น้ำตาล ชลิตา เปิดใจครั้งแรก เคยซุ่มคบคนในวงการ ฝ่ายชายไม่อยากเปิดตัว เสียใจอกหัก ดื่มหนัก 2 เดือน
ครั้งแรก “น้ำตาล ชลิตา” นางงามแถวหน้าของเมืองไทย ออกมายอมรับว่าเคยคบหากับคนในวงการ พร้อมเล่าความเชื่อห้ามมีความรักเพราะเป็นลูกหลานพญานาค และจุดเริ่มต้นศรัทธาองค์พญานาค จนทำให้พลิกชีวิตจากเด็กธรรมดา กลายเป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ รวมทั้งหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า น้ำตาล มีองค์พญานาคแฝงตัว รายการ คุยแซ่บshow
วันนี้เปิดหมดเรื่องความรัก?
น้ำตาล : “ไม่หมด (หัวเราะ) กลัวเลย”
เคยมีแฟนเป็นคนในวงการ?
น้ำตาล : “ปูซะใหญ่เลย (หัวเราะ) จริงๆ ตอนนี้โสดค่ะแต่เคยมี ตอนแรกเขาอยู่นอกวงการแล้วเขาก็เข้าวงการ”
มีคนถามเยอะเหมือนกัน ว่าคบใครอยู่ ทำไมไม่บอก?
น้ำตาล : “ไม่ได้ปิดและไม่ได้เปิดขนาดนั้นค่ะ เราทำงาน เขาก็ทำงาน อีกอย่างหนูไม่ชอบมานั่งพูดว่าเลิกกันเพราะอะไร ก็สบายใจดี จบไปก็จบไปเงียบๆ ไม่ต้องมานั่งอธิบายเพิ่ม จริงๆ ไปไหนมาไหนปกติเลย ไม่ได้ปิด แต่ไม่ได้มานั่งบอกนักข่าวว่าคบคนนี้”
คบนานมั้ย?
น้ำตาล : “ก็นานค่ะ แต่เขาไม่ได้อยากเปิดด้วย”
เรามีผลักดันเขามั้ย?
น้ำตาล : “แค่ให้คำปรึกษาเล็กๆ น้อยๆ หนูไม่ได้มีพาวเวอร์ขนาดนั้นด้วย เราก็ซัปพอร์ตเขาในสิ่งที่เราทำได้ แค่นั้น”
ตอนนี้เป็นอดีตไปแล้ว เขาก็ทำงานในวงการ?
น้ำตาล : “ใช่ค่ะ แต่ไม่ต้องสืบค่ะ (หัวเราะ) ตอนนี้เป็นนักแสดง แค่นั้นเลย มันเป็นอดีตไปแล้ว เราต้องมูฟออน เดินหน้าต่อไป”
ทำไมความรักต้องแยกย้ายกัน?
น้ำตาล : “บางทีแต่ละคนก็มีปัญหาของแต่ละคู่ มีการปรับจูนแก้มาหลายรอบแล้ว จนวันนึงเราคิดว่าเราหยุดพอแล้ว ยิ่งรั้งกันจะยิ่งทำให้เรารู้สึกไม่ดีต่อกัน เลยให้มันจบตรงนี้ ต่างคนต่างเติบโตไปหาอะไรที่มันแมตซ์กันดีกว่า”
ทัศนคติไม่ตรงกัน?
น้ำตาล : “มันก็เป็นหลายๆ เรื่องที่สะสม เป็นเรื่องเล็ก แต่สะสมมาเรื่อยๆ ก็กลายเป็นเรื่องที่พรั่งพรูออกมา”
การอกหักครั้งนี้ ทำน้ำตาลเสียการเสียงาน?
