“ชัยรัตน์” ยอมรับแพ้เลือกตั้งนายกอบจ.ราชบุรี ลั่นพรุ่งนี้ยังทำงานต่อ

พรรคประชาชน แถลงยอมรับความพ่ายแพ้ เลือกตั้งนายกอบจ.ราชบุรี “ชัยรัตน์” ลั่น พรุ่งนี้ยังมุ่งมั่นทำงานเหมือนเดิม

วันนี้ (1ก.ย.67) เวลา 20.00 น.นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วยนายชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ ผู้สมัครนายกอบจ.ราชบุรี และนายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน ร่วมกันแถล่งข่าวยอมรับความพ่ายแพ้ เลือกตั้งนายกอบจ.ราชบุรี

โดยนายชัยรัตน์ ได้กล่าวขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียงเลือกตั้ง ซึ่งคะแนนที่ได้ในปีนี้ เมื่อเทียบกับปี 2563 ถือว่าเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว แสดงให้เห็นว่า การทำงานในพื้นที่ เป็นการทำงานอย่างหนัก ในตลอดหลายปีที่ผ่านมา ได้ออกดอก ออกผล ว่า ประชาชนเปิดใจ ให้กับพวกเรามากขึ้น คะแนนที่เติบโตขึ้น แสดงให้เห็นถึงความคิด คนที่เห็นด้วยกับนโยบายของเรา ถึงแม้ว่าวันนี้ เราอาจจะยังไม่ชนะการเลือกตั้งนายกอบจ. แต่พรุ่งนี้ตนเอง ก็ยังมุ่งมั่นทำงานในพื้นที่ต่อไป เพื่อทำนโยบายที่จะพัฒนาจังหวัดราชบุรี  ให้ดีกว่าเดิม โอกาสนี้ ขอขอบคุณทีมงาน ไม่ว่าจะเป็นจากพรรคประชาชน ที่เป็นสส. แกนนำทั้งอดีตหัวหน้าพรรคและหัวหน้าพรรคประชาชน คนปัจจุบันที่นั่งอยู่ตรงนี้ด้วย ต้องขอบคุณทีมงานโดยเฉพาะทีมอาสาสมัครของเรา ที่เป็นเครือข่ายของพรรคประชาชน หรืออดีตพรรคก้าวไกล ที่พยายามทำงานในพื้นที่มาตลอด ซึ่งความมุ่งมั่นของทีมอาสา และทีมทำงานในจังหวัดราชบุรีนั้น ได้ส่งผล ให้เราได้คะแนนเพิ่มขึ้นจากเดิม อกเท่าตัว และหวังว่าการทำงานมุ่งมั่น ที่จะรับใช้พี่น้องประชาชนชาวราชบุรี จะเปิดใจรับและให้โอกาสเรา มากขึ้น และหวังว่าในอนาคต เราจะประสบความสำเร็จ ในการเลือกตั้งจังหวัดราชบุรี

ขณะที่นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในหัวหน้าพรรคประชาชน ต้องขอขอบคุณประชาชน ที่วันนี้ออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียง เพราะว่าทุกๆการเลือกตั้งคือโอกาส ที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลง สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ของพี่น้องประชาชนทุกคน ถึงแม้ว่าวันนี้จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง อาจจะยังไม่เป็นข้อสรุป แต่เท่าที่ตนได้ทราบข่าว ก็พบว่าพ่อแม่พี่น้องชาวราชบุรี ที่ทำงานอยู่ไกล ก็เดินทางกลับมาใช้สิทธิ์ใช้เสียง ตนคิดว่านี่คือความสำเร็จอย่างหนึ่ง ที่ทุกพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคประชาชน ที่เรารณรงค์อย่างแข่งขัน นี่เป็นอีกหนึ่งสิ่ง ที่จะช่วยสะท้อนให้เห็นว่า การรณรงค์อย่างแข็งขัน การทำงานในพื้นที่ อย่างเข้มข้น ก็เป็นสิ่งที่ประชาชนให้ความสำคัญ กับการเมืองท้องถิ่น ออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียง มอบความไว้วางใจให้กับพวกเรามากขึ้น

และในฐานะที่ตนเป็นหัวหน้าพรรคประชาชน พวกเราก็ยังมีความรับผิดชอบในการผลักดันนโยบายต่างๆ ผ่านการเมืองในระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงการเลือกตั้งซ่อม พิษณุโลกที่จะมีขึ้นในวันที่ 15 กันยายน และอีกหนึ่งหมุดหมายที่สำคัญที่จะเกิดขึ้นในเดือนหน้า ก็คือเรื่องของการแถลงนโยบาย ต่อรัฐสภา ของครม.ชุดใหม่ ซึ่งก็เป็นอีกหลากหลายภารกิจที่ จะขอทำหน้าที่อย่างเข้มข้นต่อไป

ขณะที่นายศรายุทธิ์ ระบุว่าสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคประชาชนได้พยายามทำอย่างเต็มที่แล้ว ตั้งแต่รับทราบการลาออกของอดีตนายก อบจ. ก็ได้ตัดสินใจส่งผู้สมัครลงในนามพรรคประชาชนก่อนการเลือกตั้ง 45 วัน คะแนนที่ได้มาจึงน่าพึงพอใจแล้ว แม้จะยังไม่ประสบผลสำเร็จ

ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าสนามการเมืองระดับชาติกับท้องถิ่นมีความแตกต่างกัน แม้เนื้อหาสาระไม่ต่างกัน ในสนามการเมืองระดับชาติความหวังของประชาชนเป็นปัจจัยสำคัญ และประชาชนสามารถมีส่วนร่วมได้อย่างเต็มที่ ขณะที่การเมืองท้องถิ่นต้องสร้างนโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชนให้เชื่อมั่นให้ได้ แต่เนื่องจากเวลาที่จำกัดจึงทำให้ยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนไว้วางใจได้ ต้องยอมรับว่าการเปลี่ยนใจประชาชนให้มั่นใจและเชื่อมั่นต้องอาศัยเวลา

นายศรายุทธิ์ กล่าวว่า สำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.ในพื้นที่อื่นๆ พรรคประชาชนมีการเตรียมทีมผู้สมัครมาตั้งแต่สมัยพรรคก้าวไกล โดยมี 5 จังหวัดที่ได้ประกาศเปิดตัวไปแล้ว และมีอีก 10-15 จังหวัดที่ยังอยู่ในกระบวนการ หลังจากนี้ไปในจังหวัดที่เหลือ พรรคประชาชนจะยังคงมุ่งมั่นเตรียมความพร้อม ทั้งการทำนโยบายให้ประชาชนยอมรับ และการทำให้ทีมงานมีความเข้มแข็งมากขึ้นเพื่อความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งในสนามต่อไป โดยคาดว่าในเดือนพฤศจิกายนนี้จะมีการเปิดตัวนายก อบจ.ที่จะส่งลงสมัครในนามพรรคประชาชนอย่างเป็นทางการต่อไป โดยมั่นใจว่ารอบนี้จะมีนายก อบจ.ที่ส่งลงในนามพรรคประชาชนชนะแน่นอน ส่วนจะเป็นจังหวัดใดนั้น ขอให้พี่น้องประชาชนรอติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิด