กรณี ร.ต.ท.สุขสันต์ ปัสสาวะกัง ร้อยเวร สภ.เมืองอ่างทอง รับแจ้งว่าพระสุริยา แวดรัมย์ อายุ 22 ปี และพระอาจารย์เปรมฤทัย สีลสาโร อายุ 39 ปี เจ้าอาวาสแห่งหนึ่ง ถูกฟ้าผ่าขณะออกไปต่อท่อสปริงเกอร์รดน้ำที่กลางทุ่งนา หลังสำนักสงฆ์เนื้อนาบุญ หมู่ 4 ต.หัวไผ่ อ.เมือง จ.อ่างทอง
โดยพระสุริยาเสียชีวิตคาที่เพราะถูกฟ้าผ่าจนกระโหลกแตก ส่วนพระเปรมฤทัยถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเหตุเกิดจากฝนตกหน้าและฟ้าผ่าโทรศัพท์มือถือ เนื่องจากในที่เกิดเหตุพบโทรศัพท์มือถือของพระเปรมฤทัย แตกกระจายเป็นชิ้น ๆ จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
ล่าสุด วันที่ 15 มี.ค. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุพบเป็นทุ่งนากว้างประมาณ 3 ไร่ ใช้ปลูกหญ้าเลี้ยงม้า 15 ตัว ห่างจากสำนักสงฆ์เนื้อนาบุญ ประมาณ 1 กม. เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุยังพบหน้ากากผ้าปิดปากและสายชาร์จแบตสำรองของพระเปรมฤทัย หล่นอยู่ในจุดเกิดเหตุใกล้กับคูน้ำและขาตั้งสปริงเกอร์ ซึ่งพระลูกวัด ให้ข้อมูลว่า โดยตั้งข้อสันนิษฐาน 2 ประเด็น ได้แก่ มีคนโทรศัพท์หาพระเปรมฤทัยขณะฝนตก จากนั้นรับสายทำให้ฟ้าผ่าลงที่โทรศัพท์ ส่วนอีกประเด็น คือ พระสุริยานั่งจับขาตั้งสปริงเกอร์ ขณะที่ฝนตกหนักเพื่อติดตั้งสปริงเกอร์รดน้ำหญ้า และฟ้าผ่าลงที่ขาตั้งซึ่งทำจากเหล็ก ทำให้พระสุริยามีแผลเหวอะเห็นสมองที่กลางศีรษะ ส่วนพระเปรมฤทัยแค่ถูกแรงอัดจากฟ้าผ่าเท่านั้น
พระอุเทน ชนะชัย อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นผู้พบศพเป็นคนแรก เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 มี.ค. เวลาประมาณ 17.00 น. พระสุริยา ออกไปติดตั้งสปริงเกอร์รดน้ำที่แปลงนาเพียงคนเดียว หลังจากนั้นพระเปรมฤทัย (เจ้าอาวาส) ได้ขับรถไถตามไปเพื่อไปช่วยติดตั้งสปริงเกอร์รดน้ำ ขณะเดียวกันหลังจากพระทั้งคู่ออกไป ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนักและมีฟ้าผ่า ซึ่งตนได้ยินเสียงฟ้าผ่าหนัก ๆ จำนวน 2 ครั้ง แต่ก็ไม่คิดอะไร
กระทั่งเวลา 20.00 น. เห็นว่าพระทั้ง 2 รูป ยังไม่กลับมา จึงได้ขับรถไถติดตามไปยังแปลงนาพบพระสุริยา นอนตัวแข็งตะแคงหน้าคล้ำในคูน้ำ แขนขวาตั้งชูขึ้น ศีรษะมีแผลเหวอะฉีกขาดจนเห็นสมอง คาดว่าถูกฟ้าผ่า ส่วนพระเปรมฤทัย นอนหมดสติห่างจากพระสุริยา ประมาณ 2 เมตร ศีรษะแตก แต่ร่างกายยังนิ่มและมีชีพจร จึงแจ้งกู้ภัยฯ นำตัวส่งโรงพยาบาลเร่งด่วน แต่ระหว่างทางเสียชีวิตในเวลาต่อมา
พระอุเทน กล่าวต่อว่า ตนไม่แน่ใจว่าสาเหตุที่ฟ้าผ่าเกิดจากโทรศัพท์ที่พระเปรมฤทัย พกติดตัวเป็นชนวนสายฟ้าหรือไม่ เพราะขณะที่ตนไปพบศพนั้น เห็นโทรศัพท์แตกกระจัดกระจาย หรือฟ้าผ่าขาตั้งเหล็กที่ใช้ค้ำยันสปริงเกอร์ แต่ตามหลักแล้วหากอยู่ที่โล่งแจ้งก็มีโอกาสที่จะถูกฟ้าผ่าได้ ตนคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากอาถรรพ์ใด ๆ เพราะพระเปรมฤทัย เป็นคนปฏิบัติดี มีลูกศิษย์มากมาย แต่เรื่องน่าจะเกิดจากธรรมชาติที่ร่างกายมนุษย์เป็นตัวนำกระแสไฟฟ้ามากกว่า
