตีโพยตีพาย และท้าให้เจ้าอาวาสวัดไปสึกแล้วมาต่อยกัน ทำให้เจ้าอาวาส โต้กลับบอกว่า”ไม่ต้องสึกเอาเลย” ทำให้หนุ่มส่งพัสดุถอยออกแล้วไปทำงานต่อ
สอบถามพระครูธรรมวุฒิ วุฑฒิธัมโม อายุ 65 ปี เจ้าอาวาสวัดหนองบ้านหนองใหญ่ ต.หนองใหญ่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เล่าว่าอาตมาสั่งต้นไม้ทางออนไลน์มา 3 ต้น มูลค่ารวมค่าส่ง 370 บาท เก็บเงินปลายทาง
ก่อนที่จะถึงวันเกิดเหตุได้มีพนักงานส่งพัสดุโทรศัพท์มาบอกจะเอาสินค้ามาส่ง จึงบอกไปว่าเอามาเลย เมื่อมาถึงพนักงานส่งพัสดุ เอาสินค้ามาให้ อาตมาเอาก็จ่ายเงินแบงก์ 1 พันบาทให้
จากนั้นพนักงานส่งพัสดุบอกว่าไม่มีเงินทอน เดี๋ยวจะไปขอแลกภายในหมู่บ้าน ผ่านไปนานกว่า 20 นาที ก็ไม่เห็นพนังงานกลับมา จึงโทรตาม ไม่นานหนุ่มส่งพัสดุได้ขี่รถย้อนมา เอาเงินยื่นให้อาตมา 30 บาท บอกว่าครบแล้ว
จึงรู้สึกว่าไม่ดีเพราะเอาเงินแบงก์ 1,000 ไป หนุ่มส่งพัสดุได้ขี่รถออกจากวัดไปอีก แล้วย้อนมาบอกว่า”ผมให้แบงก์500ไปแล้วนะ”ยิ่งงงอีก เพราะได้รับเงินทอนมาทั้งหมดเพียง 30 บาทเท่านั้น
จนกระทั่งวันเกิดเหตุคือวันที่17 ส.ค.พนักงานส่งพัสดุได้เอาสินค้ามาส่งพระรูปอื่นในวั ดจึงทวงถามเงินทอนอีก แต่พนักงานส่งพัสดุไม่ยอมรับอ้างว่าให้ไปแล้วจึงเกิดการโต้เถียงกันดังกล่าว
เจ้าอาวาสวัดบ้านหนองใหญ่ กล่าวด้วยว่า อาตมามีสติครบไม่หลงลืมง่ายขนาดนั้น เพราะเงินมีแค่นั้น จำได้แม่นประกอบกับพฤติกรรมของพนักงานส่งพัสดุคนนี้ชาวบ้านรู้กันดีไม่อยากพูดมากที่ ผ่านมาเงินทอน 10-20 บาท อาตมาไม่เคยเอา แต่ครั้งนี้เป็นการทำซึ่งหน้าเกินไปจึงไม่ยอม“แต่อย่าท้า”
ด้านนายจีระติ ผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่าเหตุเกิดดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่17 ส.ค.ที่วัดบ้านหนองใหญ่ ต.หนองใหญ่ วันนั้นเป็นวันพระตนได้ยินเสียงโต้เถียงกันจึงเดินเข้าไปดูพบว่ามีหนุ่มส่งพัสดุกำลังชี้หน้าด่าพระครูธรรมวุฒิ เจ้าอาวาสวัด
แต่ดูแล้วพฤติกรรมของหนุ่มส่งพัสดุเป็นคนก้าวร้าว เหมือนจะทำร้ายเจ้าอาวาส จึงเข้าไปแล้วถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐานหากมีเหตุร้ายเกิดขึ้น
ในฐานะที่ตนเป็นผู้ใหญ่บ้าน พระคือลูกบ้านเช่นเดียวกันแต่เห็นพฤติกรรมแล้วพนักงานส่งพัสดุเป็นบุคคลอันตรายมากกว่าจึงอยากจะฝากถึงบริษัทต้นสังกัดให้มีบทลงโทษกับพนักงานคนนี้