น้ำตาล : “ไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ แต่เวลาหนูรักใครก็รักมาก คบนาน เลยทำให้รู้สึกว่าทุกเวลามีเขาตลอด พอไม่มีเขามันก็เลยเฮิร์ตฟีลชีวิตวัยรุ่น ก่อนหน้านี้เคยเลิกและอกหักไปแล้วรอบนึง แต่พอมารอบนี้เหมือนเราพยายามถอยหลังมาก้าวนึง ให้ความรู้สึกเราไม่ดำดิ่งเหมือนเดิม เลยพยายามทำอะไรที่เราชอบ มีความสุข แฮปปี้ หาโน่นหานี่ทำไปเรื่อย”
ครั้งแรกมีบทเรียน ครั้งใหม่เลยระวัง คบแล้วเลิกสองรอบ?
น้ำตาล : “ใช่ค่ะ”
ย้อมใจยังไง?
น้ำตาล : “ดื่มดริ๊งค์ น็อกอย่างนี้เลยค่ะ ปกติดื่มดริ๊งค์จะไม่ค่อยอร่อย แต่วันนั้นอร่อยมาก ดริ๊งค์อยู่เดือนสองเดือน ช่วงนั้นพี่ก็ลากขึ้นห้อง ทิ้งตัว (หัวเราะ)”
รักครั้งนี้สอนอะไรเรา?
น้ำตาล : “สอนเรื่องความคิด การเข้าใจซึ่งกันและกัน ความเป็นผู้ใหญ่ มีเหตุผลมากขึ้น หนูเป็นคนไม่กล้าคุย กลัวผิดใจ แต่ถ้ามีครั้งต่อไปในอนาคตก็จะมีการคุย มีการพูดให้มากขึ้น เพราะการที่เราได้คุย และทัศนคติตรงกัน มันก็จบ แต่ถ้ามีอะไรมาอีกก็ค่อยพอ”
พอสละโสด ปังมาก?
น้ำตาล : “ก็ที่อาจารย์แนะนำไง (หัวเราะ) รู้สึกว่าตอนโสดงานเข้ามาเยอะมาก หนูก็แฮปปี้กับการทำงานมาก พอเราได้ทำงานทุกวัน ทุกเวลา เลยไม่มีเวลาเอาไปคิดเรื่องความเสียใจ”
เหงามั้ย?
น้ำตาล : “ไม่เลยค่ะ แฮปปี้มากในตอนนี้ หนูรู้สึกว่าหนูรักเงินมาก หอมหวานกับตัวเลขในบัญชีสุดๆ เลยค่ะ ลูกค้าจ้างได้เลยค่ะ”
ตอนนี้ปิดตัวเองมั้ย?
น้ำตาล : “ไม่ได้ปิดตัวเองขนาดนั้น ถ้าเข้ามาก็คุยได้ แต่ถ้าเข้ามาแล้วคุยไม่รู้เรื่องพูดคนละภาษา ก็พอ หนูไม่อยากเอาใครที่ท็อกซิกมาอยู่ในชีวิตแล้ว หนูกลัวว่าถ้าเรามีแฟนแล้วเหมือนเดิม จะดึงตัวเองกลับไปวนลูป อยากหาคนให้คำปรึกษาได้ ฟีลพี่พีทกันตพร ก็ดี (หัวเราะ)”
ทำใจได้เพราะมีความเชื่อว่าเราคือลูกหลานพญานาค?
น้ำตาล : “ตอนแรกไม่มีความเชื่อเรื่องนั้น แต่ด้วยความที่ตัวเองเกิดวันเสาร์ ก็ชอบพญานาคเฉยๆ แต่ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นลูกหลาน เราไม่ได้อินขนาดนั้นก็เลยไม่ได้เคลม แต่พอเจอพี่ๆ ที่เขาศรัทธาเหมือนกัน บางทีเขาทักมาเอง จนเราเอ๊ะ ยังไง หรือจะใช่”
ถ้าเป็นลูกหลานพญานาค พาร์ตความรักจะไม่สมหวัง?
อ.เป็นหนึ่ง : “กรณีลูกหลานพญานาคสามารถมีความรักได้ แต่ต้องขอท่าน บอกกล่าวท่านสักหน่อย
อาจารย์เคยทักน้ำตาลเรื่องแฟน?