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาพระเปรมฤทัย จะสอนนั่งวิปัสสนาพื้นฐานให้กับลูกศิษย์ ส่วนเรื่องตาทิพย์นั้นพระเปรมฤทัยเคยพูดกับลูกศิษย์ว่า คนที่อยากเห็นจะต้องให้สัจจะว่าขอบวชตลอดชีวิต จึงจะยอมแสดงให้เห็นอิทธิฤทธิ์ ตนจึงไม่ทราบว่าพระเปรมฤทัย มีตาทิพย์จริงหรือไม่ เพราะไม่เคยเห็น นอกจากนี้เมื่อหลายปีก่อน พระเปรมฤทัย ยังเคยสอนวิชาที่สามารถมองเห็นสีในขณะหลับตาได้ เช่น นำวัตถุไปไว้หลังเด็ก แล้วให้เด็กปิดตา เด็กสามารถบอกสีที่ถูกต้อง บางคนก็ถึงกับปิดตาเล่นเกม ซึ่งก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น
บรรยากาศภายในงานศพของพระเปรมฤทัย สีลสาโร ถูกจัดขึ้นที่สำนักสงฆ์เนื้อนาบุญ หมู่ 4 ต.หัวไผ่ อ.เมือง จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ลูกศิษย์พร้อมใจกันเดินทางมาร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมศพของพระเปรมฤทัย
นางเข็มทอง โอสภา อายุ 81 ปี แม่ของพระเปรมฤทัย ที่เดินทางมาจาก จ.พิจิต ยังอยู่ในอาการโศกเศร้า กล่าวว่า พระเปรมฤทัย เริ่มบวชตั้งแต่อายุ 26 ปี จนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 13 พรรษา ซึ่งตลอด 10 ปี ได้พัฒนาสำนักสงฆ์อยู่เสมอ จึงมีลูกศิษย์มากมาย เนื่องจากเชื่อว่าพระเปรมฤทัยมีตาทิพย์ แต่ตนก็ไม่ทราบรายละเอียดเท่าไหร่นัก เพราะไม่เคยเห็นกับตาตัวเอง
นางเข็มทอง กล่าวต่อว่า ขณะที่พระเปรมฤทัยเสียชีวิตนั้น มีแม่ชีที่วัดโทรศัพท์ไปหาตนและบอกว่าพระเปรมฤทัยเป็นลมเสียชีวิต ไม่ยอมบอกความจริงตั้งแต่แรก เพราะกลัวตนจะรับไม่ได้ และตอนแรกตนก็ไม่เชื่อ ทั้งนี้ก่อนหน้าประมาณ 1 เดือนตนไม่ได้ติดต่อมาหาพระเปรมฤทัย และไม่มีลางสังหรณ์หรือฝันแต่อย่างใด ซึ่งตนคิดว่าคงไม่เกี่ยวกับอาถรรพ์ แต่คาดว่าบริเวณใต้ดินของทุ่งนา อาจมีแร่ธาตุอยู่จำนวนมาก ทำให้ฟ้าผ่าลงมาบริเวณจุดเกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม ตนขอฝากเป็นอุทาหรณ์ว่าไม่ควรพกโทรศัพท์มือถือออกไปกลางฝน หรือในที่โลงขณะฝนตก เพราะอาจจะเป็นตัวล่อสายฟ้าและเสี่ยงถูกฟ้าผ่าได้
นายสุบิน แวดรัมย์ อายุ 55 ปี พ่อของพระสุริยา เดินทางมาจาก จ.กำแพงเพชร เพื่อเคลื่อนย้ายศพของพระสุริยา ไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบึงกอก อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร โดยนายสุบิน ยังอยู่ในอาการโศกเศร้าและร้องไห้ตลอดเวลา กล่าวว่า พระสุริยาบวรเป็นเณรตั้งแต่อายุ 15 ปี เพราะสนใจพระธรรมตั้งแต่เด็ก ๆ และติดตามพระเปรมฤทัย มาประมาณ 3 ปี เนื่องจากเป็นผู้ส่งเสียให้เรียนหนังสือ ซึ่งตนก็ภูมิใจในตัวพระสุริยา เป็นอย่างมาก
นายสุบิน กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนรู้สึกเสียใจที่ลูกเสียชีวิต เพราะพระสุริยาเป็นเหมือนดวงใจของตน การสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่นี้ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร นาทีที่รู้ข่าวตนก็ทำอะไรไม่ถูก ตอนแรกไม่เชื่อกระทั่งผู้ที่โทรศัทพ์ไปแจ้งข่าวพูดย้ำจนเชื่อ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่มีลางสังหรณ์แม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม ตนไม่เชื่อว่าจะเสียชีวิตเพราะเรื่องอาถรรพ์ เนื่องจากพระสุริยาไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับอะไร ฝักใฝ่เพียงแต่เรื่องธรรมมะ แต่ตนเชื่อว่าพระทั้งคู่น่าจะหมดกรรมพร้อมกัน จึงได้เสียชีวิตในวันเดียวกัน ตนเชื่อว่าพระเปรมฤทัย ก็คงปกป้องพระสุริยา จนชีวิตหาไม่เหมือนกัน