จับตาฝ่ายค้านดรีมทีม ฝีปากจัดจ้าน ต้องจองตั๋วชั้นริงไซด์ข้างเวที เปรียบเป็น มาฆบูชาของฝ่ายค้าน มาแบบมิได้นัดหมาย
วันที่ 30 ส.ค. 67 นาย สุริยะใส กตะศิลา คณบดีวิทยาลัยผู้นำ และนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต และอดีตผู้ประสานงานกลุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กเพจ “สุริยะใส กตะศิลา” ระบุว่า
“ฝ่ายค้านดรีมทีม เวลานี้คอการเมืองคงใจจดจ่อกับโฉมหน้าคณะรัฐมนตรี “นายกฯอิ๊งค์" แพทองธาร ชินวัตร รวมทั้งการจับตาความสัมพันธ์พ่อลูก ภายใต้วาทกรรม ไม่ครอบงำ แต่ครอบครองจะออกอาการแบบไหนอย่างไร”
“แต่ถ้าชำเลืองมองไปฝ่ายค้าน ที่ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายบริหารในสภาต้องบอกว่าโฉมหน้าที่ปรากฏเป็น “dream team" ของหลายๆ คนเลยทีเดียว”
“นอกเหนือจากฝ่ายค้านหลักอย่าง พรรคประชาชนที่ข้อมูลแน่นปั๋งเต็มไปด้วยแกนนำที่ฝีปากจัดจ้านหลายคนแล้ว ไล่เรียงกันมาตาม ภาษามวย ต้องบอกว่าจองตั๋วชั้นริงไซด์ได้เลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่ “บิ๊กเหลิม” เจ้าของวลี "ไปทะเลเจอฉลาม มาสภาเจอเฉลิม"
“แม้ตัวอยู่กับเพื่อไทย แต่ใจไปอยู่อีกที่แล้ว ถัดมาก็อดีตนายกรัฐมนตรีเจ้าของฉายา มีดโกนอาบน้ำผึ้ง ชวน หลีกภัย ฝีไม้ลายมือ เป็นที่เลื่องลือกับวาทกรรมกระฉ่อน ระวังจะไม่มีแผ่นดินอยู่ พ่วงทีมมาพร้อมกับบัญญัติ บรรทัดฐาน และ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ ที่ราคาของความเก๋า ทางการเมืองขั้นเทพ ตามด้วย "ลุงป้อม" แม้ฝีไม้ลายมือในการอภิปรายไม่โดดเด่น แต่ด้วยข้อมูลลับทางการเมืองอาจจะเล่นบทแจกจ่ายให้คนในพรรค พปชร.วาดลวดลายที่น่าตื่นตะลึงก็เป็นไปได้”
“รายล่าสุดเล่นบทเปิดโปงก่อนสภาเปิด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หนึ่งเดียวจากพรรคเสรีรวมไทย พลิกขั้วมายืนอีกฟากพร้อมด้วยข้อมูลที่อาจจะชี้เป็นชี้ตายของคนบางคน บางกลุ่มเรื่องชั้น 14 ก็ได้”
“มิพักต้องพูดถึงการตรวจสอบนอกสภา ทั้งจากคนที่เคยอยู่ชายคาเดียวกันอย่าง คุณหญิงหน่อย สุดารัตน์ เกยุราพันธ์, คุณจตุพร พรหมพันธุ์ , แรมโบ้อีสาน คุณเสกสกล อัตถาวงศ์ บวกรวม อดีตแกนนำ นปช. อีกหลายคนและแกนนำมวลชนปีกเสื้อเหลืองเดิม ที่เป็นคู่ฟัดกับระบอบทักษิณมา พ่วงด้วยนักร้องอีกหลายค่ายที่เริ่มลั่นกลองศึกกันแล้ว ทั้งหมดก็ต้องบอกว่าเป็น “มาฆบูชาของฝ่ายค้าน" มาแบบมิได้นัดหมาย
“การเมืองไทย จะมีโอกาสเห็นคุณภาพของสภาฯ ก็ขึ้นอยู่กับเป้าหมายทางการเมืองของฝ่ายค้านเหล่านี้ด้วย ปลายทางเดียวกันหรือไม่ จะ Tag Team รวมพลังกันได้แค่ไหนอย่างไร หรือจะมีฝ่ายค้านในฝ่ายค้าน อีกไม่กี่วันก็น่าจะเห็นทิศทางกันแล้วครับ”