ตำรวจอุดรฯ ปิดป่าล่าระทึก รวบ 4 แก๊งเงินกู้ จับพี่สาว เรียกค่าไถ่ แค้นน้องสาวกู้เงิน 6 ปี ไม่ยอมส่งเงินคืน ขณะที่เหยื่อถูกทำร้ายสาหัส เป็นตายเท่ากัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงค่ำวันที่ 9 ก.ย. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.รัฐพล ชัยเพ็ญสงคราม ผกก.สภ.ไชยวาน พร้อมตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 4 ชุดสืบสวนภุธร จ.อุดรธานี ควบคุมตัว 4 ผู้ต้องหาแก๊งเงินกู้ หลังก่อเหตุจับกุม น.ส.ศศิธร สิงห์ขรณ์ หรือ ติ๋ม อายุ 53 ปี ชาวบ้านบ้านเพียปู่ หมู่ 9 ต.ไชยวาน อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี ไปเรียกค่าไถ่แทนน้องสาวที่กู้เงินไป 200,000 บาท เมื่อปี 61 ยังไม่ใช้หนี้
โดยเหตุการณ์บุกจับตัวนางติ๋มเรียกค่าไถ่ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 8 ก.ย. 67 โดย 4 แก๊งเงินกู้ได้บุกเข้าไปจับตัวนางติ๋มที่บ้านพัก จากนั้นนำตัวขึ้นรถกระบะแล้วหลบหนีไป เพื่อเรียกค่าไถ่ แต่ก็ไม่รอดถูกตำรวจจับกุมตัวได้ทั้งหมด 4 ราย
ประกอบด้วย นายบรรพจ ฤทธิ์มหา หรือ เสี่ยโก่ย ตัวการวางแผนจับนางติ๋มเรียกค่าไถ่ น.ส.จิรปรียา ภาคผิน นายฤทธิชัย ไตรทิพย์ และนายพะเยาว์ โมคำ โดยตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่หลายหน่วยกว่า 30 นาย พร้อมอาวุธปืนครบมือได้วางแผนจนรู้พิกัดจึงบุกเข้าช่วยตัวประกันคือนางติ๋มได้ที่ห้างนาในป่า ใกล้วัดถ้ำสายบาตร ต.หนองกุงทับม้า อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี
โดยทั้ง 4 คน จนมุม พร้อมกับยึดรถของกลางรถยนต์ อาวุธปืน ส่วนนางติ๋มเหยื่อที่ถูกจับไปเรียกค่าไถ่ถูกทำร้ายร่างกายร่างกายด้วยด้ามปืนมีอาการสาหัส ตอนนี้ส่งตัวไปรักษาตัวต่อจาก รพ.วังสามหมอไปยัง รพ.กุมภวาปี
นางแดง สิงห์ขรณ์ อายุ 79 ปี แม่ของนางติ๋ม เปิดเผยว่า เมื่อวันอาทิตย์ตนเองไปวัดถวายเพลพระอยู่ หลานชายวิ่งหน้าตื่นไปหาบอกว่าให้กลับบ้าน มีตำรวจอยู่บ้านเราเยอะเลย ตนก็สงสัยทำไมตำรวจมาบ้านเยอะจัง ก็นึกได้ว่าเมื่อ 3 วันก่อนมีคนมาทวงหนี้จากนางติ๋ม ลูกสาวคนโตยาย ทั้งที่ลูกสาวคนโตไม่ได้เป็นคนกู้เงิน แต่เป็นลูกสาวคนเล็กคือ น.ส.ชบาทิพย์ ที่ทำงานตุรกี ไปกู้เงิน 200,000 บาท เมื่อปี 61 แต่จู่ๆ เจ้าหนี้ดันมาจับคนที่ไม่รู้เรื่องไป พอเขาจับไปก็บอกว่าให้หาเงินมาไถ่ตัว 170,000 บาท ตนก็ไม่รู้จะเอามาจากไหน เขาโทรมาหาบอกว่าขอก่อน 30,000 บาท ก็ยังไม่มีเงินอีก จึงตัดสินใจปรึกษาญาติๆ พามากันแจ้งความ เพื่อให้ตำรวจตามให้ ขอขอบคุณตำรวจทุกท่านที่ติดตามลูกสาวมาได้ แต่นางติ๋มลูกสาวคนโตถูกทำร้ายร่างกายตอนนี้บาดเจ็บหนักเลย
