ฝ่ายปกครองสุพรรณบุรี ชุดไกรสีห์ จับมือ กอ.รมน. มังกร27 บุกจับ พ่อค้ายาบ้า ขอกอดลาเมียรักก่อนเข้าคุก หวังเมียคงรอได้ พร้อมฝากเมียดูแลแม่
เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 4 ก.ย. 67 ที่จ.สุพรรณบุรี นายธรรศศรี ดุษฎี ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดสุพรรณบุรี นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี (ชุดไกรสีห์) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุพรรณบุรี (ชุดมังกร27) บุกจับกุม นายสมภูมิ ทองกษัตริย์ ฉายา ภูมิศพเพลิง อายุ 40 ปี ได้ที่บ้านไม่มีเลขที่ พื้นที่หมู่ 3 ต.กฤษณา อ.บางปลาม้า พร้อมของกลางยาบ้า 183 เม็ด
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้รับการร้องเรียน และแจ้งเบาะแสว่า ที่บ้านหลังดังกล่าวมีการมั่วสุม และลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับวัยรุ่น และผู้ใช้แรงงานในพื้นที่ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ กระทั่งได้ข้อมูลที่ชัดเจนว่าบ้านหลังดังกล่าวลักลอบจำหน่ายยาเสพติดจริ งจึงนำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสุพรรณบุรี (ชุดไกรสีห์) ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ทหารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุพรรณบุรี (ชุดมังกร27) ฝ่าสายฝนบุกเข้าตรวจค้น เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงชายที่อยู่ในบ้าน 3-4 คน พากันวิ่งลุยน้ำ หนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ สุดท้ายไม่รอด
ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังไล่ตามกลุ่มชายที่วิ่งหนี นายสมภูมิ เจ้าของบ้านได้วิ่งหลบเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำล็อกประตูไว้ก่อนเทยาบ้าจำนวนหนึ่งลงในโถส้วม เจ้าหน้าที่ได้เรียกให้นายสมภูมิเปิดประตู แต่นายสมภูมิไม่ยอมเปิดเจ้าหน้าที่จึงถีบประตูเพื่อเข้าไปตรวจสอบ นายสมภูมิเห็นท่าไม่ดีรีบปีนฝาผนังห้องน้ำ ซึ่งเป็นสังกะสีกระโดดหนีออกหลังบ้าน เพื่อหนีเข้าดงหญ้า แต่หนีไม่รอด เพราะเจ้าหน้าที่รู้ทัน จึงไปดักรอก่อนรวบตัวไว้ได้
ตรวจสอบภายในบ้านพบยาบ้าตกกระจายอยู่บนพื้นบ้าน และในห้องน้ำ ในโถส้วมเจ้าหน้าที่จึงค่อยๆ หยิบยาบ้าที่เปียกน้ำตามพื้น และใช้ช้อนค่อยๆ ตักยาบ้าที่อยู่ในโถส้วมขึ้นมาเก็บรวบรวมไว้เป็นของกลาง นอกจากนี้ยังพบยาบ้าอยู่ในถุงสีฟ้าอยู่ในกะละมังในห้องน้ำอีกจำนวนหนึ่ง
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายสมภูมิให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าจำนวนดังกล่าวเป็นของตนเอง ซื้อมาไว้เสพและแบ่งขายให้กับผู้ใช้แรงงาน และวัยรุ่นในพื้นที่ ตนเคยถูกจับคดีจำหน่ายยาเสพติดมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกปี 50 ถูกจับยาบ้า 5,000 กว่าเม็ด ติดคุก 12 ปี ออกคุกปี 63 ถูกจับครั้งที่ 2 ยาบ้า 50 เม็ด ติดคุก 2 ปี พ้นโทษเมื่อเดือนม.ค. 67 และมาถูกจับครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ยาบ้า 183 เม็ด
สาเหตุที่ต้องกลับมาขายยาบ้า เพราะตนหางานทำไม่ได้ ไม่มีใครจ้าง เพราะตนพิการมือขวาขาด จึงต้องหันกลับมาขายยาบ้า อีกสาเหตุก็คือสังคมสิ่งแวดล้อมตนพยายามเลิก แต่ก็เลิกไม่ได้
ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้นที่บ้านนายสมภูมิอยู่นั้นได้มีวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์เข้ามา เพื่อขอซื้อยาบ้าจากนายสมภูมิ แต่ไม่ทันได้ซื้อ เพราะนายสมภูมิถูกจับเสียก่อน เจ้าหน้าที่จึงให้นายเดี่ยวผู้มีประสบการณ์เรื่องการเสพยาสอนพวกวัยรุ่นที่เข้ามาทีหลังว่าให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเสีย เพราะไม่เกิดผลดีต่อตัวเองและคนในครอบครัว เวลาถูกจับก็เดือดร้อนกันหมด ดังนั้นขอให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงถูกเตะไปหลายตลบ ตอนนี้ยังเลิกทัน ไม่ใช่คิดได้เฉพาะเวลาถูกจับพอพ้นโทษก็เอาอีก พากันเลิกเถอะ
เจ้าหน้าที่จึงถามว่าแล้วตัวเองเลิกเสพยัง นายเดี่ยว บอกว่าก็ยัง มีบ้างตนก็พยายามเลิกอยู่ แต่ยังเลิกไม่ได้ เพราะมันเป็นแฟชั่น เจ้าหน้าที่จึงได้ถ่ายภาพทำประวัติเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อนำตัวเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาต่อไป จากนั้นได้ให้วัยรุ่น 4 คนลงไปว่ายน้ำเ พื่อชำระร่างกายเปรียบเสมือนว่าเป็นการล้างบาป พร้อมให้ตะโกนว่าจะเลิกจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกต่อไป
ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะคุมตัวนายสมภูมิไปทำบันทึกจับกุม และส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.บางปลาม้า เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปนั้น นายสมภูมิได้ขอกอดลาเมียรักก่อนเข้าคุก และหวังว่าเมียคงรอได้ พร้อมฝากเมียดูแลแม่ด้วย