24 กันยายน วันมหิดล เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขของไทย
ขอเชิญชวนร่วมทำบุญใหญ่ประจำปีกับโรงพยาบาลศิริราช เนื่องใน วันมหิดล เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อผู้ป่วยด้อยโอกาสโรงพยาบาลศิริราช
ช่องทางการบริจาคมีดังนี้
1️. บริจาคออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.sirirajfoundation.org/th/campaign/d111111/
- บริจาคตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป จะได้รับธงผืนเป็นที่ระลึก และสามารถขอรับใบเสร็จรับเงินบริจาคเพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้ (บริจาคตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รับธงผืนเป็นที่ระลึกหรือจนกว่าธงผืนจะหมด)
หมายเหตุ: หากต้องการรับเฉพาะธงผืนเป็นที่ระลึก ให้กดเลือก "รับใบเสร็จ" ที่ช่องข้อมูลผู้บริจาคเช่นเดียวกัน เนื่องจากธงผืนจะถูกจัดส่งพร้อมใบเสร็จรับเงินเท่านั้น
2️. บริจาคด้วยตนเองที่ศิริราชมูลนิธิ
- บริจาคตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป จะได้รับธงผืนเป็นที่ระลึก และสามารถขอรับใบเสร็จรับเงินบริจาคเพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้
3. บริจาคผ่านกล่องบริจาคที่ทุกหน่วยตรวจโรค โรงพยาบาลศิริราช
- บริจาคตั้งแต่ 20 บาทขึ้นไป ได้รับธงผืนเป็นที่ระลึก
- บริจาคตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไป ได้รับธงผืนพร้อมเสาเป็นที่ระลึก
หมายเหตุ: ไม่สามารถขอใบเสร็จรับเงินบริจาคเพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้
4. บริจาคผ่านนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล ที่จะร่วมออกรับบริจาคไปตามสถานที่ต่างๆ
- บริจาคตั้งแต่ 20 บาทขึ้นไป ได้รับธงผืนเป็นที่ระลึก
- บริจาคตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไป ได้รับธงผืนพร้อมเสาเป็นที่ระลึก
หมายเหตุ: ไม่สามารถขอใบเสร็จรับเงินบริจาคเพื่อลดหย่อนภาษีเงินได้
สอบถามการบริจาคเพิ่มเติมได้ที่ ศิริราชมูลนิธิ โทร. 02 419 7658-60 , 02 414 1414 วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.30-17.30 น. วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30-16.30 น.
ประวัติวันมหิดล
วันที่ 24 กันยายน ของทุกปี หรือ วันมหิดล ถือเป็นวันคล้ายวันสวรรคต ของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรมพระบรมราชชนก (สมเด็จฯ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์) พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขของไทย ซึ่งคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ประกาศให้วัน ที่ 24 กันยายน ของทุกปี เป็น วันมหิดล ตั้งแต่ปี พ.ศ.2494 เป็นต้นมา
ซึ่งในวันนี้ได้มีเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก จากพระราชกรณียกิจที่ได้ทรงบำเพ็ญแก่วงการแพทย์ และการสาธารณสุข ของประเทศไทยตลอดระยะเวลา 12 ปี ได้เสริมสร้างความเป็นปึกแผ่นให้แก่โรงเรียนแพทย์ และมีการพัฒนาการเรียนการสอนตลอดจนการผลิตแพทย์ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นการวางรากฐานแก่การแพทย์ และการสาธารณสุขให้เจริญพัฒนาก้าวหน้าทัดเทียมอารยะประเทศ