อ.เป็นหนึ่ง : “จุดเริ่มต้นไปดูฮวงจุ้ยที่บ้านนางก่อน แล้วเจอพญานาคองค์ใหญ่อยู่บริเวณหน้าบ้าน เราก็คิดว่าบ้านนี้ไม่ธรรมดา พอเจาะลึกบ้านเขาเอง ก็เห็นบางอย่าง ในโหงวเฮ้งรายละเอียดดีเทล ก็บอกว่าจริงๆ แล้วความรักเราต้องโตกว่า ต้องเป็นผู้ใหญ่กว่า คอยตามเขาตลอดเวลา ไม่เหนื่อยเหรอ ทำพูดนี้เขาร้องเลย”
ทักโดยไม่รู้เขามีแฟน?
อ.เป็นหนึ่ง : “ไม่รู้เลย ถ้ารู้ก็จะไม่ทัก เพราะอยู่กลางความสนิทคนสองคน”
น้ำตาล : “เรารู้สึกว่าตรง เพราะเราเหนื่อยมาสักพักนึงแล้ว เหมือนไปทำงานแล้วเศร้า ดิ่งดาวน์เกินไป ก็เลยตรงอย่างที่อาจารย์บอก”
อ.เป็นหนึ่ง : “น้ำตาลเป็นคนบูชาความรัก รักใครรักจริง เขาสามารถหายจากเพื่อนไปได้เป็นชาติเลย”
น้ำตาล : “ถ้าหายคือมีความรัก ถ้ากลับมาคือโสด นี่คือเรื่องจริง (หัวเราะ)”
อะไรทำให้ไม่สมหวัง?
อ.เป็นหนึ่ง : “โลกส่วนตัวนางสูง ไม่มีกึ่งกลาง นางสุดเลย อันดับแรกต้องขอจริงจังกับองค์พญานาคราช อธิษฐานดีๆ ขอให้มีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ขอมีความรักเหมือนบุคคลทั่วไป ข้อสองต้องปรับตัวเอง ความเป็นเราต้องกลางๆ เพื่อรับอีกคนเข้ามาในหัวใจ”
ทำไมเชื่อองค์พญานาคมาก?
น้ำตาล : “หนูเคยไปที่คำชะโนดตั้งแต่ตอนดัง หนูเรียนสารคาม ไปทำงานบ้านเพื่อนที่อุดรฯ พ่อบอกว่าน้ำตาลอยากไปมั้ย คนไปกันบ่อย แล้วไปขอ เราก็คิดว่ามาเที่ยวทั้งที ไปก็ได้ แต่ไปแล้วบรรยากาศเย็นมาก เงียบๆ วังเวงมาก เราก็คิดว่าเออ ที่นี่ก็ดูเย็น สบายดีเนอะ แล้วจะมีระฆังใหญ่ๆ แม่เพื่อนบอกว่าลองลูบดูสิ เผื่อดัง พอหนูลูบเขาดังกังวานมากๆ จากปีนั้นพอหนูจบปีสอง หนูก็มาประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ แล้วหนูก็ได้มงฯ แล้วหนูก็ดัง”
ตอนแรกไม่เชื่อสนิท แต่มีหลายคนทักเยอะมาก?
น้ำตาล : “พอเชื่อมากๆ ก็กลัวคนจะหาว่างมงาย แต่เราไม่เคยสัมผัสอะไรได้สักอย่าง เพราะบางคนเขาสัมผัสได้ เราไม่เคยเลย แต่เวลาไปไหน มีอะไรจะมีคนทัก แม้แต่ไปดูดวงเปิดไพ่ก็จะเป็นพญานาค เป็นงู เป็นฤษีตลอด”
สังเกตอะไรได้บ้าง ว่าเราก็เป็นลูกหลาน?
น้ำตาล : “เวลาหนูขอเรื่องงานจะได้ตลอด สมหวังมากๆ เวลาขอให้มีงานเข้ามาไม่ขาดสาย มันก็เข้ามาไม่ขาดสายจริงๆ เข้ามาจนคิดว่ามันขนาดนั้นเลยเหรอ”
จากจุดไม่เชื่อ เริ่มมาเชื่อ จนสนิทใจ ศรัทธา คือเหตุการณ์ไหน?
น้ำตาล : “เจอหลายคนที่เขาศรัทธา แล้วเขาก็ทัก โดยหนูไม่ได้พูดอะไรมาก่อน หนูก็รู้สึกว่าอาจมีจริงๆ ใดๆ แล้วหนูไปดูดวง พอดูจบวันนั้น หมอดูเขาก็โทรมาบอกว่า นต. แม่ไม่เคยเจอใครแบบนี้เลย แม่ฝันว่าเจองูเป็นหมื่นตัวมาอยู่รอบตัวแม่เยอะมาก หนูได้ไปทำบุญหรือเปล่า เขาก็บอกให้ไปทำบุญปฏิบัติหน่อย เพราะสายพญานาคต้องสวดมนต์ปฏิบัตินั่งสมาธิ หนูก็เลยโอเคเดี๋ยวลองทำดู เขาบอกเราแรงมาก เซ้นส์แรง”
ตอนไปดูดวงเรื่องจับไพ่ ได้ไพ่รูปงูตลอด?
น้ำตาล : “ใช่ค่ะ หนูก็ไม่กลัว รู้สึกว่าถ้าเราคิดดีทำดีก็จะได้ในผลที่ดีค่ะ”
อ.เป็นหนึ่ง : “แล้วคนๆ นึงจะได้ไปรำต่อหน้าพญาศรีสัตตนาคราชได้ ท่านเลือกนะ ไม่ได้ง่ายนะ วันนึงเขาเป็นผู้ถูกเลือก น้ำตาลเคยตั้งจิตอธิษฐานว่าอะไร”
น้ำตาล : “ปกติเวลาเราไปทำบุญขอพรไหว้พระ หนูจะไปแถวนครพนมบ่อยมาก แล้วทำบุญไหว้พระ ไปตรงลาน ขอให้หนูได้มีโอกาสมารำถวาย รำบวงสรวง งานใหญ่ๆ สักครั้งในชีวิต หนูขอหลายปีมากแล้ว หนูก็ตั้งจิตอธิษฐานว่าขอให้หนูได้มารำจริงๆ ซึ่งขนลุกมาก มีคนมาบอกหนูว่าเดือนนี้นะ จะได้ไปรำ หนูก็ห๊ะ! สิ่งที่ขอได้แล้วเหรอ ปกติเขามีเพลงเก่า แต่หนูได้รำเพลงใหม่ ท่าใหม่ รำแต่ละเพลงท่าไม่เหมือนกันเลย รำ 4 เพลง 40 นาที หนูซ้อมรำตอนกลางคืน ก็เอ๊ะ ทำไมรำตรงนี้ไม่ได้สักที หนูก็คิดว่าไม่เป็นไร ก่อนขึ้นขอให้หนูรำออกมาวันนี้โฟลว์ ไม่มีอะไรผิดพลาด เพราะหนูตั้งใจมารำถวายองค์พ่อปู่ ตั้งใจมากๆ ขอให้ทุกอย่างออกมาราบรื่น แล้วงานจัดหลายวันนะคะ วันอื่นฝนตกหมดเลย แต่วันที่หนูรำไม่ตกเลย”
อ.เป็นหนึ่ง : “สิ่งที่แปลกคือกรมอุตุฯ บอกว่าฝนตกแน่นอนแต่วันนั้นฝนไม่ตก ข้อที่สอง วันที่เจอเขาครั้งแรกตอนมาร่ายรำ เขาบอกไม่มั่นใจเลย แต่พอ 5 4 3 2 เขากลายเป็นคนละคน เขาเป็นน้ำตาลแหละ แต่การร่ายรำเหมือนมีลมมาหิ้วปีกช่วยให้เขารำให้ถูกต้อง แล้ววันนั้นเอง สังเกตท้องฟ้า อากัปกิริยา บอกว่าเขาไม่ใช่น้ำตาล เขารำเหมือนคนเป็นอาชีพนางรำ ออกมาขนลุกมาก”
ตอนรำรู้สึกยังไงบ้าง?
น้ำตาล : “สบายใจ เหมือนเราฟังเพลงไปด้วย รำไปด้วย มองหน้าองค์ท่านไปด้วย รู้สึกว่าโฟลว์ของมันเองโดยเราไม่ได้กดดัน เพราะหนูเป็นเพอร์เฟกต์ชั่นนิสนิดนึง อยากทำแล้วให้มันออกมาดี เราก็ตั้งจิตอธิษฐานขอให้มันออกมาได้ดี แค่นั้นก็พอ ทุกอย่างก็ออกมาได้ดี”
สนิทกับอาจารย์มาก รู้จักกันได้ยังไง?
น้ำตาล : “ไปเจอกันในรายการ หนูกำลังรีโนเวตบ้าน ไม่เคยมีอาจารย์หรือใครมาดูฮวงจุ้ยที่บ้าน อยากให้มันดีขึ้นไปอีก ก็เลยขออาจารย์มาดูที่บ้านได้มั้ย หนูต้องปรับอะไรบ้าง เพราะกำลังรีโนเวตบ้านใหม่ อาจารย์ก็พาไปทำบุญ เลี้ยงหมา ปล่อยนกปล่อยปลา”
มีแพลนโกอินเตอร์?
น้ำตาล : “หนูมีแพลนอนาคต จะทำโปรไฟล์ส่งเมืองนอก ส่งจีน ส่งอเมริกา หาเอเจนซี่เพื่อไปเดินแบบ ถ่ายแบบที่โน่น จริงๆ หนูอยากไปแถบอเมริกา ก่อนหน้านี้เคยมีร่วมงานกับวิคตอเรีย ซีเคร็ท แต่ย้อนไปเมื่อปี 2017 2018 ได้มีโอกาสไปแบ็กสเตท ไปดูเหล่านางฟ้าทั้งหลาย แต่พอหลังจากนั้นเขาไม่ได้มีโชว์มาเลย แล้วเพิ่งมาเปิดช็อปที่สิงคโปร์ เลยได้ไปค่ะ”
งานมาไม่ขาดสาย?
น้ำตาล : “ใช่ค่ะ ช่วงนี้พักผ่อนน้อย รู้สึกสบายบนกองเงินกองทอง (หัวเราะ) ไม่มีปฏิเสธงาน มีแต่งานชนแล้วรับไม่ได้มากกว่า”
อยากเป็นนางฟ้าวิคตอเรียซีเคร็ทมั้ย?
น้ำตาล : “จริงๆ เป็นความฝันเหมือนหนูเหมือนกัน อยากอยู่บนรันเวย์ เป็นนางฟ้าอีกคนนึง แต่ถ้าไปตร่โน้น ต้องเก็บโปรไฟล์หลายๆ อย่าง แต่ไม่ใช่ว่าเราทำไม่ได้ ถ้าเรามีความฝันคิดว่าทำได้มันก็ทำได้ ถ้าอนาคตเคลียร์งานได้ ก็อาจเก็บโปรไฟล์ทำอะไรสักอย่างนึง”
เคล็ดลับบูชาพญานาค?
น้ำตาล : “ไม่รู้เป็นเคล็ดลับมั้ย แต่สำหรับหนูทำแล้วมันปัง คือไหว้พระ สวดมนต์ทำสมาธิ ถ้าเราคิดในสิ่งดี สติอยู่กับตัวเราเอง เรามีสติปัญญา เรานั่งสมาธิก็ได้รู้ลมหายใจของตัวเอง ได้รู้ตัวเองมากยิ่งขึ้น ก็จะมีอะไรดีๆ”