อีกมุมหนึ่งก็อยากจะฝากไปถึงพนักงานส่งพัสดุถ้าคิดว่าทำถูกให้มาพูดคุยกันดีๆเพราะบ้านเมืองมีกฎหมายไม่ใช่มาก้าวร้าวต่อพระสงฆ์ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้หนุ่มส่งพัสดุได้โทรศัพท์มาบอกว่าห้ามเผยแพร่คลิปมิเช่นนั้นจะฟ้องผู้ใหญ่บ้าน แต่ตนไม่สนใจเพราะอยากให้เป็นอุทาหรณ์
ล่าสุดนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี พนักงานส่งพัสดุในคลิปได้ออกมาระบุว่า หลวงพ่อสั่งพัสดุมา 2ชิ้นราคา 199 อีกชิ้น 169 รวมเป็น 368 บาท พอเอาของเข้าไปส่งหลวงพ่อไม่มีแบงก์ย่อยจึงให้แบงค์1,000มา จึงบอกหลวงพ่อไปว่า หลวงพ่อมี 68 บาทหรือไม่เดี๋ยวผมจะทอนให้ 700 บาทหลวงพ่อบอก”ไม่มี”
ตนจึงเอาแบงก์1,000มาแล้วทอนให้หลวงพ่อไป600ก่อนจะไปส่งของต่อแล้วจะกลับเอา32บาทมาคืนให้พอตนกลับเอาเงิน32บาทมาให้หลวงพ่อบอกว่าตนยังไม่ได้ให้600บาทที่เหลือทำให้กลายเป็นประเด็นคนละมุมกันต่างฝ่ายต่างมั่นใจคนละอย่าง
ผ่านไป 2 วัน ตนเองย้อนเอาพัสดุมาส่งให้พระภายในวัดเดียวกันระหว่างพูดคุยกับหลวงพี่อีกรูปที่สั่งพัสดุหลวงพ่อได้ปรี่เข้ามาทำร้ายร่างกายตนก่อน ด้วยกันรัดคอตนมีหลักฐานเป็นคลิปเสียงหลวงพ่อยังด่าตนอีกว่าไปโกงคนโน้นคนนี้ในหมู่บ้านมีพระอีกหลายรูปในวัดโดนมาแล้ว แต่ไม่เป็นความจริงพระในวัดรู้จักผมดี
นายเอ ยังบอกว่า ส่วนตัวไม่ได้โทษเจ้าอาวาสและไม่ได้โทษตัวเองเพราะหลังเกิดเหตุได้เข้ามาเคลียร์ตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค.หลังเกิดเหตุวันที่17ส.ค.เนื่องจากมีคนเอาคลิปเผยแพร่ออกไป
โดยญาติผู้ใหญ่ตนไปเคลียร์ให้และเพื่อให้หลวงพ่อสบายใจจึงทอนเงินให้แกอีก 600 บาท ตามที่หลวงพ่อข้องใจ แถมทำบุญให้ไปอีก 1,000 บาท เพราะตนอยากทำงานยังไงก็ต้องเจอกันอีกเพราะทำงานส่งพัสดุมานานแล้ว สิ่งที่อยากจะขอความเป็นธรรมคือคลิปที่ผู้ใหญ่บ้านเอาไปโพสต์ทั้งที่ผู้ใหญ่บ้านไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ ผู้ใหญ่บ้านมาถ่ายคลิปตอนที่ตนอารมณ์ขึ้นแล้วตนมีหลักฐานและพยานเป็นพระลูกวัดที่นั่นที่เห็นหลวงพ่อมาทำร้ายตนเองก่อน
ส่วนหนึ่งตนเข้าใจหลวงพ่อ เพราะโมโหที่ไม่ได้เงินทอนอีกมุมหนึ่งที่ผู้ใหญ่บ้านให้ข่าวว่าตนขู่จะฟ้องนั้นไม่เป็นความจริงตนแค่บอกว่า”พี่ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ”แค่อยากจะให้โพสต์แก้ต่างให้หน่อยไม่ว่าจะเอาคลิปสั้นๆไปลงแบบนั้นเป็นใครใครก็คิดว่าผมเป็นตัวเงินตัวทองเพราะไม่ได้เห็นต้นเหตุ