เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 14 มี.ค. 63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าข้าม รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิต ภายในตลาด ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ซึ่งบริเวณลานจอดรถหลังตลาด พบศพ นายธนบดี สารสุวรรณ อายุ 23 ปี ชาว จ.สุพรรณบุรี สภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อยืดสีเทา นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าผ้าใบสีดำ มีบาดแผลถูกอาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงเข้าที่บริเวณท้ายทอย กระสุนฝังศรีษะ ส่วนอีกนัดถูกยิงเข้าที่บริเวณสีข้างซ้าย กระสุนทะลุแผ่นหลัง เสียชีวิต เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง จึงนำศพไปตรวจสอบที่นิติเวช รพ.ศิริราช
จากการสอบปากคำเพื่อนของนายธนบดี ทราบว่าก่อนหน้าที่นายธนบดี กับเพื่อนได้นั่งดื่มสุรา ที่ร้านภายในตลาด แล้วมีเหตุกระทบกระทั่งกับวัยรุ่นโต๊ะข้าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องผู้หญิง แต่การ์ดของทางร้านเข้ามาห้ามไว้ แต่การ์ดก็ถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บ จนเหตุการณ์สงบลงก่อนจะแยกย้ายกันไป
แต่ปรากกฏว่ากลุ่มการ์ดที่คุมร้านไม่พอใจ คาดว่าอาจเป็นเพราะมีการ์ดถูกลูกหลง จึงเดินตามออกมายังลานจอดรถ พบกับกลุ่มของนายธนบดี แต่ทันใดทันก็มีเสียงปืนดังขึ้น 2-3 นัด ทำให้นายธนบดี ล้มลงและเสียชีวิตทันที หลังจากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ขับรถเก๋ง ฮอนด้าแจ๊ส สีเทา ไม่ทราบทะเบียน และรถกระบะ ไม่ทราบรุ่น สี และทะเบียน เร่งเครื่องหนีไปอย่างรวดเร็ว
ล่าสุดวันที่ 15 มี.ค. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ ได้พบกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต เดินทางมาทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณ ทีมข่าวจึงเข้าไปพูดคุยสอบถามถึงสาเหตุที่คาดว่าจะเป็นเบาะแสที่สามารถนำไปสู่การจับตัวคนร้ายได้
โดยนายขันที สารสุวรรณ พ่อผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ลูกชายของตนเพิ่งจะย้ายเข้ามาทำงานที่ร้านกลึงเหล็ก ซึ่งเป็นร้านของน้องสาวตน และมีศักดิ์เป็นอาของผู้เสีชีวิต ได้เพียง 1-2 สัปดาห์ ปกติลูกชายเป็นคนอารมณ์ดี เฮฮา และที่ผ่านมาไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาท หรือมีปัญหากับใคร กระทั่งคืนเกิดเหตุตนได้รับโทรศัพท์จากน้องสาวว่า ลูกชายเสียชีวิต ก็รู้สึกตกใจ ไม่คาดคิดว่าลูกชายจะมาจบชีวิตดังกล่าว ทั้งนี้ตนเชื่อว่าลูกชายอาจถูกลูกหลงจากการทะเลาะวิวาทของวัยรุ่นในพื้นที่
หลังจากนั้นทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางไปที่ สน.ท่าข้าม ได้พบกับนายคิว (นามสมมติ) ซึ่งเป็นเจ้าของตลาด เดินทางมาพร้อมการ์ดเพื่อเข้าพบตำรวจ โดยนายคิว ให้ข้อมูลว่า วันนี้ตนพาการ์ดในที่เหตุมาแสดงความบริสุทธิ์ และยินดีที่จะให้ข้อมูลกับตำรวจในทุกเรื่อง ซึ่งตนสามารถยืนยันได้ว่าการ์ดของตลาดไม่ใช่ผู้ก่อเหตุ เพราะทุกวันก่อนเริ่มงานมีกฎว่าห้ามการ์ดพกพาอาวุธทุกชนิด จะมีเพียงไม้กระบองเท่านั้น ส่วนเหตุทะเลาะวิวาทที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ใช่ครั้งแรก เพราะเมื่อวันก่อนวัยรุ่นฝั่งผู้เสียชีวิต ได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายคนในตลาด ส่วนเมื่อคืนที่ผ่านมา วัยรุ่นกลุ่มนี้ก็ยังมาสร้างเรื่องทะเลาะวิวาทในตลาด 3-4 ครั้ง ซึ่งการ์ดได้เข้าไปห้าม และแยกทั้ง 2 ฝ่ายออก ก่อนจะผลักดันให้ออกนอกพื้นที่ตลาด แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุยิงกันจนเสียชีวิตดังกล่าว
ทีมข่าวเดินทางมาพบกับ นายตี๋ (นามสมมติ) เพื่อนของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ในคืนเกิดเหตุนั้นตนได้ไปนั่งร่วมวงในร้านเหล้าด้วย แต่ได้ปลีกตัวออกมาจากร้านเหล้าก่อน แต่นายธนบดี และเพื่อน ๆ รวมประมาณ 7 คน ยังนั่งอยู่ในร้านเหล้า และได้ทะเลาะกับโต๊ะข้าง ๆ แต่ไม่บานปลาย การ์ดจึงมาช่วยแยก ซึ่งช่วงที่เพื่อนของตนเดินออกจากตลาด ก็มีกลุ่มชายชุดดำเดินตามออกมาด้วย แต่ตนไม่อยากระบุว่าเป็นใคร และไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของกลุ่มชายชุดดำที่เดินตามมานั้นต้องการอะไร แต่หลังจากนั้นไม่นาน ตนก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3-4 นัด และเพื่อนของตนก็ถูกยิงเสียชีวิต
นายตี๋ กล่าวต่อว่า ตนยอมรับว่าไม่ได้อยู่ในทุกช่วงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ได้เข้าไปอีกรอบหลังจากเพื่อนถูกยิงเสียชีวิตแล้ว และได้รับฟังเรื่องจากเพื่อนอีกคนที่เป็นญาติและอยู่กับผู้เสียชีวิต ซึ่งขณะนี้เดินทางไปงานศพที่ จ.สุพรรณบุรี อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ตำรวจตามจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะไม่อยากให้เพื่อนเสียชีวิตฟรี ๆ
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าข้าม เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้สอบปากคำทีมการ์ดของตลาดฯ และตรวจคราบเขม่าดินปืน ซึ่งทุกคนให้ความร่วมมือ และทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว หลังจากนี้จะได้ออกหมายจับผู้ก่อเหตุต่อไป ส่วนบรรยากาศตลาดฯ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เป็นไปด้วยความเงียบเหงา เนื่องจากมีฝนตกตลอดทั้งวัน อีกทั้งมีประเด็นไวรัสโควิส-19 ทำให้ร้านค้าส่วนใหญ่ปิดเงียบ