นางแดง บอกอีกว่า รู้ข่าวว่านางติ๋มลูกสาวคนโตถูกจับเรียกค่าไถ่เกือบเป็นลมตายในวัด ตกใจเคยเห็นแต่ในข่าว ไม่คิดว่าจะเกิดกับครอบครัวตัวเอง สงสารลูกสาวคนโตมากเพิ่งมาจากกรุงเทพฯ มาเลี้ยงหลานน้อยที่บ้าน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องกู้เงิน แต่มาถูกจับตัวไปเรียกค่าไถ่ และถูกทำร้ายบาดเจ็บด้วย
ด้านนายพิชิต ภารสมบูรณ์ อายุ 48 ปี สามีนางชบาทิพย์ บอกว่า เมื่อตนรู้ข่าวว่าพี่สาวถูกจับเป็นตัวประกัน ก็รีบขี่รถจักรยานยนต์จากกรุงเทพฯ มาถึงบ้านไชยวานเมื่อเช้า ก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าเมื่อปี 61 ตนและภรรยาไปกู้เงิน 200,000 บาท จากเสี่ยเดือน คน อ.วังสามหมอมาใช้หนี้ ธกส. บังเอิญว่าเสี่ยเดือนเคยรู้จักกัน ไม่คิดดอกเบี้ย แต่ภายหลังเสี่ยเดือนถูกจับเรื่องคดียาเสพติด นายโก่ยซึ่งเป็นนายหน้าก็เลยมาทวงเงินแทน
ส่วนตัวตนอยากจะใช้หนี้กับเสี่ยเดือนมากกว่า แต่เสี่ยโก่ยกลับมาทวง ตนก็ไม่กล้าใช้ เพราะกลัวจะเป็นการใช้หนี้ทั้ง 2 ฝ่ายจะเป็นเงิน 400,000 บาท พอภรรยาไม่อยู่ไปทำงานอยู่ประเทศตุรกี แต่นายโก่ยก็พยายามมาทวงกับนางติ๋ม พอไม่ได้เงินจึงจับตัวไปเรียกค่าไถ่ สงสารพี่สาว รู้ข่าวถูกจับไปเรียกค่าไถ่น้ำตาก็จะไหลเหมือนกัน เพราะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย ส่วนเรื่องคดีก็ให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายแล้วกัน
ด้าน พ.ต.อ.รัฐพล ชัยเพ็ญ สงครามผกก.สภ.ไชยวาน เปิดเผยว่า คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อมีคนร้ายบุกเข้ามาอุ้มนางติ๋มขึ้นรถกระบะจากบ้านเพียปู่ จากนั้นได้ติดต่อมาทางนางแดงแม่นางติ๋มบอกว่าให้นำเงิน 170,000 บาทมาไถ่ลูกสาวคืนคืนภายใน 1 ชม. โดยมีเสี่ยโก่ยมีหัวโจก
ส่วนนางแดงแม่ของนางติ๋มก็ต่อรองเหลือ 30,000 บาท และให้เอานางติ๋มไปไว้ที่บ้านนางบุตร แม่นายเสี่ยโก่ย ตำรวจจึงได้วางแผนเข้าจับกุม จัดชุดไล่ล่า โดยตำรวจหลายหน่วย เราไล่ล่าจากลำพันชาด อ.วังสามหมอ ไปเรื่อยๆ สุดท้ายจับกุมตัวได้ป่าใกล้กับวัดถ้ำสายบาตร ต.หนองกุงทับมา ใช้เวลาไม่ถึง 28 ชม.
แต่ที่น่าเป็นห่วงคือตอนนี้นางติ๋มตัวประกันที่ถูกแก๊งเสี่ยเงินกู้จับไปมีอาการบาดเจ็บสาหัสเลือดคลั่งในสมอง สาเหตุเกิดจากแก๊งเงินกู้มาทวงหนี้ มาทวงทีไรก็ไม่ได้ จึงมาอุ้มพี่สาวคนกู้ไปเรียกค่าไถ่ อย่างไรก็ตามตำรวจได้ดำเนินคดีทั้ง 4 คนในข้อหา “ร่วมกันจับตัวเรียกค่าไถ่” ตามกฎหมายต่อไป