เจ้าของร้านข้าวต้มตั้งรางวัลแจ้งเบาะแส ลูกค้าหัวเกรียนกินเสร็จ ย่องปีนรั้วหนี

ตั้งรางวัล 2,000 บาท! หนุ่มหัวเกรียน สั่งข้าวต้มชื่อดังกินอย่างอร่อย ก่อนแอบย่องปีนรั้วหนีไปอย่างลอยนวล

กลางดึกวันที่ 7 ก.ย.67 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านข้าวต้มทรงพลัง ตั้งอยู่ริมถนนบางนา-ตราดขาออกมุ่งหน้า จ.ชลบุรี ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ต.บางพลีน้อย อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ พบกับน.ส.ณัฎฐณิชา หอมยี่สุ่น อายุ 49 ปี ผจก.ร้านข้าวต้มทรงพลัง ได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดมาให้ดู และพาผู้สื่อข่าวไปชี้จุดที่ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นชายหนุ่มอายุประมาณ 35-45 ปี รูปร่างสูงใหญ่ตัดผมสั้น ผิวค่อนไปทางขาว เข้ามานั่งสั่งอาหารรับประทาน จากนั้นออกอุบายหลอกเด็กเสิร์ฟเพื่อเปิดทาง แอบย่องปีนรั้วข้างร้านหลบหนีไปอย่างลอยนวลไม่ยอมจ่ายค่าอาหาร

น.ส.ณัฎฐณิชา ผู้จัดการร้านข้าวต้มทรงพลัง บอกว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.32 น. วันที่ 7 ก.ย.67 ที่ผ่าน มามีชายหนุ่มคนดังกล่าวเข้ามาสั่งอาหาร 3 อย่างคือ 1.ผัดไข่เค็มราคา 150 บาท 2.ยำไส้ตัน ราคา 120 บาท 3.ยำปลาสลิด 120 บาท 4.ข้าวสวย 3 จานราคา 45 บาท 5.น้ำดื่ม 1 ขวด และน้ำแข็ง 1 แก้ว 13 บาท รวมเป็นค่าอาหารทั้งหมด 448 บาท หลังกินข้าวหมดไป  1จานใช้เวลาประมาณ 15 นาที ได้เรียกเด็กเสิร์ฟสั่งข้าวเปล่าเพิ่มอีก 2 จานเมื่อเด็กเดินเข้าไปหลังร้าน ชายคนดังกล่าวค่อยๆ ลุกขึ้นทำท่าทีเป็นคุยโทรศัพท์แล้วเดินหลบไปข้างร้าน ไม่ยอมออกไปหน้าร้าน เนื่องจากหน้าร้านมีเสียงออดติดตั้งเอาไว้ ถ้าใครเดินผ่านจะมีเสียงดัง จากนั้นมุดผ้าใบปีนรั้วหนีไปอย่างลอยนวล โดยไม่ยอมจ่ายค่าอาหารตอนแรกตนเข้าใจว่าผู้ก่อเหตุจะโทรศัพท์ไปคุยกับเพื่อนที่อาจเดินทางมาหาที่ร้านไม่ถูก แต่เห็นหายไปนานเดินมาดูไม่พบตัว แล้วออกไปถามร้านขายของด้านข้าง ก็ไม่มีใครพบเห็น จึงได้มาเปิดกล้องวงจรปิดดูถึงรู้ว่าถูกลูกค้ารายนี้กินแล้วชักดาบไม่ยอมจ่ายเงิน

โดยเจ้าของร้านได้นำหลักฐานไปแจ้งความไว้แล้วที่สภ.บางพลีน้อยเจ้าของพื้นที่ จากนั้นนำเรื่องราวมาโพสต์ลงเพจของร้านข้าวต้มทรงพลัง เพื่อตามหาตัวชายคนดังกล่าว พร้อมตั้งเงินรางวัลจำนวน 2 พันบาท สำหรับผู้แจ้งเบาะแสและติดตามจับตัวผู้ก่อเหตุรายนี้มาดำเนินคดีเพื่อจะไม่ไปก่อเหตุกับใครอีก

พร้อมฝากถึงผู้ก่อเหตุอย่าไปทำอย่างนี้กับใครเลย ทุกคนเขาก็ลำบากเหมือนกันหมด ถ้ายังมีจิตสำนึกอยู่ก็ขอให้กลับมาจ่ายเงินค่าอาหารด้วย

โดยเมื่อปีที่ผ่านมาร้านเคยโดนลูกค้ากินแล้วชักดาบแบบนี้แต่หลังจากนั้นเขากลับมากินที่ร้านอีกครั้ง ตนจำได้จึงเรียกมาคุยและเขายอมจ่ายเงินที่ค้างประมาณ 400 กว่าบาท ร้านก็ไม่ติดใจเอาความอะไร ส่วนกรณีนี้ถ้ากลับมาจ่ายเงินร้านก็ยินดีเจรจาด้วย